เล่ร้ายสวาทร้อน
9
ตอน
4.67K
เข้าชม
48
ถูกใจ
10
ความคิดเห็น
15
เพิ่มลงคลัง

บทนำ

โครม!!!

ครืด......

เสียงเบรกดังสนั่นแต่ก็ช้าไป

รถยี่ห้อPorsche 718 Boxster  สีส้มแสบตาราคากว่า7หลักที่ขับมาด้วยความเร็วไม่น้อยกว่า250กิโลเมตรต่อชั่วโมงวิ่งฝ่าไฟแดงมาอย่างไม่มีถ้าทางว่าจะแตะเบรกหรือหยุดรถแต่อย่างใดส่วนรถที่เบรกลากยาวเพราะกำลังจะออกตัวเมื่อฝั่งตนเองไฟเขียวแล้ว

คือนิสสันมาร์ซสีขาวคันเล็กๆแบบผู้หญิงใช้

เจ้าของรถคันเล็กไม่มีโอกาสได้ร้องหรือนึกถึงใครด้วยซ้ำไปเมื่อเจ้า

รถพอร์ชสีส้มแสบตาก็ชนตรงด้านคนขับและช่วงประตูคนขับเจ้ามาร์ชคันเล็กทันทีไม่มีแต่เสียงร้องจากร่างเล็กเจ้าของรถสีขาวคันถูกชนแม้แต่น้อยนอกจากรถจะถูกชนแล้วสภาพติดหน้ารถคันงามที่ก็ยุบบุบเข้าไปไม่น้อยเลย

มีประกายไฟลากยาวไปตามถนนจนเกือบร้อยเมตรถึงไปกระแทกเสาร์ไฟฟ้าจนหักและหยุดได้ ณ.จุดนั้นนั่นเอง

ทุกสิ่งเกิดขึ้นแค่เพียงเสี้ยววินาที

ก่อนจะค่อยๆมีคนเริ่มทยอยลงมาดูอุบัติเหตุรับอรุณของวันจันทร์ที่แสนเร่งรีบบางคนแค่หยุดและมองดูเฉยๆแล้วเร่งรีบออกรถไปต่อบางคนพอมีน้ำใจอยู่บ้างก็โทรฯตามรถพยาบาลมาให้ก่อนจะเร่งรีบไปทำธุระของพวกเขาต่อ

แต่ไม่มีใครสักคนที่จะกล้าเข้าไปใกล้รถที่คันหนึ่งแทบกลายเป็นซาก

และคันที่ชนก็เสียหายไม่ต่างกันสิ่งแรกที่ทุกคนกลัวคือการระเบิดเพราะประกายไฟจากรถสีขาวเริ่มปะทุขึ้นตรงกระโปรงรถด้านหน้าแล้วแต่ยังโชคดีอยู่บ้างที่ยังมีตำตรวจประจำป้อมสี่แยกนี้พอดีและยังมีพวกชาววินมอร์เตอร์ไซค์บางคนที่พอจะใจกล้าเข้าไปดูว่าการชนครั้งนี้จะยังมีผู้รอดชีวิตเหลืออยู่บ้างหรือไม่

ส่วนฝ่ายคันถูกชนแทบไม่ต้องคิดสภาพแต่คันรถหรูดูเหมือนจะมีคนรอดเมื่อเข้าไปดูใกล้ๆถึงจะหมดสติแต่ยังเห็นถึงการหายใจอยู่จึงจำเป็นต้องเอาคนเจ็บที่เอาออกมาง่ายกว่าออกก่อนแต่พอนำร่างที่ดูแพงและผู้ดีทุกกระเบียดนิ้วออกมายังไม่ทันเดินพ้นเกินห้าก้าวรถสีขาวก็ระเบิดออกมาอย่างที่ทุกคนคาดไว้อยู่แล้วทันที!

บึ๊ม!!!

