บทนำ
สายฝนโปรยปลายลงมา อย่างหนักในช่วงเวลาเร่งด่วนหลังเลิกงานบางคนก็เลิกเรียน ดูวุ่นวายตามป้ายรถเมล์ แน่นขนัดไปด้วยผู้คนที่พยายามเบียดเสียดหลบสายฝนที่เทกระหน่ำอย่างหนัก หนึ่งในนั่นก็มาร่างเล็กๆในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสามส่วนที่แขนมีถุงผ้าที่ใส่ผัก
และเครื่องครัวทำมือเย็น ของวันนี้ ด้วยร่างที่เล็กบางจึงถูกเบียดแทรกจนร่างของหญิงสาวนามธัญสินี มิรินทรา หญิงสาววัย19ปี ในที่สุดเธอก็เปียกซกไปทั้งร่าง แต่ก็ต้องอดทนสายตาพยายามมองฝ่าสายฝนเพื่อจะดูว่ารถสายที่จะขึ้นโดยสารมาหรือยัง...
ปี๊ดๆๆ...
เสียงแตรรถดังถี่ๆจนทุกคนหันไปมองธัญสินีก็เป็นหนึ่งในนั้น แล้วหญิงสาวก็เห็นรถยี่ห้อหรูสีตะกั่วคันโตจอดเทียบฟุตบาทเลยป้ายรถเมล์ไปเล็กน้อย แล้วสาวน้อยก็ให้ตกใจยิ่งนักที่จู่ๆก็มีผู้ชายแต่งกายเนี๊ยบกริบเปิดประตูรถด้านหลังแล้วตรงดิ่งมาฉุดรังข้อมือน้อยไปขึ้นรถกับเขาหน้าตาเฉย ธัญสินีเตรียมจะกระโจนลงจากรถอยู่แล้วหากไม่เห็นหญิงสูงวัยที่เธอรู้จักดีว่าเป็นแขกคนสำคัญของป้าสะใภ้เธอนั่นเอง จึงรีบยกมือไหว้แทนที่จะเปิดประตู
“สวัสดีค่ะคุณหญิง”
“ไหว้พระเถอะจ้ะ แล้วนี้ทำไมมาตากฝนมะลอกมะแลกอย่างนี่ล่ะไปไหนมาหรือหนู?”
น้ำเสียงแสนจะใจดีจนเด็กสาวที่ไม่เคยเจอคนพูดดีๆด้วยมานานขนาดไหนเอเองก็ลืมไปแล้ว อบอุ่นจัง ธัญสินีคิด และเพราะยังเด็กความคิดของเด็กสาวจึงสื่ออกมาทางสายตาว่าเธอปลื้มเพื่อน ของคุณป้า คนนี้มากกว่าทุกคนที่ธัญสินีรู้จัก ...
“มาซื้อกับข้าวมื้อเย็นนี้ค่ะ คุณป้าบอกว่าวันนี้จะมีแขกมาท่านมื้อค่ำด้วยนะคะคุณหญิง”
เด็กสาวตอบตามประสาซื่อๆ คุณหญิงเรณุกา ชอบเด็กคนนี้ เอามากๆ มากกว่าลูกสาวของลูกหนี้รายใหญ่ของเธอเสียอีก
“แล้วทำไมไม่ให้รถที่บ้านรุจีพามาล่ะหรือไม่ก็นั่งแท็กซี่ก็ได้นี้มารอรถเมล์กำลังฝนตกหนักขนาดนี้เดี๋ยวจะไม่สบายเอานะ”
“รถที่บ้านไม่ว่างค่ะคุณหญิง แล้ว เอ่อ...คุณป้าก็ให้เงินมาแค่ค่ารถเมล์นะคะท่าน” ตอบเสียงอ้อมแอ้มเบาๆ
คุณเรณุกาเพียงแค่รับฟังแล้วสายศีรษะน้อยๆอย่างไม่ชอบใจนัก
“ตัวเปียกขนาดนี้คงหนาวล่ะสิ ตาวิน ขอเสื้อสูทให้น้องหน่อยสิ ดูสิ เปียกโซกไปหมดเลยเหมือนลูกนกตกรังเชียวหนาวแย่ละสิเรา” น้ำเสียงนุ่มนวลเอ่ยบอกบุตรชายทันทีที่เห็น ธัญสินี ตัวสั่นอย่างห้ามไม่อยู่...
