กลางโต๊ะอาหารในห้องพักหรู
มีชายผิวเข้มหน้าคมอย่างคนโดนแดดและลมทะเล วัย 31 ปี นั่งตรงข้ามกับหญิงสาวตัวเล็ก ผิวขาวที่ถูกแต่งตัวด้วยชุดเดรสสีขาวสวย วัย 23 ปี
“พี่ซันคะ คือ…” เเววตากังวลไม่กล้าสบตาคนนั่งอยู่ตรงข้าม
“ครับ” คนถูกเรียกมองคนตัวเล็กอยากแปลกใจ แต่ยังคงยิ้มให้คนที่ขึ้นชื่อว่าแฟน
“คือ…เราเลิกกันเถอะค่ะ” เหมยตัดสินใจเอ่ยสิ่งที่ต้องการกับชายคนรัก
“หา! อะไรนะ” นายหัวซันเอ่ยถามอีกครั้งพร้อมใบหน้างุนงง
“เรา…เลิกกันเถอะค่ะ” ขอบตาคนเอ่ยระเรื่อสีแดง เธอไม่ได้อยากเลิกกับเขาแต่เพราะครอบครัวของเธอที่ไม่อยากให้คบกับเขา สั่งให้เธอเลิกรากับเขา ลูกคนเล็กในครอบครัวที่ไม่มีใครใคร่จะรักลูกผู้หญิงอย่างเธอ เธอจะปฏิเสธคำสั่งนั้นอย่างไร
"เหมยไม่เลิกค่ะ" เธอทำใจแข็งขัดคำสั่งผู้เป็นแม่
“อีเหมยกูบอกให้เลิกกับมัน มึงจะขัดคำสั่งกูเหรอ” ผู้เป็นแม่ที่น้อยครั้งจะพูดดี ๆ ด้วยเอ่ยสั่ง
“แม่~” เเม่เธอนั้นเวลาไม่ได้ดั่งใจก็ขึ้นไอ้อีมึงกู พร้อมเอ่ยคำด่าทอเธอไม่เคยจะคิดห้ามปากตัวเอง
เธอไม่อยากเลิกกับนายหัวซันเลย เขาเหมือนแสงสว่างในชีวิตเธอที่พร้อมฉุดดึงชีวิตเธอขึ้นจากหลุมนรกที่ชื่อว่า ครอบครัว
“ถ้ามึงไม่เลิกก็ออกจากบ้านนี้ไป อีลูกทรพี” คำด่าทอร้ายแรงทิ่มแทงใจเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เธอที่พึ่งเรียนจบงานก็ยังไม่มีงานทำจะหนีไปอยู่ไหนได้ เงินที่นายหัวซันให้ไว้ใช้ก็หมดไปกับการจุนเจือครอบครัวตามคำสั่งของแม่ พี่ชาย 3 คนของเธอก็ทำงานไม่เป็นหลักแหล่ง เอาแต่ขอเงินแม่และพ่อขนลามมาที่เธอ เพราะเห็นว่าคบกับคนรวย
จะรู้บ้างไหมว่าเธออับอายขนาดไหนที่ต้องรับเงินจากคนเป็นแฟน
แถมแม่ยังจะจับเธอไปแต่งงานกับคนรวยแถวบ้าน ที่่อยากได้เธอไปเป็นเมียน้อยด้วยเงิน 2 ล้านบาท จนเกิดเรื่องขึ้นชีวิตเธอเลือกอะไรได้บ้าง เธอคิดจะเลิกกับนายหัวซันเงินพอมีเก็บสักหมื่นบาท เธอจะหนีออกจากบ้านไปหางานทำจะได้หลุดพ้นสักที
“เลิกกันงั้นเหรอ หึ” เธอกล้าเอ่ยขอเลิกเขาได้อย่างไร เรียนมหาวิทยาลัยก็เงินเขาส่งเสียเลี้ยงดู อุตส่าห์เก็บเปรี้ยวไว้กินหวานแต่เธอคิดจะชิ่งหนีซะได้
“ค่ะ” เสียงน่าเกรงขามเจือโมโหทำเธอขนลุกไปทั้งตัว รัศมีความโหดกำลังแผ่ขยายรอบตัวเขา
“เหมย เธอไม่รักฉันบ้างเหรอ” เขาเอ่ยถามพร้อมกำหมัดแน่น
“…” เธอรักเขาแต่ถ้าตอบว่ารัก แล้วจะเลิกกันได้อย่างไร
การเงียบของเธอจึงกลายเป็นคำตอบ