ทั้งจ่าประจำป้อมและชาววินฯต่างรู้สึกถึงความหดหู่อย่างมากหนึ่งชีวิตของคนธรรมดาหาเช้ากินค่ำต้องจบลงเพราะความคะนองของพวกคนรวยลูกคนมีเงินอีกแล้ว

กว่ารถพยาบาลจะมาและกู้ภัยเก็บกู้ศพที่แทบไม่เหลือชิ้นส่วนให้ญาติไปประกอบพิธีและตำตรวจจะมาตรวจที่เกิดเหตุกว่าทุกอย่างจะสงบอีกครั้งก็เกือบสองชั่วโมงต่อมา

แน่นอนเมื่อมีคนตายก็ต้องมีคนสูญเสียเช่นเดียวกับครอบครัวเล็กๆที่มีกันสี่ชีวิตบัดนี้พวกเขาต้องสูญเสียไปเสียแล้วหนึ่งชีวิตอย่างหน้าอนาถใจ

สูญเสียแบบกะทันหันเสียด้วยสิ

วิภาพี่สาวคนตายเป็นลมแล้วเป็นลมอีกโดยมี หริภัทรสามีค่อยปลอบใจอยู่ข้างๆ

"ฮือๆๆยายหนูกันเมื่อเช้านี้น้องยังช่วยภาชงกาแฟอยู่เลยนะคุณน้องยังกอดภาฮือๆๆบอกทีสิค่ะหริว่าภาแค่เข้าใจผิดไปเองตอนนี้น้องกันยังไปทำงานน้องกันยังอยู่ที่ทำงานบอกภาที..."

เสียงโหยให้จนแทบกลายเป็นกรีดร้องจำเป็นที่สามีของหญิงสาวต้องขอหมอให้ช่วยฉีดยานอนหลับให้เธอไปก่อน

เขาเองก็ไม่ต่างกันที่ทั้งตกใจเสียใจแต่หากเขาอ่อนแออีกคนอีกสองชีวิตที่เหลือจะทำเช่นไรเล่า

เขากับน้องภรรยาก็สนิทและรักเธอเหมือนน้องแท้ๆเช่นกันเพราะรู้จักกันมาตั้งแต่พ่อแม่ของทั้งคู่ยังอยู่จนท่านทั้งสองจากไปด้วยโรคร้ายบ้างอุบัติเหตุบ้างเขาที่เพิ่งแต่งงานใหม่ๆก็ช่วยรับเลี้ยงดูกันยารัตน์มาจากเด็กสาวจนกรายเป็นหญิงสาวเต็มตัวมีงานทำและกำลังจะเริ่มมีแฟนแต่จู่ๆ....

จากคนที่ยังนั่งทานมื้อเช้าพูดคุยหยอกล้อก่อนแยกย้ายไปทำงานและส่งลูกชายวัย8ขวบไปโรงเรียนเพียงแค่ส่งลูกชายคนเดียวถึงโรงเรียนก็มีโทรศัพท์จากโรงพยาบาลเพื่อแจ้งข่าวร้ายที่สุดในครอบครัวเขาแล้ว ว่ากันยารัตน์ถูกรถฝ่าไฟแดงมาชนและตอนนี้...แม้แต่ร่างยังแทบไม่มีเหลือด้วยถูกเผาแบบย่างสดจากการระเบิดของรถที่กว่าไฟจะสงบทุกอย่างก็มีเพียงซากเท่านั้น

ร่างเล็กๆวัย24ปีแสนร่าเริงก็มอดไหม้ไปกับกองเพลิงแทบไม่เหลือซากอีกแล้ว...

ชายหนุ่มวัย36เช่นเขาที่เห็นหญิงสาวมาตั้งแต่เด็กๆถึงกับน้ำตาไหลโดยไม่รู้ตัว

ไม่มีอีกแล้วน้องน้อยของบ้านไม่มีอีกแล้วน้าสาวแสนใจดีของเด็กชายเอกรัตน์

เขายังขนาดนี้แล้วพี่แท้ๆอย่างภรรยาเขาจะรับความสูญเสียชั่วลมหายใจนี่ไปได้อย่างไรกัน....

