คฤหาสน์หลังใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่บนเนินเขา สร้างด้วยหินอ่อนสีขาวบริสุทธิ์ ผนังกระจกใสบานใหญ่โอบล้อมตัวอาคาร ทำให้แสงแดดสาดส่องเข้ามาภายในได้อย่างเต็มที่
สวนเขียวขจีล้อมคฤหาสน์ไว้ เหมือนภาพวาดสีน้ำมันที่งดงาม
ภายในคฤหาสน์ตกแต่งอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้สักทองและของสะสมโบราณ
บรรยากาศเงียบสงบและมีมนต์ขลังราวกับอยู่ในพิพิธภัณฑ์
ทุกห้องถูกออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน ตั้งแต่ห้องรับแขกขนาดใหญ่ที่มีเพดานสูง โคมระย้าคริสตัลระยิบระยับ
ห้องสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือเก่าแก่ ไปจนถึงห้องนอนใหญ่ที่มีระเบียงส่วนตัวมองเห็นวิวทิวทัศน์อันงดงาม
ทุกเช้า แสงแดดอ่อน ๆ จะส่องผ่านหน้าต่างกระจกเข้ามาในห้องครัว กลิ่นหอมของกาแฟสดและขนมปังปิ้งลอยฟุ้งไปทั่ว
แม่ครัววัยกลางคนกับหลานสาวคนสวยจะเตรียมอาหารเช้าอย่างพิถีพิถัน
ส่วนคนสวนก็ออกไปดูแลสวนให้สวยงามเหมือนเดิมทุกวัน
เจ้าของคฤหาสน์หลังนี้ไม่ค่อยได้กลับมาดูแลที่นี่ มีเพียงลูกชายคนเล็กอาศัยอยู่ ซึ่งหนุ่มหล่อคนนี้เป็นคนเงียบขรึม ชอบเก็บตัวอยู่แต่ในห้องห้องหนึ่ง ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปในตัวบ้าน ห้องนี้เป็นห้องลับที่ไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไปได้
มีเพียงผู้ช่วยคนสนิทเท่านั้น ที่รู้ว่าชายหนุ่มผู้นี้ทำอะไรอยู่ภายในห้องนั้นบ้าง
ความลึกลับของเขา ทำให้คนงานคิดไปต่างๆนานา บางคนก็ว่าเขาเป็นนักวิทยาศาสตร์สติเฟื่อง บางคนก็ว่าเขาเป็นคนโรคจิต สะสมของแปลก ๆ บางคนก็ว่าเขามีพลังร้าย พยายามเก็บซ่อนและปกปิดตัวตนไว้
ช่วงค่ำคุณผู้ช่วยคนสนิทพาใครไม่รู้เข้ามาในคฤหาสน์ หลานสาวแม่ครัวซึ่งนอนไม่หลับ ฟุ้งซ่านอยากไปคอนเสิร์ต แต่ไม่มีเงิน จึงคิดขโมยของมีค่าเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปขาย บังเอิญเห็นทั้งคู่เดินฝ่าความมืดขึ้นบันได ไปยังห้องลับ
'คุณเขาอยากได้สาวมานอนด้วยสินะ เห็นเงียบ ๆ เก็บตัว ร้ายไม่เบาเลยนะเนี่ย' เธอคิดในใจ ก่อนเดินกลับไปที่ห้องพักตัวเอง เพราะคิดว่าคืนนี้คงไม่เหมาะที่จะขโมยของ เนื่องจากต้องระวังผู้ช่วยมือดีของลูกชายเจ้าของคฤหาสน์ และแม่สาวปริศนา ซึ่งจะออกมาจากห้องลับนั้นตอนไหนไม่รู้
สามวันต่อมา เธอเห็นผู้ช่วยมือทองพาตัวสาวสวยคนหนึ่งออกมาจากห้องลับ ท่าทางเธอดูไม่ค่อยสบาย ทำให้ชวนสงสัย
'ดุเดือดขนาดนั้นเลย' คิดแล้วใจมันหวิว ๆ อดจินตนาการไม่ได้ว่าผู้ชายในห้องนั้น จะเร่าร้อน รุนแรงเพียงใด
คิดแล้วอยากรู้ อยากเห็นลูกชายเจ้าของคฤหาสน์สักครั้ง
เธอค่อย ๆ แอบย่องไปเปิดประตู
คิดไม่ถึงว่าจะโดนดึงข้อมือเข้าไปในห้องมืด
แสงไฟในสวน สาดส่องผ่านช่องว่างของผ้าม่าน ถึงกระนั้นยังไม่อาจมองเห็นคนที่มักฝังตัวอยู่ในห้องนี้ได้ชัด
"สอดรู้สอดเห็นแบบนี้ ไม่ดีนะ" น้ำเสียงนุ่มทุ้ม ทรงพลัง ทำให้เธอรู้สึกตัวเล็กลีบลงกว่าเดิม
"ขะ ขอโทษค่ะ หนูผิดไปแล้ว หนูสัญญาจะไม่ทำอีก ปล่อยหนูไปเถอะนะคะ"
ไม่มีคำพูดตอบกลับ มีเพียงเสียงหัวเราะหึหึในลำคอ ก่อนที่ชายในเงามืดจะกระชากต้นแขนเธอเข้าไปใกล้ จากนั้นจับท้ายทอย แล้วจูบปากอย่างรุนแรง ไร้ความปราณี
"อื้อ!" เด็กสาวประท้วง และพยายามทุบตีลงบนอกกว้างของคนที่ขโมยจูบแลกไป
"พยศซะด้วย ดี แบบนี้ถึงจะสนุก" ว่าแล้วเขาก็บีบขยำอกอวบอิ่ม ส่วนอีกมือนึงบีบคลึงบั้นท้ายกลมกลึง
อ่านต่อได้ในตอนจบจ้ะ