พ่อเพื่อนเอวดุให้อดใจไม่ยั่วXได้ไง [NTR]
โอปอล + พ่อวิชาญ
------------------------------------------------------------------------
รูปร่างล่ำสัน ใบหน้าก็หล่อคม ต่างจากรุ่นเดียวกัน แค่ได้เห็นทุกวันวัยกำลังแตกเนื้อสาวก็ครามครั่น
อยากยั่วจับพ่อเพื่อนมาเป็น...ให้รู้แล้วรู้รอด ให้เขาสั่งสอนเรื่องคาวขาเตียงสั่นไม่เว้นวัน
---------------------------------------------------------------------------
“หวานไหม?” เสียงเข้มของพ่อเพื่อนเรียกความสนใจ มันเบา แต่ไม่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาและลูกสาวที่นั่งอยู่ประจำโต๊ะของตัวเองก็ได้ยิน แต่ด้วยความที่มันไม่ใช่ประโยคที่กำกวมจนเกินขอบเขต
ในยามที่พ่อเพื่อนพูดกับเพื่อนลูกสาว จึงไม่มีใครสนใจ คนแม่เปิดมือถือดูพลิกผันรอสเสริมความงาม คนลูกเองก็ก้มหน้า ดูข่าวแฟชั่นและดาราประจำวัน ทำให้ไม่มีใครรู้เลยว่าใต้โต๊ะกินข้าวที่โปร่งโล่งตัวนี้
ต้นขาแกร่งของพ่อเพื่อนกำลังอยู่ไม่สุข มันเหยียดตรงมาด้านหน้า ความยาวของมันมากพอที่จะแตกต้นขาของคนที่นั่งอีกฝั่งได้สบาย เพียงแค่แตะเข้าที่เรียวขาบางของเพื่อนลูก เธอก็ขนลุกซู่แล้ว รีบจิกขอบเก้าอี้เพื่อไม่ให้ร่างกายตัวเองยกจนคนอื่นสงสัย
มองพ่อเพื่อนด้วยสายตาสั่นระริก ไม่แน่ใจว่าเขาก็คิดเหมือนเธอหรือแค่บังเอิญ แต่พ่อเห็นสายตาพราวเสน่ห์ของอีกฝ่ายแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น ก็เข้าใจทุกอย่าง การยวนยั่วพ่อเพื่อนครั้งก่อนหน้านั้นได้ผลแล้ว
เพียงแค่ลูบคลำเท่านั้น อีกฝ่ายก็อยากจับเธอทำ...อีกคนจนแทบทนไม่ไหว ขนาดลูกเมียนั่งอยู่ห่างแค่เอื้อมแท้ๆ เขายังไม่สน!
“หวานสิคะ” เธอตอบ ยกแอปเปิลขึ้นมากัดต่อหน้าเขา ผสมลีลาการยวนยั่วตามแบบที่เคยเห็นมารยาหญิงผ่านตามาบ้าง ได้ลองครั้งแรกตื่นเต้นจนกัดพลาด ตอนแรกคิดว่ามันจะดูตลก
แต่การกัดพลาดนั้นทำให้ร่องรอยการกัดผลไม้เปลือกสีแดงสะกิดริมฝีปากบาง มันสั่นกระเพื่อมเล็กน้อย ราวกับเธอกำลังกัดริมฝีปากล่างให้อีกฝ่ายเห็น ซ้ำการที่กลัวตัวเองดูไม่ดีจนประหม่า แลบลิ้นเลียริมฝีปากตามด้วยนั้น
ทำเอาพ่อเพื่อนร้อยวูบวาบ เขากลืนน้ำลายลงคออย่างไม่รู้ตัว โอปอลที่เห็นว่าบางอย่างกำลังพลิกผัน เพิ่มความกล้า เผยปากลอบพูดด้วยประโยคที่ไม่ออกน้ำเสียง ต่อจากคำว่าหวานสิคะ เธอพูดกับพ่อเพื่อนว่า
