When I saw you…
เรื่องราวนี้ มันเริ่มต้นขึ้น เมื่อนานมากมาแล้ว เมื่อครั้งที่มนุษย์ยังมีการแก่งแย่งชิงพื้นที่สำหรับการเกษตร การตั้งรกรากพื้นที่และสร้างอณาจักรเป็นเรื่องสำคัญ ในยุคที่ยังไร้ซึ่งวิทยาศาสตร์ ก่อนการที่มนุษย์จะรู้จักกับการใช้ประโยชน์จากไฟฟ้า ก่อนการสรรค์สร้างเทคโนโลยีจะเริ่มขึ้น ก่อนที่มนุษย์จะใช้ทรัพยากรที่ตนมีอยู่อย่างจำกัดนี้อย่างไม่เห็นคุณค่า มนุษย์เป็นเพียงผู้นับถือภูเขา แหล่งน้ำ ไฟและ…เทพเจ้า แต่เรื่องราวนี้ มนุษย์ เป็นเพียงผู้เล่าตำนานกล่าวขานที่ยาวนาน สมัยที่ชาวไวกิ้งยังยึดครองคาบสมุทรตอนเหนือ และส่งต่อเรื่องราวเล่าขานถึงตำนานเทพเจ้าที่ตนนับถือให้กับบุตรหลานในภายภาคหน้า เรื่องนี้เริ่มต้น ณ อาณาจักรที่ห่างไกลไปจากดาวเคราะห์ที่เหล่ามนุษย์อาศัยอยู ที่แห่งนั้น ถูกเรียกว่า แอสการ์ด ดวงดาวแห่งความรุ่งเรือง มั่งคั่ง อาณาจักรที่ทำจากทองคำและผู้ปกครองอาณาจักรทั้ง 9 คือ เทพโอดิน ราชันย์แห่งจอมเทพ เทพผู้มีชัยเหนือที่หนแห่งที่พระองค์ปราถนาและทรงคุณธรรมเป้นที่เคารพรักและยำเกรงของมนุษย์ สตรีผู้เป็นพระชายางามล้ำและปราดเปรื่องของจอมกษัตริย์ คือ เทพีฟริกก้า มารดาของเหล่าเทพและมนุษย์ สตรีผู้อยู่เหนือเทพีใดในทั้งเก้าโลก ทั้งสองมีพระราชโอรสสองพระองค์ พระองค์แรกนามว่า เทพธอร์ พระโอรสองค์โตผู้ที่จะเป็นผู้ที่สืบทอดอำนาจราชอาณาจักรต่อจากพระบิดา นักรบชายชาติทหารอันเป็นที่รักของราษฎร ด้วยรูปกายอันสง่างาม กำยำล่ำสันเฉกเช่นบุรุษเพศชาตินักรบ ส่วนพระราชโอรสองค์รองความสง่างามบนใบหน้านั้นไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าพระเชษฐา ทว่าร่างกายนั้นกลับแตกต่างกันสิ้นเชิงด้วยพระองค์ทรงเป็นชายหนุ่มผู้มีรูปร่างสูงโปร่งแต่ผอมบางไม่กำยำเฉกเช่นพี่ชาย ซ้ำยังไม่ชำนาญศึกหรือจับดาบรบห่ำหั่นศัตรูได้คล่องแคล้ว แต่กระนั้นหากเป็นเรื่องการใช้กลการศึกหรือวางแผนการรบล้วนแล้วต้องพึ่งสิปัญญาของพระราชโอรสองค์รองสิ้น บุตรองค์นี้แห่งโอดินรู้จักในนามของ โลกิ ชายหนุ่มผู้หลงใหลในไสยเวทย์เวทมนต์มากกว่าจะออกไปขี่ม้า ประลองดาบกับพี่ชายและเพื่อนๆของเขา แม้ทั้งสองจะเป็นพี่น้องกัน แต่รูปโฉมก็ต่างกันจนน่าฉงนใจ ธอร์ เทพเจ้าแห่งสายฟ้า ผู้มีผมยาวประบ่าสีทองสลวยราวกับพระอาทิตย์อวยพร