FYC
intro
“ฉันขอร้องนายล่ะเจซัค T^T ถ้านายไม่ช่วยฉัน งานนี้มีหวังฉันได้ถูกบอสสั่งเก็บแน่ง่ะ ฮือออ~ TOT”
เจซัค...ไม่ได้ตอบรับคำขอของเพื่อนหนุ่มในทันที หากแต่ใช้เพียงสายตาคม...หรี่มองใบหน้าบูดเบี้ยวของเพื่อน ที่อีกไม่นาน น้ำตาเม็ดใสก็คงจะร่วงไหลพรูอาบแก้มอย่างที่ชายหนุ่มเจ้าของโรงแรมแอบคิดล่วงหน้าไว้ในใจ
ก็แล้วมันเรื่องอะไรกันล่ะ? ที่เขาจะต้องตอบตกลงเป็นผู้อาสาสมัครให้ค่ายบ้าบออะไรนั่น นี่เขาเป็นถึงเจ้าของโรงแรมอัลเบทเชียวนะ โรงแรมเจ็ดดาวที่ดีที่สุดในเกาหลี และตอนนี้ก็มีสาขาอีกมากมายกระจายอยู่ทั่วทุกมุมโลก...ใช่ ถูกแล้ว ก็ในเมื่อเขาเป็นถึงเจ้าของโรงแรมผู้ทรงอิทธิพล และเขา...เขาจะเอาเวลาที่ไหนไปร่วมกิจกรรมไร้สาระพรรค์นั้นกันล่ะ? ใช่มั้ย???
แต่จะว่าไป...
...ถ้าถึงขนาดที่ท่านประธานแห่งองค์กร Y สั่งให้ฮันวอลมาขอร้องเขาแบบนี้ ดูท่า...ผลตอบแทนในการไปค่ายนั่นคงคุ้มมิใช่น้อยอยู่...รึว่าเขาจะไปดี?
เจซัคหรี่ตามองหน้าเพื่อนอย่างชั่งใจ
“แล้วฉันจะได้อะไรจากค่ายนั่น?”
ฮันวอลเบิกตาโต ดวงตาตี่ๆ ที่แทบถลนออกมานอกเบ้านั้นเบิกมองคนตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเปกัน ดีใจ ช็อก ไม่อยากจะเชื่อ!
“จะ...จะ...เจซัค นี่นาย...นายกำลังจะบอกฉันว่า...”
“ไม่! ฉันจะยังไม่ยอมตอบตกลงอะไรทั้งนั้น จนกว่านายจะบอกฉันมา...ฮันวอล ว่าผลตอบแทนที่ฉันต้องได้...มันคุ้มค่าแค่ไหน” เพราะถ้าเกิดว่ามันไม่คุ้ม...ไม่คุ้มที่เขาจะต้องลงทุนกลายเป็นคนบ้าราคะและสารเลวต่ำทราม คอยจ้องแต่จะทำร้ายผู้หญิงคนหนึ่งตามคำสั่งของค่าย FYC อะไรนั่น เขา...จะไม่ยอมลดตัวลงไปทำเรื่องอะไรพรรค์นั้นเด็ดขาด!
“คุ้ม!!! คุ้มแน่ๆ บอสบอกฉันมาแล้วว่าผลตอบแทนที่นายจะต้องได้มันคุ้มเสียยิ่งกว่าคุ้มอีก!! O0O”
อาการตื่นเต้นพูดจนลิ้นรัวของเพื่อนหนุ่ม ทำให้เจซัคที่ลองคิดคำนวณผลได้ผลเสียอยู่ในใจแล้วอย่างคร่าวๆ ก็ถึงกับกระตุกยิ้มร้ายที่มุมปาก...มันเป็นรอยยิ้มที่ฮันวอลเห็นแล้วทั้งรู้สึกโล่งใจไปเปราะหนึ่ง...และรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ที่แผ่นหลังอย่างไรบอกไม่ถูก ตอนนี้สิ่งเดียวที่เขาบอกได้นั่นก็คือ...ลุ้นจนฉี่จะราดอยู่แล้วเนี่ย!!!
“ถ้าอย่างนั้นก็...”
เสียงทุ้มลึกจงใจลากเสียงให้ยานคางเพื่อแกล้งอีกฝ่ายให้หัวใจจะวายเล่น หากวิธีนี้เป็นวิธีการแกล้งเพื่อนที่ได้ผลมากทีเดียวเชียวล่ะสำหรับชายหนุ่ม เพราะเดิมทีฮันวอลที่ลุ้นจนตัวโก่งอยู่แล้ว ก็ยิ่งลุ้นจนหูกางออกเป็นจานดาวเทียมขึ้นไปอีกเมื่อเขาแกล้งพูดประโยคสั้นๆ ที่ฟังดูก้ำกึ่งระหว่างคำว่า ‘ตกลง’ กับ ‘ปฏิเสธ’ เจซัคสังเกตปฏิกิริยาของเพื่อนแล้วก็ให้หลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่ไหวจริงๆ
“ถ้าอย่างนั้นก็...ตกลง! ฉันจะไปเป็นอาสาสมัครให้กับค่าย FYC!”
