“ความรักมันซับซ้อนอยู่แล้ว หรือ เพราะคนกันแน่ที่ทำให้ความรักมันซับซ้อน”
………………………..................……………//………...............……………………………………
“กชเบล” ผู้บริหารสาวสวยในวัย 37 ย่าง 38 ที่ทั้งสวย ทั้งรวย ทั้งเก่ง แต่ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่ดูเฟอร์เฟคมากๆแต่เธอก็ยังไม่มีแฟน (เป็นตัวเป็นตนเลย)
“คริสตัล” นักศึกษาสาวปีสาม ที่โดยพื้นเพเป็นเด็กที่บ้านรวยอยู่แล้ว แต่คริสตัลก็มีอาชีพเสริมเป็นนักร้องกลางคืน และการมาร้องเพลงของคริสตัลก็ไม่ได้โฟกัสในเรื่องเงินเท่าไหร่ เพราะการร้องเพลงเหมือนเป็นการใช้เวลาว่างทำในสิ่งที่ตนเองชอบซะมากกว่า
ซึ่งการออกมาร้องเพลงกลางคืนของคริสตัลนั้น มันก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้กชเบลอยากรู้จักกับคริสตัล เพราะกชเบลเห็นในความแพรวพราว ความน่ารัก ความมีเสน่ห์มากๆของคริสตัลตอนอยู่บนเวที แต่พอลงจากเวทีคริสตัลก็ดูไม่สนใจใครเลย มันก็เลยทำให้กชเบลสนใจในความแปลกของคริสตัลเป็นพิเศษ
และความสนใจแบบพิเศษนี่แหละ ที่มันทำให้กชเบลอยากเข้าหาคริสตัลก่อน แต่พอได้เข้าหาแล้ว มันก็ทำให้กชเบลคิดละว่า “ตนคิดผิดหรือคิดถูกที่อยากรู้จักคริสตัล” เพราะคนที่ตนมองว่ามีเสน่ห์มากๆในก่อนหน้านั้น พอรู้จักจริงๆโคตรกวนประสาทสุดๆ แถมคริสตัลยังเป็นคนแรกเลยที่กล้าเรียกกชเบลว่า “ป้า”
แต่ก็หน่ะ พอได้รู้จักกันแล้ว คริสตัลก็ดันเป็นฝ่ายเกาะติดกชเบลหนักมาก ราวกับไม่ยอมให้กชเบลคิดถอยหนีจากตนได้เลย มันก็เลยเป็นเหตุทำให้ทั้งสองเริ่มสนิทกันเรื่อยมา
แต่ในช่วงเวลาที่คุยกัน กชเบลก็เริ่มเจอเรื่องแปลกๆของคริสตัลเรื่อยมา ไม่ว่าจะเรื่อง…
1. คริสตัลน่าจะไม่ใช่คนจนแบบที่กชเบลคิดเสมอมา เพราะจากที่คลุกคลี คริสตัลดูเป็นคนรวยมากๆคนนึง แต่คริสตัลก็บอกกับกชเบลว่า “พ่อแม่ตนรวย แต่ตนไม่ได้รวย”
2.เหมือนคริสตัลจะมีเรื่องผู้หญิงปิดบังกชเบลอยู่ เพราะคริสตัลเคยลากกชเบลหนีออกจากร้านเหล้าเพียงแค่ต้องการจะหนีรุ่นพี่คนนึง แต่การหนีนั้นกชเบลก็ไม่ได้โกรธอะไรคริสตัลเลย เพราะคริสตัลก็พูดความจริงว่า “รุ่นพี่คนนี้แอบชอบตนอยู่ แต่ตนไม่ได้ชอบรุ่นพี่เลย”