ร่างกายของชายหนุ่มวัยฉกรรจ์เต็มไปด้วยมัดกล้ามของนักรบผู้ได้รับการฝึก เขาเป็นที่วางพระทัยและความภาคภูมิใจของโอดิน ส่วนโลกิ ผู้ที่ได้ฉายาว่า เทพเจ้าแห่งเล่ห์กลและฉ้อฉล ผู้มีเส้นผมสีดำสนิทราวกับคืนเดือนดับระแค่ต้นคอ รูปโฉมแม้จะไม่ได้กำยำล้ำสันแบบพี่ชายและออกจะผอมบางเกินไปสำหรับการเป็นพระโอรสแต่ก็ความสูงและองอาจก็เหมาะสมเฉกเช่นผู้เป็นเชื้อพระวงศ์ เป็นที่น่าพอพระทัยและรักใคร่ของพระราชินีฟริกก้าด้วยความปราดเรื่องในการใช้มนตราและสติปัญญาฝนการช่วยเหลือศึกของพี่ชายและบัดนี้ เรื่องราวเรื่องนี้จะถูกเริ่มต้นจากในอณาจักรแห่งนี้และพระโอรสอันถูกพระบิดามองข้ามคนนี้ ผู้มีฉายานามว่า เทพแห่งคำลวง…โลกิ
ดวงตาสีเขียวมรกตของพระราชโอรสองค์ที่สองราชวงศ์กษัตริย์โอดินส่องสว่างในมุมมืดกำลังจับจ้องไปที่ สาวงามมานางหนึ่งซึ่งกำลังยิ้มสดใสเคียงข้างบุรุษหนุ่มผมยาวที่บนใบหน้ามีรอยแผลเป็นใต้ตาอย่างหวานชื่นในสวนดอกไม้ในพระราชวังที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากที่เจ้าชายทรงประทับนัก แรกเริ่มเขามานั่งอ่านหนังสือที่นี่เพราะมันเงียบสงบมากพอที่เขาจะมีสมาธิตั้งใจกับการฝึกเวทย์มนต์ของเขา ไม่มีใครเข้ามารบกวนอันเนื่องจากเป็นสวนส่วนพระองค์ของพระราชินีแห่งแอสการ์ด แต่ไม่นานมานี้พระมารดาของเขาได้นำหญิงสาวผู้นี้ซึ่งได้ชื่อว่านางในของพระราชินีมาที่สวนแห่งนี้เพื่อให้นางได้ฝึกเวทย์มนต์เล็กๆน้อยๆในฐานะศิย์เอกที่พระองค์ทรงชื่นชม โดยที่ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่า มีเขานั่งอยู่ในมุมมืดหนึ่งของสวนที่อยู่ไปไม่ไกลนัก หญิงสาวร่างอรชร อายุไม่น่าจะถึงหนึ่งพันปีดี ผิวขาวอมชมพูเป็นประกายเมื่อยามต้องกับแสงจากดวงอาทิตย์ บนใบหน้างามได้รูปมักมีเลือดฝาดเห็นบนพวงแก้มทั้งสองอยู่ประจำ ริมฝีปากเอิ่มอิ่มแต่งแต้มด้วยสีชาด นัยน์ตาสีฟ้าอ่อนประกายเมื่อยามจับจ้องกับหนังสือในมือนเช่นกับเขาและริมฝีปากเอิบอิ่มจะคลี่ยิ้มออกมาเมื่อสามารถร่ายมนต์ตามหนังสือได้สำเร็จและบ่อยครั้งที่จะมีเหล่าสัตว์ตัวเล็กๆที่อาศัยในสวนของพระราชินีมักมาเฝ้าดูหญิงสาวอย่างใกล้ชิดเสมอเธอ โลกิรู้จักลักษณะเช่นนี้ดี มันคือลักษณะของผู้ครองเวทย์มนต์เก่าแก่ว่าราชวงศ์ของเขาเสียอีก เวทย์มนต์ของชาติพันธุ์ที่เคยครอบครองดินแดนแอสการ์ดมาก่อนที่พระราชบิดาจะยึดเป็นอาณาจักรของตน