ฮันวอลยิ้มกว้าง ขณะที่ดวงตาแทบเบิกถลน ชายหนุ่มดีใจจนพูดไม่ออก ได้แต่อ้าปากพะงาบๆ คอเกร็ง มือหงิก และในที่สุด...
“ฮะ...เฮ้! ฮันวอล!”
เจซัครีบถลาตัวเข้าไปดึงร่างบางกว่าของเพื่อนให้ลุกขึ้นมานั่งปกติตามเดิมหลังจากที่ร่างนั้นหงิกเกร็งไปทั้งตัว และทำท่าว่าจะเป็นลมล้มพับคาโซฟาไปเสียดื้อๆ มือหนาออกแรงตบที่แก้มเพื่อนเบาๆ เพื่อเป็นการเรียกสติให้กลับคืนมา แต่ทว่า...เท่าที่ดูจากสถานการณ์และอาการดีใจสุดแสนจะโอเวอร์ของฮันวอลแล้วอ่ะนะ นั่นก็ทำให้ชายหนุ่มเจ้าของห้องยอมหยุดความหวังดีนั้นแต่โดยดี และยอมกลับมานั่งหลังตรงปกติมองดูเพื่อนหนุ่มตรงหน้าด้วยใบหน้าอมยิ้มกึ่งขำ
...........................................................................
“พวกเธอคงรู้ดีกันอยู่แล้วใช่มั้ยจ๊ะ ว่าตอนนี้ประชากรในจังหวัดของเราลดน้อยลงไปมาก...”
ฉันเลิกคิ้ว มองครูประจำชั้นของตัวเองที่กำลังพูดหน้าเครียดอยู่หน้าชั้นในคาบโฮมรูมด้วยความไม่เข้าใจ...ก็...ก็ใช่อ่ะ เรื่องนี้ใครๆ เขาก็รู้กันทั้งนั้นว่าคนในจังหวัดเรามีน้อยแบบโคตรๆ และฉันเองก็ไม่รู้ด้วยว่าทำไมมันถึงได้น้อยจัง =O=lll
จะว่าเป็นเพราะตายกันหมดเหรอ? อืม...ก็คงอาจจะใช่อ่ะ...แต่ว่า! เท่าที่ฉันเคยติดตามข่าวท้องถิ่นมานะ เห็นพวกนักวิชาการเขาบอกว่า เหตุผลที่ประชากรในจังหวัดของฉันมีจำนวนลดน้อยลงเนี่ย มันเป็นเพราะว่าอัตราการเกิดของเด็กมันน้อยลงมากกว่า คือฉันเข้าใจผู้หญิงสมัยนี้อ่ะนะ ว่าพวกเขาส่วนใหญ่คิดว่าตัวเองอยู่ได้โดยที่ไม่ต้องมีแฟน หรือมีสามี พวกเขาแฮปปี้ดีอยู่แล้วกับการใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียว อยู่อย่างโสดๆ ไม่ต้องแบกภาระอะไรมาก ซึ่งฉันเอง...ก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ฝั่งฝ่ายไหนกันแน่ ระหว่าง...ฝ่ายที่ต้องมีคนรัก? หรือฝ่ายที่ไม่จำเป็นต้องมีคนรัก? เพราะถ้าจะให้ฉันสารภาพความจริงบางอย่างเกี่ยวกับตัวเองแล้วล่ะก็ ฉันขอสารภาพแบบตรงๆ เลยนะว่า
ฉันยังไม่มีแฟน (เออะ...คิดกันไว้อยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ? = =lll)
นี่ฉันกล้าสารภาพความจริงอีกข้อหนึ่งได้เลยนะว่า โตจนป่านนี้แล้ว พวกคุณเชื่อมั้ยว่าป่านนี้แล้วฉันเองก็ยังไม่รู้เลยว่าการมีแฟนหรือการได้รักใครสักคนเนี่ย มันเป็นยังไง มันต้องรู้สึกยังไงบ้าง? คือฉัน...ฉันไม่ค่อยเข้าใจไอ้เรื่องพวกนี้เท่าไหร่อ่ะ จริงๆ นะ แบบว่า...ตั้งแต่เกิดมาฉันยังไม่เคยคิดชอบใครคนไหนเลยอ่ะ =O= แต่...ใช่สิ! ฉัน...ฉันมันไม่เหมือนยัยยองแอหนิ ที่เปลี่ยนแฟนเดือนละคนได้อย่างง่ายๆ ไม่ได้ยากเย็นแสนเข็ญอะไรเลยสักนิด ซึ่งต่างกับฉันเหลือเกิน! (แอบน้อยใจนิดๆ) ที่แม้แต่แฟนสักคนก็ยังหาไม่ได้เลยอ่ะ! ฮือ~ T^T ให้ตายสิ นี่หน้าตาฉันมันขี้ริ้วขี้เหร่ขนาดนั้นเลยเหรอเนี่ย T-T
“แล้วก็นะ เหตุเพราะปัญหานี้กำลังเป็นปัญหาที่ลุกลามอย่างหนักในจังหวัดของเรา ทางโรงเรียนก็เลยมีความคิด...ที่จะจัดกิจกรรมบางอย่างขึ้นเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหานี้ ซึ่ง...”