ร่างสูงที่นั่งนิ่งๆมาตลอดจึงขยับตัว ธัญสินีเลยเพิ่งนึกได้ว่าชายร่างสูงใหญ่หน้านิ่งนี่เป็นผู้ลงไปฉุดเธอขึ้นรถมานั่นเอง
“นี่ลูกชายคนโตฉันเองชื่อภวิน รู้จักกันไว้สิ ภวินนี่หนูธัญสินี หลานสาวคุณรุจี ที่เรากำลังจะไปทานมื้อค่ำนี่ล่ะลูก”
เด็กสาวรีบยกมือไหว้ชายหนุ่มที่คงจะอายุเยอะกว่าเธออยู่หลายปี...
ภวินรับไหว้เด็กสาวพร้อมมองสำรวจร่างเล็กๆของเด็กสาวเงียบๆดวงหน้าเล็กเรียวอาจจะเล็กเท่าฝ่ามือของเขาเสียด้วยซ้ำปากเล็กแดงระเรื่อตามธรรมชาติถึงจะผอมบางแต่สองแก้มนวลกลับอิ่มเต็มยามยิ้มมีรอยบุ๊มเห็นชัดแถมข้างซ้ายยังมีเขี้ยวเล็กอย่างน่ารักสรุปว่าเด็กคนนี้น่ารักกระจุ้มกระจิ้ม อย่างหาได้อยากในเด็กสาวสมัยนี้ที่ชอบแต่งเติมเสริมแต่งจนดูฉูดฉาดน่ากลัวมากกว่าสวย...
คุณหญิงเรณุกาแอบมองสายตาพึงใจของบุตรชายแล้วเธอก็ได้ข้อสรุปว่าวันนี้ตนจะสู่ขอใครไปเป็นสะใภ้คนโตของตนเองได้แล้ว...
บ้านศิลาทอง
เมื่อรถเอสยูวีคันหรูตีวงเข้ามาจอดเทียบหน้ามุกบ้านหลังใหญ่ที่เมื่อคราวลุงของธัญสินียังอยู่นั้นไม่ทรุดโทรมขนาดนี้และเฟอร์นิเจอร์ก็ไม่ถูกทยอยขายออกไปจนเตียนโล่งเหมือนดังเช่นตอนนี้ เมื่อรถจอดสนิทคนขับรถก็ลงมาเปิดประตูให้นายหญิงของเขา แล้วธัญสินีก็ก้าวตามลงมา ทำให้คนที่ยื่นรอรับ แขกคนพิเศษ ของบ้านถึงกับหน้างอฉับทันที แต่ก็ต้องรีบปรับสีหน้าให้ยิ้มแย้มยามหันมาเชื้อเชิญคุณหญิงเรณุกา และบุตรชายที่นางหมายตาไว้ว่าอาจจะได้เป็นลูกเขยของตนหากวันนี้ชายหนุ่มผู้นี้พึงใจบุตรสาวคนงามของตนเข้าละก็ไม่ใช่แค่หมดหนี้สินก้อนโตแต่ตนจะมีกินมีใช้สบายไปตลอดชีวิตเลยที่เดียว “สวัสดีค่ะคุณพี่เชิญข้างในบ้านเลยค่ะตรงนี้ละอองฝนมันสาดมาแรง อ้าวแล้วไปไงมาไงถึงมากับยายสินีได้ล่ะคะ?”
“พอดีฉันผ่านป้ายรถเมล์แล้วเห็นแม่หนูสินีกำลังยืนตากฝนคอยรถอยู่ก็เลยรับมาเสียด้วยกันนะรุจี”
“อ้อค่ะ เอ๊า!..เร่งไปทำอาหารสิแขกมาถึงบ้านแล้วเธอนี่จริงๆเลยฉันใช้ไปจ่ายตลาดก็เถลไถลเสียเกือบค่ำเชียวไปเร็วๆสิ!”