ชาววานาไฮม์ผู้เป็นเจ้าแห่งเวทย์ที่หลงเหลือในดินแดนนี้ นี่คือหนึ่งในเวทย์ที่รู้จักกันว่า เวทย์ผู้รักษา เวทย์แบบนี้มักจะคอยนำพาสิ่งมีชีวิตรอบตัวให้อยากเข้ามาใกล้เสมอด้วยพลังชีวิตที่รายล้อมรอบตัวผู้มีเวทย์นี้ในสายเลือด ทำให้ผู้ที่อยู่ใกล้ก็จะรู้สึกปลดเปลื้องความทุข์ในจิตใจได้ชั่วขณะแม้แต่ผู้ที่มีบาดบาดแผลเล็กๆน้อยๆ เมื่อสัมผัสกับร่างกายเธอแผลเหล่านั้นก็จะค่อยทุเลาอาการเจ็บปวดและหายไปในเวลาไม่ช้า และถ้าหากได้เป็นคู่ชีวิต ร่างกายที่ผู้เป็นภรรยาจะมอบให้กับผู้เป็นสามี เขาจะมีพลังในการฟื้นฟูเวทย์ย่างไม่มีสิ้นสิ้นสุด อย่างไรแล้วด้วยพลังเวทย์ปราดเปรื่องเช่นเขาหากมีผู้ที่เป็นดังแหล่งพลังมาอยู่ข้างกายเขา เขาจะมีอำนาจเหนือใครๆ มากกว่าพี่ชายของเขาและเพื่อนๆที่ต่ำตมตามืดบอดของพี่ชายเขาแบบนั้น เขาก็จะได้รับการฟื้นฟูเวทย์จากเธอได้อย่างง่ายได้เพียงแค่ได้รับจุมพิตจากเธอ จากความสนใจในผู้ที่มีเวทย์อันเป็นเวทย์มนต์เก่าแก่ที่มักสืบต่อกันทางสายเลือด กลายเป็นสนใจในเรือนร่างอรชรนั่น ผู้มีผมบลอนด์สว่างคล้ายกับพี่ชายเขาทว่ากลับสว่างสีเงินยวงเฉกเช่นสีของดวงจันทร์ ความสว่างที่เขาเคยรู้สึกน่ารำคาญทุกครั้งที่เห็นเมื่อมันอยู่บนศีรษะของพี่ชายเขาแต่มันกลับดูงดงามเมื่อมันอยู่บนเรือนร่างเล็กๆที่เหมาะสมนี้ แม้จะมีโอกาสได้เข้าหาหลายครั้ง แต่เขาพึงพอใจที่เฝ้ามองพฤติกรรมของหญิงสาวอย่างเงียบๆมาตลอดเพื่อรอโอกาสอันเหมาะสมที่จะเปิดเผยตัวตนและไม่ทำให้หญิงสาวตระหนกตกใจ จนวันนี้ วันที่มีชายหนุ่ม นักรบอัศวินกลุ่มเหยี่ยวแดงผู้เป็นทหารองครักษ์ของกษัตริย์โอดินปรากฏตัวข้างกายของหญิงสาวผู้นี้ สายตาเฉี่ยวคมของเจ้าชายหนุ่มที่มองจ้องไปที่ใบหน้าหวานอย่างไม่ปิดบังความรักที่มีให้ ดวงหน้างามที่ตามักจับจ้องหนังสือวันนี้กลับหลบต่ำอย่างเขินอายพวงแก้มชมพูกลับแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด ไม่ต้องให้เห็นด้วยดวงตาของเทพีเฟรย่าก็รู้ความสัมพันธ์ของบุรุษกับสตรีนางนี้เป็นเช่นไร และวันนี้ก็กลับทำให้หัวใจของเจ้าชายหนุ่มกลับร้อนรุ่มขึ้นมาด้วยไฟแห่งความริษยาและน่ารำคาญตาเป็นที่สุด ลมหายใจเย็นๆถูกพ่นออกมาอย่างไม่สบอารมณ์ขณะที่เขากลับเลื่อนสายตาออกจากใบหน้าระเรื่อหวานนั้นไม่ได้เสียที!
Guest