"พ่อน้ากันละครับน้าจะเจ็บมากไหมน้ากันจะร้อนมากไหมตอนไฟครอกพ่อน้ากันจะๆ.....ฮือๆๆๆ"

เด็กชายปล่อยโฮออกมาในที่สุดน้าที่ค่อยสอนการบ้านเสมอน้าที่คอยเป็นเพื่อนเล่นซุกซนต่างๆด้วยกันน้าที่คอยปกป้องยามเขาถูกเพื่อนในหมู่บ้านรังแกไม่มีอีกแล้วน้ากันของน้องเอก......

พนักงานและพยาบาลที่พอรู้เรื่องต่างก็ได้แต่เศร้าสลดและเสียใจกับภาพหดหู่ที่เห็นคนดีๆคนหนึ่งต้องมาจากไปอย่างไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรเลยเป็น

เพราะลูกสาวคนโปรดของเจ้าของโรงพยาบาลใหญ่ระดับpremiumนี่เป็นผู้พรากเธอคนนั้นไปเสียจากครอบครัวก่อนวัยอันควร

ส่วนคนที่พรากลมหายใจคนอื่นตอนเธอเองก็กำลังยื้ออยู่กับมัจจุราชเช่นกัน....นี้ก็ยังไม่แน่ใจนักว่าจะรอดหรือไม่เพราะอาการก็หนักเอาการแต่ที่พวกพยาบาลรู้สึกรังเกียจและอยากเปลี่ยนคนที่ตายเหลือเกินก็เพราะหญิงสาวจอมเหวี่ยงคนนี้มีแอลกอฮอล์ในเลือดเข้มข้นเกินที่กฎหมายกำหนดไปมากโขต่างหากเล่าถึงเธอจะไม่ร้ายไม่แรงเท่าพี่สาวฝาแฝดของเธอก็ตาม...แต่ก็พอสมควรเลยทีเดียวเพราะเป็นลูกสาวคนโปรดของท่านผู้อำนวยการใหญ่แถมยังเป็นเจ้าของโรงพยาบาลแห่งนี้อีกด้วย

แต่ใครจะกล้าเอาเรื่องแบบนี้ไปพูดได้หรือ?

พวกเธอๆก็เหมือนมดตัวเล็กๆที่ยังต้องกินต้องใช้คนจนตายมันไม่มีอะไรหรอกตายแล้วก็ตายไปแต่ลูกคนรวยจะผิดไม่ได้นั่นคือความจริงในโลกสมัยนี้

"พี่หริครับทางนี้"

เสียงเรียกทำให้สติที่แทบแตกสลายกลับมาอีกครั้ง

"โชติ"

ร่างสูงในเครื่องแบบตำตรวจเดินมาหาสองพ่อลูกที่ยังนั่งกอดคอกันร้องให้เงียบๆ

"รู้แล้วใช่ไหมโชติเรื่องน้องกัน..."

“ครับ"

นายตำตรวจหนุ่มตอบเสียงเรียบ

ไม่ได้พูดอะไรมากนอกจากตรงมาโอบบ่าพี่เขยของคนที่เขากำลังคบหาดูใจกันอยู่

เสียใจมากไหม?

ก็พอมีบ้างละต้องเป็นธรรมดาถึงกันยารัตน์จะไม่สวยงามมากมายอะไรแต่หญิงสาวเข้าใจงานเขาและไม่เรื่องมากพูดง่ายหรอกง่ายเขาพูดอะไรก็เชื่อใครจะไม่อยากได้เมียแบบนี้กันล่ะ

แต่ก็แค่นั้น...

บอกว่าเสียดายคนช่วยแชร์ค่าใช่จ่ายคงจะง่ายกว่า

"พี่วิภาละครับ"

"พี่ให้หมอฉีดยานอนหลับให้แล้วนอนพักในห้องฉุกเฉินแนะแล้วนี่มาเพราะคดีน้องกันหรือเปล่านายถึงมาหรือว่านายเป็นเจ้าของคดีนี้กันละ?"