‘แต่โอปอลหวานกว่าแอปเปิลนี้อีก’ เหลือบมองแล้วยกผลไม้ขึ้นมา ก่อนจะกัดกวมอีกคำเธอเอ่ยไร้เสียงอีกเช่นเดิม ‘พ่อชาญอยากจะลอง กิน สิ่งที่หวานกว่าแอปเปิลหน่อยไหมคะ’
แล้วชี้นิ้วไปที่นาฬิกาข้อมือของตัวเองสองครั้งเพื่อทำสัญญาณ หนึ่งคือให้อีกฝ่ายเพ่งสมาธิมองมายังสิ่งที่เธออยากให้เขารับรู้
‘เที่ยงคืนลูกสาวพ่อหลับแล้วมาเจอกันนะคะ’
เป็นจังหวะเดียวกับที่ลูกสาวเขายื่นมือถือ ชวนเพื่อนสนิทเข้าวงสนทนาเรื่องความสวยความงาม โดยมีผู้เป็นแม่เข้าร่วมวงด้วยอีกคน โอปอฉวยโอกาสพูดไปกัดแอปเปิลแดงไปจนเกือบครึ่ง
มีหลายจังหวะที่ผู้หญิงสองคนนี้เผลอเธอกับพ่อเพื่อนก็ลอบสบตากันเป็นระยะ พ่อเพื่อนที่ยอมรับแล้วว่าเขาอยากจะจับเพื่อนลูกสาวกดลงจนจมเตียงมากแค่ไหน ซ่อนความยากกระหายเอาไว้
แต่เรียวขาของเขาที่ยื่นมามันหลบซ่อนไม่มิด ใช้โอกาสที่อยู่ในที่ต่ำ ไม่มีใครมองเห็นแน่นอน แตะที่เรียวขาขาวของโอปอลแรงอีกครั้ง ยามนี้มันไม่อยู่นิ่ง แต่ลากลงสู้ข้อขาเรียว แล้วลากขึ้นลง
สร้างแรงเสียดสีกับผิวหนังจนคนตัวเล็กคนลุกซู่ มือที่คลายจากการจิกขอบโต๊ะกลับมาจิกแรงอีกครั้ง หายใจหอบเสียเองแล้ว เพราะเธอดันเล่นไปยั่วเสือหิว คืนนี้คงจะถูกเขาจับกดแรงจนลืมวิธีหายใจเป็นแน่!
รับรองได้เลย...ดูจากปลายขาของพ่อเพื่อนที่เลื่อนขึ้นสูงมาแล้วทุกที และตอนนี้มันกำลังพยายามจะมุดเข้าใต้กระโปรงเทนนิสตัวสั่นของเธออยู่!
“อะ...อือ” ต้องกลั้นเสียงเอาไว้ พ่อเพื่อนเองก็ดูจะชอบใจ โอปอลเองก็ไม่ต่างหรอก เขยิบร่างไปด้านหน้า พ่อเพื่อนจะได้ไม่ต้องเหยียดขาจนเมื่อย ต่อให้อาจถูกจับได้ แต่เพราะความฟินจนรู้สึกได้ถึงจุดที่ถูกสัมผัสมันเปียกปอนหนักแล้ว
น่าหวาดเสียว...แต่ก็ยังยินยอมให้พ่อเพื่อนขยี้จุดซ้ำๆ
“เป็นอะไรโอปอล นั่งอยู่ไม่สุขเลย ไม่สบายตรงไหนเหรอ?” แต่ดูเหมือนทำนานเข้ามันไร้ความแนบเนียน ลูกสาวคนดีของพ่อชาญหันมาเอ่ยถาม ใบหน้าเต็มไปด้วยความสงสัย
“พอดีเรารู้สึกไม่สบายตัวนะเหมือนว่าจะเป็นวันนั้นของเดือนเลย” เพื่อนสนิทมีสีหน้าเป็นห่วงเล็กน้อย เอ่ยถามว่าปวดท้องร่วมด้วยหรือเปล่า ซึ่งโอปอลก็พยักหน้า อีกฝ่ายเลยรีบบอกกับผู้เป็นแม่ให้ไปนำยาแก้ปวดวันนั้นของเดือนมา
มองสอดส่องอาการเพื่อนรักที่ตนไม่รู้เลยว่าคิดจะแย่งพ่อไปจากแม่ของตนไม่ห่าง บางครั้งทำเหมือนจะมองลงมาที่หน้าท้อง ก้มหัวเล็กน้อยจนอาจมองเห็นเหตุการณ์อันไม่สมควรของพ่อตนเองใต้โต๊ะ โอปอลก็เอามือจับที่หัวไหล่เพื่อนรัก แล้วเอ่ยหักเหความสนใจ
