บทนำ
“แฮ่ก แฮ่ก แฮ่ก”
ลมหายใจหนักหน่วงจนแม้พยายามสูดลมหายใจให้ลึกและถี่ขึ้นแล้ว แต่ก็ยังไม่ได้ทำให้อาการในขณะนี้ดีขึ้นมาบ้างเลยสักนิด
ตึ่กๆ ตึ่กๆ
ได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองเต้นรัวแรง มันบีบรัดเพื่อพยายามสูบฉีดโลหิตในกายให้เร่งเคลื่อนตัวไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆ อย่างเต็มกำลังจนเจ้าตัวรู้สึกเจ็บหน้าอก
แม้จะเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัส แต่หญิงสาวรู้ดีว่าจะหยุดวิ่งไม่ได้ น่องปวดตึงจนแทบกลายเป็นไร้ความรู้สึก แต่มันก็ยังคงพาร่างกายให้ไปต่ออย่างเต็มกำลัง สายตาตื่นตระหนกสอดส่ายไปทั่วอย่างหวาดระแวงตลอดเวลา
ไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ เธอเพิ่งเรียกแท็กซี่ให้มาส่งยังโรงแรมที่ได้นัดหมายกับลูกค้าเอาไว้ แต่พอรถเจ้ากรรมมาถึงปากทางเข้า คนขับกลับไม่ยอมไปต่อโดยอ้างว่าทางสายนี้เปลี่ยวเกินไป เขากลัวว่าเธอจะเป็นนกต่อล่อเขาไปชิงทรัพย์
เธอจึงจำต้องลงจากรถมาพร้อมด้วยอาการหัวเสีย ด่าตามหลังแท๊กซี่คันนั้นไปเท่าที่แรงแห่งโทสะจะคิดคำพูดออกมาได้ทัน จนกระทั่งยานพาหนะกลืนหายไปในความมืดบนทางเส้นเดิมที่มันเพิ่งผ่านมา
หน้าตาที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินผิวจนหนาเข้ม ชุดผ้ายืดสีสดรัดรูป และรองเท้าส้นเข็มสูงหลายนิ้ว ทำให้เธอออกจะดูอยู่ผิดที่ผิดทางเมื่อเทียบกับบรรยากาศสองข้างทางที่รกไปด้วยหญ้าคาสูงท่วมหัว
“บ้าเอ๊ย โรงแรมมีตั้งเยอะแยะเต็มบ้านเต็มเมืองไม่เอา ดันมานัดที่โรงแรมนี้ได้ ไกลก็ไกล ไหนจะเปลี่ยวแสนเปลี่ยวอีก ทางเข้ายังน่ากลัวขนาดนี้ ไม่ใช่ว่าเป็นโรงแรมร้างนะ”
เมื่อปราศจากไฟหน้ารถและเสียงเครื่องยนต์แล้ว เธอก็รู้สึกตัวว่าถนนเส้นนี้น่ากลัวอย่างที่คนขับแท๊กซี่บอกจริงๆ ไฟข้างทางติดๆ ดับๆ ตลอดถนนสายเปลี่ยว แทนที่จะรู้สึกอุ่นใจมันกลับทำให้ดูน่ากลัวยิ่งขึ้นไปอีก
ลังเลหน่อยหนึ่งว่าจะไปต่อดีหรือไม่ ก่อนภาพเงินก้อนโตในอากาศจะลอยมาหยุดอยู่ตรงหน้า จึงตัดสินใจก้าวเดินต่อไปยังจุดหมาย
ทั้งๆ ที่อากาศออกจะอบอ้าวนิดๆ แต่กลับรู้สึกว่ามีลมเย็นเยือกพัดผ่านต้นคอ หญ้าสูงทั้งสองข้างไหวไปมาเป็นระลอกคลื่นสร้างเสียงประหลาดชวนขนหัวลุก
พั่บๆๆๆ
แกว๊ก แกว๊ก
เสียงกระพือปีก เสียงร้อง ของนกกลางคืนที่จู่ๆ ก็ดังขึ้นชวนให้ประสาทเสีย แสงไฟจากโรงแรมอยู่ไกลลิบๆ เธอเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นอีก นี่เพราะความจำเป็นเรื่องเงินทองขาดมือทีเดียว จึงต้องจำยอมมาตามโทรศัพท์นัดแนะของลูกค้ากระเป๋าหนักรายนี้
แซ่กๆ แซ่กๆ
เสียงผิดปกติบางอย่างดังขึ้นในดงหญ้าคาทางซ้ายมือ ฟังคล้ายเสียงเหยียบหญ้าแห้ง พอจะลองตั้งใจเงี่ยหูฟัง เสียงนั้นก็กลับเปลี่ยนไปดังทางด้านขวาแทน ครั้นหยุดเดินเสียงประหลาดก็หยุด พอลองเดินต่ออีกสองสามก้าวเจ้าเสียงประหลาดนั้นก็ดังขึ้นตาม
สังหรณ์ว่าอันตรายกำลังจะมาเยือน หญิงสาวไม่รีรอที่จะออกวิ่งทันที แต่เสียงเจ้ากรรมเคลื่อนที่ตามมากระชั้นชิด เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกหายใจรดต้นคออยู่ตลอดเวลา แสงสีส้มมัวๆ อยู่อีกไม่ไกลแล้ว
ถ้าไปถึงที่นั่นได้ก็จะรอด...อีกไม่กี่เมตรเท่านั้น ชั่วขณะที่คิดแบบนั้น เธอรู้สึกคลายใจและลดความระมัดระวังลงไป ฉับพลันนั้น มือแข็งแกร่งก็โผล่พรวดออกมาจากในความมืด มันตะปบลงบนหัวของเธออย่างแม่นยำ ก่อนที่ร่างทั้งร่างจะถูกดึงปลิวเข้าไปในพงหญ้าข้างทาง
คืนนี้จันทร์เต็มดวง ฟ้าใสกระจ่างจนเห็นหมู่ดาวชัดเจน ร่างของเธอถูกคร่อมโดยอีกเงาร่างหนึ่งซึ่งทรงพลังเหนือกว่า หน้าอกของเธอกระเพื่อมขึ้นลงรุนแรงเพราะเหนื่อยหนักและหวาดกลัว
แม้ยามราตรีจะทำให้มองเห็นได้ไม่ถนัดนัก แต่เธอก็รับรู้ได้ว่ามันกำลังพอใจ รอยยิ้มแสยะกว้างตรงหน้านั้นน่าพรั่นพรึงที่สุดเท่าที่เคยเห็นมาในชีวิต ร่างกายหนาวเยือกขึ้นทันใด มือไม้แข็งจนไม่อาจควบคุม ความหวาดกลัวฉาบฉายอยู่เต็มใบหน้า น้ำตาของหญิงเคราะห์ร้ายไหลออกมาอย่างยอมจำนน