เสียงตอนท้ายที่รอดจากริมฝีปากแดงๆนั่นบอกถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก
ธัญสินีจึงรีบเร่งเข้าไปด้านหลังทั้งที่ร่างน้อยยังเปียกชื้นอยู่เลย คุณหญิงเรณุกามองด้วยสายตาไม่ชอบใจเท่าไหร่นัก หากตนไม่รู้ตื้นลึกหนาบางก็คงไม่คิดอะไรแต่นี้ตนดันรู้จักครอบครัวนี้มานานจนรู้ไส้รู้พุงหมดแล้วว่ารุจีนะเป็นแค่สะใภ้ที่แต่งเข้ามาและก็ย้ายมายึดบ้านของหลานสามีอย่างหน้าด้านๆตั้งแต่เด็กสาวยังไม่รู้ความด้วยซ้ำเพราะธัญสินีเสียพ่อแม่ไปตั้งแต่อายุได้ขวบกว่าๆและไม่มีญาติที่ไหนนอกจากพี่ชายพ่อบ้านตนเองแท้ๆ แต่กลับถูกเลี้ยงดูดังเด็กรับใช้ช่างเป็นป้าสะใภ้ในตำนานจริงๆ “นี่หนูกานต์ไหว้คุณป้าหญิงกับคุณพี่ภวินเสียสิลูก คุณพี่ค่ะนี่หนูกรกานต์ลูกสาวคนโตของจีเองค่ะ”
“ไหว้พระเถอะจ้ะหนูกานต์ ได้ข่าวว่าไปทำงานทางใต้ไม่ค่อยได้กลับบ้าน เป็นอย่างไรบ้างจ้ะหนูงานทางโน้นลำบากมากไหม?”
“ไม่หรอกค่ะกานต์ขอไปใช้ทุนที่โน้นเองชาวบ้านเขาเป็นมิตรที่ดีกับหมอและพยาบาลกันนะคะคุณหญิงป้า”
“โอ๊ย...หนูกานต์คนกันเองเรียกป้าเฉยๆก็พอจ้ะ แต่แหมไม่ค่อยได้เจอหนูเอาเสียเลยเจอแต่กิรณาเสียเป็นส่วนใหญ่ เอ...แล้ววันนี้เขาไม่อยู่หรือรุจี”
เมื่อถูกถามหาถึงบุตรสาวคนเล็กหน้าของคุณรุจีก็เปลี่ยนสีไปเล็กน้อย
“อ้อ...เอ่อ...ออกไปธุระให้ดิฉันนะคะคุณพี่คงจะติดฝนกระมั่งสักครู่คงมาถึงแน่ๆค่ะ”
ต้องพยามแก้ตัวและสร้างภาพให้คนที่ตนหมายมั่นปั้นมือจะให้เป็นสะใภ้ใหญ่ของท่านนายพลวันชัย คิรินทร์ และคุณหญิงเรณุกาให้ได้ ...
“อย่างนั้นกานต์ขอตัวไปช่วยน้องสินีก่อนนะคะ”
คุณรุจีหันขวับมาทำตาเขียวใส่ลูกสาวคนโตทันที นี่ก็อีกคน ถอดแบบบิดามาไม่มีผิด ชอบความเรียบง่ายแล้วก็รักนางเด็กนอกไส้นั่นมากกว่าน้องสาวแท้ๆอย่างกิรณาเสียอีก ไม่ได้ดังใจกันทั้งพ่อทั้งลูกนี่พ่อตายก็ยังมีตัวแทนอย่างกรกานต์คอยอุ้มโอ้ยายเด็กมารหัวขนนั่นจริงๆ เพราะความเห็นแก่ตัวและโลภโมโทสันจึงทำได้หญิงมากวัยลืมคิดไปว่าที่ตนมีบ้านหรูๆมีรถแพงๆขับก็มาจากมรดกของบิดามารดาเด็กสาวที่ตนเฝ้ารังเกียจเข้าตำราเกรียดตัวกินไข่เกรียดปลาไหลกินน้ำแกงแท้ๆเชียว...