“มันเหมือนจะปวดมากขึ้นอีกแล้วนะปอลว่า...” ขยับใบหน้าใกล้ใบหูเพื่อน บอกเป็นในว่าข้อความต่อไปเธออยากจะกระซิบมากกว่าพูดออกไปตรงๆ เพื่อนสนิทเองก็เอียงหูรอฟังอย่างตั้งใจ
“เหมือนกางเกงจะเปื้อนเลย ขอยืมไอ้นั่นหน่อยได้ไหม” ผู้หยิงด้วยกันมักเข้าใจ เพื่อนสนิทพยักหน้า บอกว่าเดี๋ยวจะไปเอาเจ้าสิ่งที่เธอเอ่ยขอมาให้ ให้นั่งรออยู่ตรงนี้ ตอนนี้พอทั้งแม่และลูกไม่อยู่ โอปอลก็ถอนหายใจ
เพราะเธอไม่ต้องเก็บอาการดิ้นส่ายเพราะความเสียวอีกต่อไปแล้ว...แต่พ่อเพื่อนให้โล่งใจได้ไม่นาน ขาของเขาก็ใส่แรงเข้ามาอีก ร่างบางสะดุ้งเฮือกเลยทีเดียว คราวนี้เธอเก็บเสียงครางไว้ไม่อยู่อีกแล้ว
“อ๊ะ...อือ...” ครางแล้วจ้องมองหน้าพ่อเพื่อน เอ่ยกับอีกฝ่ายเสียงอ่อย ดูคล้ายจะไม่ชอบใจที่เขาฉวยโอกาสมอบความสยิวให้กัน หากแต่มุมปากกลัยยกขึ้น “พ่อลูกสาวคนหื่น รุนแรงแบบนี้ เดี๋ยวคุณแม่ก็ได้ยินหรอกค่ะ”
“ไม่ได้ยินหรอก หายไปหายาแก้ปวดท้องนานขนาดนี้ สงสัยจะขึ้นไปหาบนห้องด้านบน ตู้ยาบนห้องเป็นกล่องใหญ่ แถมยังมียาหลากชนิดวางปนกันมัว ใช้เวลาหาสักพัก จนพ่อมีเวลา ขยี้ เราจนถึงก่อนสองคนนั้นกลับมาเลยเชื่อไหมล่ะ” เขายิ้มท้า
“แหม่พ่อชาญก็....” โอปอลเองก็ยอมรับการกระทำของเขา ปล่อยให้พ่อเพื่อนขยี้เธอจนหนำใจต่อไป มันรุนแรงขึ้น สองเราจ้องตากันไม่หยุด ความซ่านเสียวที่ปลายขาเขามอบให้ ไหนจะอาการยั่วยวนไม่หยุดของลูกเพื่อน
ทำเอาสองคนอารมณ์เตลิดไปไกลแล้ว หอบหายใจถี่ทั้งสองฝ่าย ใบหูได้ยินเสียงฝีเท้าย่างก้าวเข้ามาใกล้ รู้ได้ทันทีว่าเวลาอยู่ด้วยกันสองต่อสองกำลังจุหมดลง ทุกวินาทีมีคุณค่า พ่อเพื่อนส่งแรงเข้าหากันไม่ยั้ง
จังหวะที่ก่อนร่างของเพื่อนรักและคุณแม่ของเพื่อนจะเดินเข้ามาในห้องพร้อมกันเพียงห้าวินาที โอปอลก็ตัวกระตุก เสร็จสมไปก่อนแล้ว สองมือเธอกำแน่น ใบหน้าแดงก่ำจนดูเหมือนว่าอาการที่โกหกเอาไว้จะดูหนักขึ้น
ทำให้เพื่อนสนิทและผู้เป็นแม่รีบวิ่งเข้ามาหา แล้วพยุงร่างเธอเพื่อพาไปนอน โอปอลยอมตามน้ำไปก่อน ยอมถูกพยุงไร้เรี่ยวแรงเหมือนคนป่วย ยามก่อนเดินจากห้องนี้ไป เธอสบสายตาสื่อความลูกสาวกับพ่อเพื่อน
รอให้ลูกกับเมียเขาเผลอเมื่อไหร่...ก็ให้พ่อเพื่อนย่องเข้าห้องที่เธอนอนพักอยู่ได้ทุกเมื่อ!