"ทั้งสองอย่างครับ"

"อย่างนั้นนายคงเห็นสภาพน้องกันแล้วใช่หรือเปล่า?"

"ก็...ครับ...เห็นแล้ว"

"ยังเหลือหรือเปล่า?"

"ครับนิดหน่อยพอจะพิสูจน์อัตลักษณ์ได้อยู่ครับ"

"ไม่ดีเลยใช่หรือเปล่า"

"อา...ครับผมว่าไม่ควรให้พี่วิภาไปเห็นสภาพน้องเขาจะดีกว่า...คือมันๆ...อาจทำใจได้อยากสักหน่อยนะครับพี่หริ"

“แล้วพี่จะรับศพน้องกันไปวัดได้ตอนไหน?”

“คงต้องรอเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกับทางลูกน้องผมเคลียเรื่องเกี่ยวกับรูปคดีให้เสร็จก่อนนั่นแหละครับ”

"แล้วญาติทางฝ่ายโน้นเขาไม่คิดจะมีน้ำใจมาไถ่ถามบ้างเลยรึนายโชติ?"

"เอ่อ...พ่อเธอกำลังผ่าตัดอยู่นะครับในว่าเธอก็อาการไม่ดีนัก"

"เขาขับขนาดนั้นนะคงอยากตายมากกว่าละมั่งไม่เห็นต้องไปช่วยเขาไว้หรอกปล่อยๆให้ตายๆไปเสียได้ก็ดีรอดมาก็อาจมาฆ่าคนอื่นอีก!!!"

"เบาๆสิครับพี่นี่โรงพยาบาลพ่อเขานะครับผมเข้าใจว่าพี่เสียใจแต่คนตายไปแล้วแต่พี่ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับเขารวยมากคนบ้านนี้คงจ่ายเงินให้พวกพี่โขอยู่ละครับไม่ต้องกลัวว่ากันเขาจะตายฟรีหรอก"

"ไอ้โชติ!"

คราวนี้หริภัตที่เป็นคนใจเย็นถึงกับเดือดปุดๆทันทีนี่แฟนมันตายไม่ถึงครึ่งวันมันกล้าพูดเปรียบชีวิตคนกับเงินได้ยังไงวะโดยเฉพาะผู้ตายที่มันพูดถึงก็แทบจะหมั้นหมายกันอยู่อีกไม่กี่เดือนนี่แล้วด้วยใจมันทำด้วยอะไรนะถึงได้ดำขนาดนี้ไอ้ผู้ชายเวรไอ้ตำตรวจห่าเหวเอ๊ย!!!

หริภัตโกรธจนควันออกหูทีเดียว...

 

"น่าๆ....พี่ใจเย็นๆนะผมแค่พูดตามหลักความจริงจะมาโมโหทำไมเนี่ย"

"แก!...ไอ้โชติ!!!"

"ถ้าอย่างนั้นเอาไว้พี่อารมณ์เย็นลงกว่านี้ผมจะมาคุยด้วยใหม่สงบสติอารมณ์เสียบ้างนะพี่เดี๋ยวคนเขาจะสงสัยเอาได้ว่าแค่น้องเมียตายเสียใจซะอย่างกับเมียตายเลย"

"ไอ้ชั่วโชติ!ไอ้ๆๆๆเลวเอ๊ย!"

"เอ่อ...ใจเย็นๆค่ะคุณ"

"ก็คุณพยาบาลดูสิครับคนที่ตายนะแฟนมันแท้ๆกลับทำหน้าระลื่นแถมยังมาพูดให้ร้ายคนตายอีกจะให้ผมใจเย็นลงหรือคุณ"