“ให้มันเอ่อ...สินีเขาทำไปเถอะเราไปดูเด็กยกน้ำมาให้คุณป้ากับคุณพี่เขาดีกว่าดูสิแขกมาตั้งนานแล้วยายแต้วมันมัวทำอะไรอยู่ก็ไม่รู่...เอ่อต้องขอโทษคุณพี่กับคุณภวินด้วยนะคะ”
รีบขอโทษแขกคนสำคัญก่อนจะตวัดสายตามองลูกสาวคนโตเชิงบังคับกรายๆกรกานต์เลยถือโอกาสหลบหลีกสายตาอย่างกับเครื่องเอ๊กซเรย์ที่โรงพยาบาลก็ไม่ปานของผู้ชายหน้านิ่งคนนั้นเธอรู้แค่ว่าวันนี้เขาจะมาดูตัวน้องสาวเธอ แต่ไยต้องมาจ้องมองเธอแบบจับผิดกันด้วย กรกานต์อึดอัดเป็นอย่างมากและอันที่จริงหญิงสาวไม่ชอบสังคมปั้นหน้าของมารดาจึงเลือกจะมาช่วยเด็กสาวที่เธอรู้สึกทั้งสงสารและเอ็นดูธัญสินีอาจมากกว่ากิรณาเสียอีกรายนั้นถึงจะอายุมากกว่าธัญสินีแต่กลับไม่เอาโล้เอาพ่ายอะไรเสียเลยได้แต่แต่งตัวสวยเที่ยวเตร่ไม่เคยอยู่ติดบ้านเอาเสียเลยด้วยซ้ำ หากเป็นเธอ คงจะขอไปทำลูกสะใภ้อยู่หรอกนะ แต่เรื่องพวกนี้ไม่เกี่ยวกับเธอทั้งมารดาและกิรณาเป็นคนช่วยกันสร้างหนี้ก้อนโตขึ้นมาก็ให้รับผิดชอบกันไปเธอเองพอใจกับชีวิตพยาบาลที่ต่างจังหวัดแล้วและยังแอบคิดวางแผนไว้ว่าหากน้องสาวแต่งงานไปกับลูกชายเพื่อนมารดาแล้วเธออาจจะรับธัญสินีไปดูแลส่งเสียให้เด็กสาวเรียนต่อถึงอาจไม่ใช้มหาวิทยาลัยมีชื่อในเมืองแต่ก็ยังดีกว่าปล่อยให้คนที่มีศักดิ์เป็นน้องสาวเธออีกคนมีความรู้แค่ม.ปลายและค่อยรองมือรองเท้าให้น้องสาวตนและมารดาไปตลอดชีวิต เพราะหญิงสาวสำนึกอยู่เสมอว่าที่ตนได้มีโอกาสเรียนจบตามที่ฝันก็เพราะเงินของเด็กสาวที่ผู้เป็นบิดามารดาทิ้งสมบัติเอาไว้ให้ แต่มารดาเธอเองนั่นแหละที่ยักยอกและโกงไปเป็นของตนเองจนหมดโดยที่เด็กสาวไม่มีโอกาสได้รู้เลยสักนิดว่าตนถูกโกง...
ภวินมองตามร่างสูงโปร่งแต่แบบบางของคนที่ตอนแรกเขาคิดว่าเป็นเธอคนนี้เสียอีกที่มารดาตนพามาดูตัวและเตรียมทาบทามเอาไว้ก่อนอย่างไม่เป็นทางการ แต่ฟังไปฟังมาเธอกลับไม่ใช่เสียอย่างนั้น หากธัญสินีสวยใสน่ารัก กรกานต์ก็จัดว่าสวยหวานถูกใจเขามากทีเดียว เขาเคยเจอผู้หญิงมาเยอะทั้งสวยตามธรรมชาติและที่ผ่านมีดหมอ แต่เขาไม่เคยสะดุดตาใครเท่าพี่สาวของว่าที่เจ้าสาวเขาเอาเสียเลยครั้นจะดึงมารดาออกไปเพื่อบอกว่าตนพอใจคนพี่ก็เห็นทีจะไม่ทันเมื่อคนเป็นแม่ของฝ่ายหญิงชวนมารดาเขาพูดไม่หยุดเว้นช่องให้เขาได้แทรกกลางเอาเสียเลย บ้าจริง! ชายหนุ่มสถบในใจคนเดียว...
“ไงสินี ทำอะไรบ้างล่ะ มาพี่ช่วย”
กรกานต์เลือกจะไม่ทำตามคำสั่งของมารดาดังเคย เพราะจะให้หญิงสาวทนนั่งให้ชายหนุ่มแปลกหน้ามาจ้องเอาๆจนหญิงสาวร้อนผ่าวไปทั้งร่างใครจะไปทานทนได้กันหลบมาอยู่ในห้องครัวยังสบายใจกว่ากันตั้งเยอะ ชิ! ตาบ้ามองอย่างกับจะเปรื่องผ้าเธอเลยเป็นผู้ชายที่นิสัยแย่มากตั้งแต่กรกานต์โตเป็นสาวมาจนอายุเข้า26ปีเข้าไปแล้วเพิ่งเคยพบเคยเจอก็วันนี้แหละ
เกรียดขี้หน้าเหมือนจะตาย....
