คำโปรย
ชีวิตสุดเฮงซวยของแก้มหอม ทั้งตกงานและโดนแฟนทิ้งในเวลาเดียวกัน โชคดีที่ยังมีเพื่อนดีให้ตั๋วเธอไปเที่ยวพักผ่อนแดนอาทิตย์อุทัย เธอได้ไปขอพรที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่ง เผื่อชีวิตจะดีขึ้น หากแต่...
...
แก้มหอม
"ทำไมชีวิตถึงได้บัดซบเช่นนี้นะ...ถ้าสวรรค์มีจริงขอให้ชีวิตฉันดีขึ้นด้วยเถอะนะ"
"โธ่เว้ยยยย...ฉันยังซวยไม่พอจริงๆใช่มั้ย ไอบ้าเอ้ย..."
หยางเซวี่ยไป๋/อังเปา
"ต่อจากนี้ขอให้ผมเป็นคนที่แกร่งขึ้น และปกป้องน้องสาวผมได้"
"นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ย"
...
ปล. บุคคลที่อยู่ในภาพไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดกับเนื้อหาในเรื่อง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพฤติกรรมต่างๆของบุคคลในเรื่องไรต์แต่งขึ้นมาเองตามจินตนาการของไรต์ แล้วใช้รูปประกอบเพื่อเป็นอรรถรสในการอ่านเท่านั้น
...
บทนำ
"trrrrrrrrr...trrrrrrrrrrrrrr..." โทรศัพท์ดังสนั่นหวั่นไหวแล้วสั่นเป็นคลื่นบนโต๊ไม้ส่งแรงให้เสียงดังมากขึ้น
"โอ้ยยยย...ใครโทรมาตอนนี้วะเนี่ย ไก่ยังไม่ขันด้วยซ้ำ" หยิงสาวบ่นออกมาพลางลุกขึ้นจากที่นอนโดยไม่ลืมตาแล้วคว้าโทรศัพท์ที่แผดเสียงดังลั่นห้องขึ้นมากดรับสายทันที
"ยัยผีบ้าเอ้ยยยย..." ปลายสายตะโกนออกมาดังลั่นทันทีเมื่อเธอรับสาย
"โอ้ยยย...แหกปากทำไมขนาดนั้นวะ" ตื่นเต็มตาทันทีก่อนจะสวนกลับออกไปด้วยเสียงที่ดังกว่า
"แกนั่นแหละ หลายข้อหาแล้วนะ ยังงจะมาตะโกนใส่ฉันอีก" พูดด้วยน้ำเสียงงอนๆ
"อะไรแกวะ แกควรจะเกรงใจฉันบ้างนะ โทรมาตั้งแต่ไก่ยังไม่ขัน เช้ามืดขนาดนี้"
"ไอบ้าเอ้ย ไก่ที่ไหนมันจะขันป่านนี้ว่ะเพื่อน พระจะฉันเพลอยู่แล้วเนี่ย ดูเวลาบ้างสิ"
"สิบโมง สี่สิบ เห้ย สายแล้ว..."
"เห้อ...แกอย่าลืมสิว่าแกตกงานแล้ว"
"เออว่ะ...แหะๆ" หัวเราะกลบเกลื่อนทั้งๆที่ใจนั้นร้องไห้(น่าสงสารจริ้ง)
"แกกลับมาจากญี่ปุ่นก็ไม่บอกกันเลยนะ แถมยังหนีกลับบ้านไปอีก"
"โธ่ยัยพิงค์ ฉันเหนื่อยมากนะแก ขอฉันพักผ่อนบ้างสิ"
"เออๆ ยังไงซะตอนนี้แกก็ได้พักผ่อนเต็มที่แล้วนี่ งานก็ไม่มี แล้วป้าแก้ว..."
"พิงค์เรื่องนี้แกห้ามบอกแม่ฉันเด็ดขาดนะ"
"เออๆ ฉันไม่บอกหรอก แกพักผ่อนไปเถอะ แกไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว ฉันโทรมาถามแกแบบนั้นแหละ"
"อืม แกอยู่คนเดียวแบบนั้นอย่าพาผู้ชายเข้าห้องละกันแหละ"
"จ้าๆ ฉันไม่ใช่แกนี่ยัยแก้ม เออๆงั้นแค่นี้แหละ"
"อึม..."
...
"ฮัดชิ้ว..."
"เซวี่ยไป๋นายยังไหวรึเปล่าน่ะ" อาเยวี่ยน ผู้จัดการส่วนตัว ถามขึ้นอย่างเป็นยห่วงซุปเปอร์สตาร์หนุ่มลูกครึ่งไทย-จีนตรงหน้าตน
"ไม่เป็นไรหรอกอาเยวี่ยน ฉันแค่ไม่ค่อยชินกับอากาศที่นี่เท่าไหร่" ชายหนุ่มกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มเห็นฟันกระต่ายที่เป้นเอกลักษณ์ของตน หากแต่ความจริงแล้วที่เขาจามอยู่นี้เป็นเพราะเขาเดินตากฝนตอนลงจากศาลเจ้าที่ญี่ปุ่นเมื่อสามวันก่อนต่างหาก
"เห้อ...นายนี่นะ ไม่น่าจะดื้อเดินทางมาไทยวันนี้เลย เมื่อสามวันก่อนเพิ่งจะไปถ่ายนิตยสารที่ญี่ปุ่นอยู่เลย..."