พอทุกความสงสัยมันถูกตอบโดยคริสตัล และกชเบลก็ดูไม่ได้ซีเรียสกับเรื่องเหล่านั้นเท่าไหร่มันก็เลยทำให้ทั้งสองยังคงคุยกันต่อเรื่อยมา แต่การรู้จักกันกันเรื่อยๆมาของทั้งสองนั้น มันก็ดันมาพีคตรงที่ว่า จริงๆแล้วที่ผ่านมาคริสตัลรู้จักกชเบลมาก่อนที่จะเจอกันที่ร้านเหล้าด้วยซ้ำ เพราะกชเบลทำงานให้พ่อของคริสตัลอยู่ แต่กชเบลไม่เคยรู้เลยว่าคริสตัลรู้จักตนมาก่อน จนกระทั่งความสนิทสนมกันเรื่อยๆมานั่นละ มันคือจุดที่ทำให้คริสตัลอยากจริงจังกับกชเบล คริสตัลก็เลยเปิดเผยความจริงกับกชเบลว่า… “ตนเป็นลูกของกรณ์ ลูกค้ารายใหญ่ของกชเบล ”
แน่นอนว่าการเปิดเผยตัวตนของคริสตัลมันทำเอากชเบลทั้งโกรธและโมโหมาก เพราะกชเบลคิดว่าคริสตัลโคตรเล่นตลกกับความรู้สึกของตนเลย กชเบลก็เลยไม่อยากจะรู้จักคริสตัลซะละ แต่คริสตัลก็ไม่ยอมให้กชเบลเลิกอยากรู้จักตนเลย และคริสตัลก็พยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ตนกับกชเบลได้กลับมาคุยกันต่อ จนความพยายามนั้นมันสำเร็จ ทั้งสองจึงได้กลับมาคุยกันในฐานะคนคุยที่พิเศษขึ้น
และพอเริ่มคุยแบบพิเศษขึ้น ความสัมพันธ์มันก็ไม่ได้ราบรื่นดั่งที่คริสตัลหวัง เพราะ “จันทร์เจ้า” ก็ยังคอยวนเวียนอยู่ในชีวิตของคริสตัลตลอด
“จันทร์เจ้า” นั้นเป็นรุ่นพี่ของคริสตัล ที่ชอบและคุยกับคริสตัลมาตั้งแต่คริสตัลอยู่ปีหนึ่ง จนคนทั้งคณะเข้าใจว่าจันทร์เจ้ากับคริสตัลเป็นคนคุยกันอยู่
ถึงแม้ว่าคนใกล้ตัวคริสตัลจะรู้ แต่กชเบลไม่เคยรู้ ต่อให้คริสตัลจะเคยบอกกชเบลว่า มีรุ่นพี่ชอบตน แต่คริสตัลก็ไม่เคยบอกว่ารุ่นพี่คนนั้นเป็นใคร ซึ่งจันทร์เจ้าก็คือรุ่นพี่คนนั้นนั่นแหละ และเป็นคนๆเดียวกันกับที่คริสตัลลากกชเบลหนีตอนที่อยู่ร้านเหล้า แต่ที่คริสตัสไม่เคยบอกชื่อรุ่นพี่กับกชเบลเลยเพราะคริสตัลมองว่า ต่อให้บอกไปกชเบลก็คงไม่รู้จัก แถมคริสตัลยังบอกกับกชเบลเสมอว่า คริสตัลไม่ได้ชอบเขา มันก็เลยทำให้กชเบลไม่ได้สนใจอะไร เพราะที่ผ่านมาคริสตัลก็ดูจริงใจกับกชเบลสุดๆละ
แต่…ไอ้คำที่ว่า “บอกไปก็ไม่รู้จัก” นี่แหละ มันคือเรื่องที่โคตรจะพีคขั้นสุด เพราะวันนึง จันทร์เจ้าได้เจอกับกชเบลที่มหาลัย และจันทร์เจ้าก็เรียกกชเบลอย่างเต็มปากว่า “น้าเบล” มันก็เลยทำให้ความจริงปรากฎว่า …….
“จันทร์เจ้าเป็นหลานแท้ๆของกชเบล
คริสตัลไม่เคยรู้ว่ากชเบลกับจันทร์เจ้าเป็นน้าหลานกัน
กชเบลไม่รู้ว่ารุ่นพี่ที่คริสตัลเคยบอกว่า “บอกไปก็ไม่รู้จักหรอก” เป็นจันทร์เจ้าที่เป็นหลานตัวเอง
จันทร์เจ้าก็ไม่รู้ว่ากชเบลกับคริสตัลกำลังคุยกันอยู่
และที่สำคัญตอนนี้นั้น… น้ากับหลานชอบคนๆเดียวกันอยู่ ”
ซึ่งความแตกในครั้งนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ความรักของคริสตัลกับกชเบลที่กำลังไปได้ด้วยดีมันต้องสะดุดลงจนวุ่นวายไปหมด