“อุ้ย!อ้าวสวัสดีค่ะพี่กานต์มาจากยะลาเมื่อไหร่คะเนี่ย”
“มาถึงก่อนฝนจะตก แม่เรียกตัวกลับมาด่วนนะ นี่สินีตัวเปียกไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนไปเดี๋ยวพี่ช่วยดูตรงนี้ให้จะทำอะไรบ้างล่ะวันนี้”
“จะดีหรือค่ะ เดี๋ยวคุณป้าจะโกรธเอานะคะหากเสร็จช้า”
“ไปเถอะพี่กลัวเราป่วยมากกว่านะ”
พูดจบกรกานต์ก็จับบ่าน้อยๆหันออกจากห้องครัวไปยังห้องของธัญสินีซึ่งอยู่ติดกับห้องครัวนี่เอง
“ไปเร็วอย่าดื้อเจ้าตัวเล็กไปไป” สุดที่ธัญสินีจะคัดค้านจึงยอมทำตามแต่โดยดีตามนิสัยที่เป็นเด็กบอกง่ายสอนง่าย....
ตอนที่๑
19. 25.น
ได้เวลาท่านอาหารค่ำแล้ว แต่กิรณายังคงไม่มีวี่แววว่าจะกลับถึงบ้านเลย คุณรุจีเริ่มร้อนลน ที่สุดก็ตัดสันใจขอตัวออกไปโทรศัพท์ตามแม่ลูกสาวสุดที่รักทันที่...
เมื่อมีโอกาสเป็นใจภวินก็รีบสะกิดมารดาทันที่ “คุณแม่ผมขอเลือกเจ้าสาวเองได้ไหมครับ?”
คุณเรณุกาถึงกับอมยิ้มน้อยๆเข้าใจไปเองว่าลูกชานตนคงจะเลือกแม่หนูธัญสินีเป็นแน่แท้แต่ผิดคาด...
“เปลี่ยนเป็นคนไหนล่ะบ้านนี้มีหลายสาวด้วยสิ”
“ผมถูกใจกรกานต์ครับแม่” ชายหนุ่มพูดเสียงเบาเพราะกลัวว่าคนในบ้านจะผ่านมาได้ยินเข้า
“อ้าว...แม่ก็นึกว่าจะเลือกหนูสินีเสียอีก”
คุณเรณุกามองลูกชายคนโตปากห่อเป็นรูปตัวโอเลยเลยที่เดียว เพราะผิดเป้าหมายจากที่ท่านเล็งไว้เสียแล้ว
“สินีผมเอ็นดูแบบน้องสาวมากกว่านะครับ อ้อจริงสิเด็กคนนี้ไม่ได้เรียนต่อหรือครับ?”
“เรื่องมันยาวเอาไว้กลับบ้านแม่จะค่อยๆเล่าให้ฟัง แต่แม่อยากรับเด็กคนนี้ไปดูแลเอง ภวินจะว่าอะไรแม่ไหนส่วนเจ้าสาวแม่ไม่ขัดหรอกหนูกานต์นะเขาได้นิสัยพ่อมา อันที่จริงเรานี่ก็ตาถึงนะตาวิน ฮึ ฮึ ฮึ”
คุณเรณุกาแซวบุตรชายเบาๆ เล่นเอาคนนิ่งๆแบบภวินโหนกแก้มขึ้นสีอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ชายหนุ่มเคยแต่ได้ยินเพื่อนๆในกลุ่มพูดถึงความรักแรกพบตอนนั้นเขายังหัวเราะใส่หน้าพวกมัน แต่วันนี้ชายหนุ่มเพิ่งเข้าใจว่ามันมีจริงก็ยามได้สบตาสีน้ำตาลแวววาว ของหญิงสาวนามว่ากรกานต์เข้าไปเต็มหัวใจเสียแล้ว...
“ยายป้านั่นจะยอมยกยายหนูสินีให้ง่ายๆหรือครับหลานเขาทั้งคน”
ชายหนุ่มเปลี่ยนเรื่องคุยเสียก่อนที่จะเข้าเนื้อไปมากกว่านี้