"ผมไม่เป็นไรหรอกครับ คุณผู้จัดการอย่าห่วงไปเลย นั่นน้องสาวผมมาแล้วครับ เราไปกันเถอะครับ" พูดเป็นเชิงหยอกผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนและผู้จัดการส่วนตัวของตน เมื่อเห็นน้องสาวจึงรีบเดินไปหาทันทีทิ้งให้คนเป็นผู้จัดการยืนหน้าเหวออยู่
"พี่เปา..." เด็กสาววัย18ปีวิ่งมาหาผู้เป็นพี่ชายด้วยรอยยิ้มที่สดใส
"เป็นไงบ้างล่ะเราน่ะ สบายดีมั้ย" โอบกอดน้อยสาวด้วยความคิดถึงมือหนาอีกข้างลูบเส้นผมยาวสลวยนั้นเบาๆ
"สบายดีค่ะ พี่คะเราไปหาแม่กันเถอะค่ะ"
"จ้ะ..." เดินตามน้องสาวออกไปจากสนามบินอย่างเงียบๆ
...
"ครืนนน..."
"อะไรเนี่ย นี่ฝนจะตกเหรอเนี่ย" อุทานออกมาพลางมองท้องฟ้าที่กำลังมืดครึ้มแล้วมีสายฝนค่อยๆโปรยลงมาเรื่อยๆ
"อะไรว่ะเนี่ย ไม่น่ารับปากแม่มาซื้อของเล้ย" เมื่อหาที่หลบฝนก็พบแต่ความว่างเปล่าทางที่เธอกำลังเดินอยู่นั้นไม่มีบ้านคนอยู่เลย มีแต่ป่าทั้งสองข้างทางและถนนที่ยังคงเป็นถนนลูกรังอยู่
"ให้มันได้อย่างนี้สิ..." เมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ได้แต่วิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วเพื่อที่จะได้กลับถึงบ้านก่อนที่ฝนจะเทลงมามากกว่านี้
"เอี้ยดดดดด....โครมมม" รถหรูพุ่งเข้ามาในทางที่ร่างบางกำลังเดินอยู่ ในขณะที่รถหรูคันสีดำนั้นแล่นหลบหลุมหลบบ่อฝ่าความมืดของสายฝนมาโดยไม่เห็นคนที่ดินบนถนน
"โอ้ย..." ชายหนุ่มผู้ที่ขับรถหรูนั้นเห็นเงาของคนก่อนที่จะปะทะกับร่างนั้นจึงได้เหยียบเบรคแล้วพยายามหักหลบ จนรถจะพุ่งเข้าชนกับต้นไม้อย่างจัง แรงปะทะนั้นทำให้ศีรษะของเขามีเลือดไหลออกมาเป็นจำนวนมาก หากแต่ก็ยังโชคดีที่ชายหนุ่มยังพอมีสติอยู่บ้าง
"แกรก..." มือหนาเปิดประตูรถอย่างรวดเร็วเท่าที่จะทำได้ก่อนจะก้าวเท้ายาวออกจากรถเดินลงไปดูคนที่ตนเพิ่งจะขับรถชนไป
"คะคุณ..." รีบประคองร่างบางที่แน่นิ่งแล้วมีเลือดอาบเต็มไปหมด
"คุณ..." ตบหน้าร่างบางเบาๆเพื่อเรียกสติ
"คุณ...โธ่เว้ย" เมื่อเห็นว่าเธอไม่ได้สติจึงอุทานออกมาอย่างรู้สึกโกรธตัวเองก่อนจะจับมือร่างบางเพื่อที่จะจัดท่าทางและอุ้มไปส่งโรงพยาบาลหากแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นบางอย่างเรืองแสงที่ข้อมือหญิงสาว
"สร้อยข้อมือนี้มัน..."
"เปรี้ยง...." แสงสีขาวเกิดขึ้นก่อนที่จะเกิดเสียงฟ้าผ่า แสงสีขาวนั้นส่งมายังทั้งสองร่างที่ร่างนึงนั่งร่างนึงนอนหากแต่ทั้งสองกำลังจับมือกันโดยมือนั้นไม่ได้ปล่อยออกจากกัน ทั้งสองร่างแน่นิ่งลงกับพื้นทันที
...
มาแล้วๆเรื่องใหม่ เรื่องนี้จะออกแนวเกินจริง แฟนตาซีหน่อยนะ ตายแล้วฟ้าผ่าอิเล็กตรอนลงบนคนแล้ว ทั้งสองคนจะรอดรึเปล่าเนี้ย ต้องติดตามอ่านต่อไปนะคะ...