"คือขอโทษนะคะหากดิฉันจะแนะนำคุณผู้ชายสักนิดว่าเอ่อ

คนแบบนั้นไม่ควรอย่างยิ่งที่คุณจะสนใจดิฉันเพียงจะมาแจ้งว่าภรรยาคุณเธอตื่นแล้วนั่นต่างหากที่คุณควรใส่ใจให้มากๆรวมทั้งพ่อหนุ่มน้อยตาช้ำนี้ด้วยคนที่จากไปแล้วให้เราฆ่าคนที่ทำน้องสาวคุณตายตามไปน้องสาวของคุณเธอก็คงไม่ฟื้นแน่ๆแต่จิตรใจคนที่อยู่ต่างหากที่ดิฉันเห็นว่าสำคัญกว่าเป็นอย่างมาก

และเออ..ดิฉันไม่ได้เข้าข้างเจ้านายดิฉันนะคะ คุณแต่อยากจะเรียนให้คุณทราบสักนิดว่าท่านเองก็กำลังทุกข์ไม่ต่างกับคุณหรอกนะคะเมื่อคืนตอนสามทุ่มลูกสาวคนโตตกบันไดเพิ่งพ้นขีดอันตรายเมื่อสองโมงเช้าที่ผ่านมายังไม่ทันได้พักลูกสาวคนเล็กก็มาประสบอุบัติเหตุมีโอกาสรอดแค่ไม่ถึง2%เท่านั้น

อีกคนยังไม่รู้จะอยู่หรือจะไปกับอีกคนที่รอดแต่ก็ต้องเสียโฉมแถมอาจพิการอีก

เชื่อเถอะค่ะท่านเจอหนักไม่ต่างจากคุณเลย...คุณผู้ชายปะ...ไปเถอะค่ะไปดูแลคนที่ยังอยู่กันเร็วครับหนุ่มน้อยไปดูคุณแม่กันเร็วๆเถอะคะ"

เหมือนคนที่ตาบอดแล้วเจอแสงสวางเลยทีเดียว

ไม่ใช้เพราะรู้ว่าคนที่ชนน้องสาวเขาอาจจะไม่รอดแต่เขาคิดได้ตรงคำว่าควรสนใจคนที่ยังอยู่และดูแลเธอให้ดีต่างหาก

“ขอบคุณมากๆนะครับที่เตือนสติผมคุณพยาบาล”

“ไม่เป็นไรค่ะเราก็คนเหมือนกันเป็นเพื่อนมนุษย์กันอะไรที่เราพอจะหยิบยื่นให้แกกันได้ก็ทำไมเถอะค่ะ”

แล้วพยาบาลที่ดูสูงวัยพอสมควรก็ยิ้มอ่อนๆให้สองพ่อลูกอีกครั้งก่อนเดินนำไปยังภายในห้องฉุกเฉินที่มีอีกชีวิตผู้บอบช้ำรอพวกเขาสองพ่อลูกอยู่...

วันนี้เป็นอะไรที่สอนให้ชายหนุ่มใหญ่เช่นหริภัทรได้คิดว่าความตายมันอยู่ใกล้ตัวเรามากขนาดไหนเพราะฉะนั้นตอนนี้เขายังมีลมหายใจอยู่ควรดูแลคนที่เขารักให้ดีที่สุดนั่นต่างหากคือสิ่งสำคัญ

'น้องกันก็คงคิดแบบพี่ใช่หรือเปล่าครับพี่ขอโทษด้วยนะครับน้องสาวที่พี่เป็นผู้นำครอบครัวที่ไม่เอาไหนเลยเจอเรื่องแค่นี้ยังดูแลพี่สาวน้องกันได้ไม่ดีอย่างที่พี่เคยรับปากไว้เลย คนเก่งน้องสาวของพี่หริไปอยู่ในที่ดีๆนะครับไม่ต้องห่วงนะ พี่หริจะดูแลทั้งพี่สาวคนสวยและเจ้าหลานหมูอ้วนของน้องกันให้ดีสุดชีวิตของพี่เลยพี่หริสัญญาครับน้องน้อยของพี่'

 

หริภัทรนึกด่าตัวเองในใจและกล่าวขอลุแกโทษกับคนตายที่เขาสติแตกไม่ดูแลคนที่รักให้ดี

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว