วันนี้เป็นวันครบรอบวันเเต่งงานครบ 10 ปี เเก้วตกเเต่งห้องเเละโต๊ะกินข้าวด้วยดอกกุหลาบขาวเเละไฟเเบบที่ปันชอบ พร้อมอาหารจากร้านที่ปันชอบเช่นกัน เเถมมีช่อดอกไม้ที่เขียนการ์ดว่า Happy 10th wedding anniversary. กุหลาบขาวช่อใหญ่ด้วย
ตอนนี้เเก้วอยู่ในชุดเดรสสีขาวผ้าซาตินจนเผยรูปร่างเเบบหุ่นลูกแพร์ที่ทำให้เธอดูเซ็กซี่ที่สุดในรอบปี
“ไหนบอกจะกลับบ้านตอนเย็นทำไมตอนนี้ยังไม่ถึงบ้าน ขออย่าให้เกิดเรื่องไม่ดีนะ” เเก้วมองเวลาในหน้าจอมือถืออย่างกังวล เเต่เลือกจะไม่ทักไปหาเขาเพราะช่วงนี้ปันบอกเเล้วว่ามีโปรเจกต์ใหญ่ เเก้วนั่งรอจากฟ้าสว่างจนตอนนี้ฟ้ามืดมานานเเล้วเธอจึงตัดสินใจโทรหา
“ตืด ตืด ตืด~”
“ครับเเก้ว” เเก้วถือสายรออยู่นานปันจึงรับสายด้วยน้ำเสียงเหนื่อยหอบจนเเก้วรู้สึกได้
“ปันจะกลับบ้านตอนไหนคะ ปันรอกินข้าวอยู่นะ” เธอพูดน้ำเสียงอ่อนโยนอย่างเช่นเคย
“อีกชั่วโมงน่าจะถึงบ้านครับ รอปันก่อนนะงานเสร็จปันจะรีบกลับเลยครับ” ปันพูดด้วยน้ำเสียงออดอ้อนผู้เป็นภรรยา
“ไม่ต้องรีบขับนะคะเดี่ยวอันตราย”
“ครับคุณภรรยา” ปันพูดจบจึงกดวางสาย
“เเหม๊เรียกกันหวานขนาดนี้ไม่ห่วงความรู้สึกบีมเลยนะคะพี่ปัน” หญิงสาววัย 27 ปี พนักงานรุ่นน้องในเเผนกของปันเอ่ยขึ้นหน้าเศร้าทั้งยังกอดกันด้วยร่างเปลือยเปล่าบนเตียง
“ไม่น้อยใจนะครับพี่มีของขวัญให้ด้วยนะ” ปันพูดด้วยรอยยิ้ม
“อะไรเหรอคะ” บีมมองเขาตาปริบ ๆ อย่างไร้เดียงสา เขาลุกจากเตียงไปหยิบกล่องทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าในกระเป๋าก่อนจะกลับมานอนข้างร่างบางที่ทั้งนุ่มนิ่มเเละหอมหวาน
เขานั่งลงก่อนจะเปิดกล่องนั้นออกจนเห็นสิ่งที่อยู่ด้านใน
“ว้าว สร้อยข้อมือเพชรเหรอคะ”
“ครับ” เขาตอบก่อนจะจับข้อมือของอีกฝ่ายก่อนจะใส่สร้อยข้อมือเพชรราคาเรือนเเสน บีมมองอย่างดีใจก่อนเข้าไปกอดเขาพร้อมจูบเร้าร้อนขอบคุณอีกฝ้าย จนผ่านไปสักพักปันจึงผลักร่างเธอออกห่างจนเธอมีสีหน้าน้อยใจ
“พี่กลับบ้านก่อนนะครับ รักนะคะเด็กดี”
หลังจากวันนี้ทุกสิ่งก็เปลี่ยนไป