“อาจารย์คะ”
ทุกคนในห้องที่กำลังตั้งใจฟังอาจารย์โฮมรูมอยู่อย่างสนอกสนใจ มีอันต้องหันควับมาทางด้านหลัง เมื่อจู่ๆ เสียงห้าวของยัยเจบีก็ร้องขัดขึ้นเสียงดัง ส่งผลให้อาจารย์ที่กำลังจะพูดประโยคถัดไปต้องกลืนคำทั้งหมดทั้งมวลลงคอ ก่อนจะเลิกคิ้วให้ยัยเจบีเป็นเชิงถามว่ามีอะไร ยัยนั่นถึงได้ค่อยลดมือลงก่อนลุกยืนขึ้นตัวตรง
“คือหนูอยากจะถามว่า กิจกรรมที่อาจารย์ว่ามานี่...มันเป็นกิจกรรมอะไรเหรอคะ? แล้ว...พวกเราจะช่วยแก้ไขปัญหาประชากรน้อยได้ยังไง?”
ฉันยื่นปาก พนักหน้าเห็นด้วยกับคำถามที่เพิ่งออกมาจากปากยัยเจบี ก็จริงอ่ะ...พวกฉันเป็นแค่นักเรียนอยู่แท้ๆ จะมีปัญญาอะไรไปช่วยแก้ไขปัญหาระดับนั้นกัน หรือว่าทางโรงเรียนจะให้พวกเราไปมีอะไรกับผู้ชาย?
เฮือกก ก O_O!
บ้าๆๆๆ นี่ฉันกำลังคิดลามกอะไรอยู่เนี่ย! >///< เลิกคิดบ้าๆ ได้แล้วยัยอินฮยอง />O<\
“อ่า...ขอโทษจริงๆ นะจ๊ะเจบี คำถามของเธอในข้อนี้...ครูไม่สามารถตอบได้จริงๆ จ้ะ ขอโทษด้วยนะ และครูก็คิดว่า...คุณครูท่านอื่นก็คงไม่สามารถตอบได้ด้วยเหมือนกัน เพราะนี่เป็นแค่ความคิดของท่านผอ. จ้ะ ยังไม่มีอะไรแน่นอนจนกว่าจะมีคำสั่งลงมาอีกทีนะ ^^”
ทุกคน...รวมทั้งฉันและเจบี ต่างพยักหน้าช้าๆ เป็นอันเข้าใจแล้วว่าไอ้กิจกรรมบ้าบอนั่นอาจไม่มีการจัดจริง เพราะมันเป็นแค่ความคิดลอยๆ ของไอ้เจ้าผอ. หัวเหน่ง หึ นี่คงได้งบมาล่ะสิ ถึงได้มีความคิดอะไรแปลกๆ แบบนี้น่ะ ชิ -_-*
“อ่า...งั้นเอาเป็นว่า ถ้าเรื่องการจัดกิจกรรมนี้มีคำตอบที่แน่นอนเมื่อไหร่ ครูจะเข้ามาบอกพวกเธอในคาบโฮมรูมอีกทีละกันนะ งั้นวันนี้คงพอแค่นี้ก่อน เชิญทุกคนหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาเตรียมเรียนวิชาต่อไปได้เลยจ้ะ”
พูดเสร็จครูสาวก็หันไปเก็บข้าวของของตัวเองบ้าง ก่อนที่จะเดินทำหน้าแปลกๆ ออกไปจากห้อง ทิ้งให้ฉัน...เด็กนักเรียนคนเดียวในห้องต้องทนเก็บความสงสัยนั่นไว้ในใจ โดยที่ไม่กล้าหันไปถามใครว่า...
ทำไมนะ...ทำไมครูเขาถึงต้องทำหน้าแบบนั้นด้วย? หล่อนทำเหมือนกับว่า...มีเรื่องเครียดอะไรสักเรื่องหนึ่งนี่แหละ อืม...???
แต่ก็ช่างเถอะ! แล้วนี่ฉันจะมามัวคิดมากเรื่องครูเขาทำไมกันเนี่ย! โอ๊ย บ้าที่สุดเลย =O=;;
โอเคๆๆ เอาล่ะ...งั้นอินฮยอง เธอรวบรวมสมาธิเพื่อเตรียมเรียนวิชาต่อไปได้แล้วนะ อา...ช่าย อย่างนั้นล่ะ =O= อา~