ในค่ำคืนพายุฝนรถลากเทียมม้าคันหนึ่งวิ่งผ่าสายฝนไปตามทางดินโคลน รอบข้างเป็นป่าไผ่ เสียงใบไผ่กระทบกันดังเสียงของพญามัจจุราช ผ่านไปสองชั่วยามรถม้าลากก็หยุดลงในป่าสนที่หนาทึบ ชายวัยกลางคนสี่ห้าคนกำลังขุดดินเป็นหลุมลึก หลักจากนั้นพวกเขาวางโลงไม้เก่าๆลงไป จากนั้นมีชายสองคนเดินไปที่รถม้า นำผ้าห่อบางอย่างมาโยนลงในโลง สามห่อ ปากก็เอ่ยด้วยความสำนึกผิด
“ฮูหยินแม่ทัพน้อย คุณชายน้อย คุณหนูน้อย โปรดอโหสิกรรมให้พวกเราด้วย พวกเราต้องทำตามที่นายท่านและฮูหยินเจียงสั่งมา หากพวกท่านไปแล้วก็อย่าอาฆาตแค้นพวกเราเลย”ชายวัยกลางคนกล่าวก่อนที่จะช่วยกันขุดดินมาถมให้เต็ม ย้อนอดีตไปห้าปีในจวนคหบดีเซียว สาวน้อยใบหน้าสดใสนั่งปักลายดอกไม้บนผ้าคลุมผมแต่งงาน ริบฝีปากบางสีชมพูอ่อน แย้มยิ้มด้วยท่างท่าสง่างาม คุณสมบัติเพียบพร้อม สมเป็นสตรีสูงศักดิ์ทุกกระเบียดนิ้ว
ใครจะทราบว่าในระยะเวลาห้าปีที่นางแต่งงานให้กับ เกาหลิวหยาง แม่ทัพน้องแห่งจิ่วโจ กับไม่เคยระวังคนใกล้ตัว มองไม่ออกว่าพวกเขาจ้องจะทำร้าย สุดท้ายพ่อและแม่เลี้ยงสามี ก็วางแผนฆ่านางกับลูกในคืนที่ฝนตกหนัก
หลังจากสามีออกรบแต่หายสาบสูญ ท่านปู่แม่ทัพใหญ่เสียชีวิตกลางสนามรบ ฮูหยินผู้เฒ่าล้มป่วย พวกเขาที่นางมองเป็นคนในครอบครัวก็แสดงหางออกมาให้เห็น พวกเขาวางยาลูกๆของนาง และให้นางมองลูกที่ลมหายใจค่อยๆหมดไป และต่อมาก็ฆ่านางอย่างเลือดเย็นภายในคืนเดียว ร่างของนางหายใจแผ่วเบาในโลงแคบๆใต้ดิน กอดร่างไร้วิญญาณลูกชายคนโต อายุสามขวบ ลูกสาวคนเล็กแปดเดือน นางคร่ำคราญในใจ เพราะแม้ปากยังไม่สามารถขยับได้เลย
“ท่านพี่โปรดช่วยเราด้วย ช่วยต้าเกอด้วย ช่วยอันอันด้วย ข้ายังไม่อยากตาย”นางได้แต่ร้องเรียกในจิตสำนึก ร่างกายค่อยหยุดการเคลื่อนไหว ลมหายใจเฮือกสุดท้ายของชีวิตดับลง
“คุณหนู คุณหนู ตื่นเจ้าค่ะ สายแล้วนะเจ้าค่ะ คุณชายใหญ่จะกลับมาแล้ว ไม่ไปท่าเรือหรือเจ้าค่ะ”เป่าเป่าสาวใช้คนสนิทเรียกนางพร้อมดึงแขนให้ลุกจากที่นอนอย่างยากลำบาก
ต้าหนิงตกใจรีบลุกขึ้นนั่ง นางหยิกแขนตัวเองอย่างแรง จนต้องร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด
โอ๊ย!! เจ็บจริงแสดงว่าฝันไป ข้ายังไม่ตาย นางรับรู้ถึงการมีอยู่ของตัวเองก็ดีใจลุกขึ้นกระโดดบนที่นอน