“ไม่ต้องนอนเฝ้าหรอก ปอลแค่ปวดท้อง พักนิดหน่อยก็หายแล้ว” หลังจากรับผ้าสำหรับป้องกันเตียงเปื้อนวันนั้นของเดือน โอปอลแสร้งเดินเข้าห้องน้ำไปเปลี่ยน แล้วออกมา ล้มตัวลงนอน แสดงว่าละครคล้ายกับอ่อนเพลีย ดวงตาใกล้ติดเต็มที่
เพื่อสนิทเชื่อปักใจเลยทีเดียว ไม่สงสัยเลย อยากจะเฝ้าเพื่อนก็อยาก แต่อีกฝั่งก็อยากจะไปนั่งเล่นนอนเล่นที่อื่นแทนการมาทนอุดอู้อยู่กับคนป่วยแม้จะเป็นห้องนอนตัวเองก็ตาม เกิดความลังเลอยู่บ้าง จนโอปอลต้องใช้ไม่เด็ด
“ตอนนี้ ชาร์ม กำลังคุยๆ กับรุ่นที่คนนั้นไม่ใช่เหรอ เมื่อกี้ปอลได้ยินเสียงข้อความดังรัวเลย ไม่ตอบข้อความพี่เขา ไม่กลัวเขางอนหรือไงกัน”
“ปอลรู้ได้ไง”
“นี่เพื่อนสนิทนะ จะไม่รู้ได้ยังไงกัน” ส่งยิ้มอ่อน เอ่ยเน้นย้ำว่าอีกฝ่ายอาจงอนได้หากปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปนานมากกว่านี้ คนที่เพิ่งมีความรักอย่างเพื่อนสนิทนะ ยังไงก็ต้องเลือกผู้ชายมากกว่าเพื่อนอยู่แล้ว
เหมือนที่เธอยอมเสี่ยงว่าความสัมพันธ์เพื่อนสนิทนับสิบปีจะจบลงเพราะเธอยั่วจนพ่อเพื่อนมามีความสัมพันธ์ด้วย!
“รีบโทรหาพี่เขาเลย ได้ข่าวว่าดาวโรงเรียนก็ชอบพี่เขาอยู่เหมือนกัน ถ้าช้ากว่านี้ ชาร์ม
อดคบกับพี่เขาปอลไม่รู้ด้วยนะ” เพื่อนสาวพยักหน้าแล้วรีบเดินออกไปทันที โอปอลมองนาฬิกา เวลาประมาณบ่ายสอง
เพื่อนสนิทก็ไม่อยู่ห้อง คงโทรจีบกันอีกนาน ส่วนคนแม่ก็สนใจความสวยความงามมากกว่าลูกหรือสามีอยู่แล้ว ได้ยินว่าบ่ายสองนี้มีเข้าคอร์สสปาหน้าอีกด้วย เวลาที่เธอและพ่อเพื่อนจะได้ใช้ด้วยกันสองคนใกล้จะมาถึงแล้ว
“ยัยชาร์มไปไหน”
“ออกไปคุยกับแฟนอยู่ค่ะ” คนเป็นพ่อได้ยินแล้วมีสีหน้าไม่พอใจอยู่บ้างแต่ตอนนี้ไม่มีเวลามาเข้มงวดเรื่องแฟนของลูกสาว เวลาที่เขาจะได้จัดการเพื่อนลูกจอมยั่วนั้นมีจำกัด ต้องรีบร้อนจนวางเรื่องอื่นลง แล้วสนใจเด็กสาวที่ตอนนี้ยกชายกระโปรงขึ้นต่อหน้าเขาจนมองเห็นความขาวไปถึงไหนต่อไหนแล้ว
“ถ้าพ่อชาญมัวแต่สนใจยัยชาร์มแบบนี้ เวลาของเราก็น้อยลงอีกสิคะ ระหว่างลูกสาวกับโอปอล พ่อชาญเลือกใครมากกว่ากันคะ?” เธอให้เขาเลือก ด้วยรู้อยู่แล้วว่าพ่อเพื่อนที่ทำหน้าตาราวกับเสือหิวกระหายจะเลือกข้อไหน
ก็ใต้กระโปรงเธอนะ...ไม่เหลืออะไรติดร่างเอาไว้เลยแม้แต่ชิ้นเดียว
------------------------------------------------------------------
!!คำเตือน!!
/ เเนว NTR / การจงใจทำให้เกิดสัมพันธ์ต้องห้าม / พ่อเพื่อน เพื่อนลูก /
/ PWP / นิยายเรื่องสั้น / ยั่วยวน / เล่นชู้ /
นิยายเรื่องนี้มีการบรรยายถึงฉากการมีเพศสัมพันธ์อย่างโจ่งแจ้ง
ตัวละคร สถานที่ และการกระทำทุกอย่างไม่มีอยู่จริงเป็นเพียงสิ่งที่นักเขียนจินตนาการขึ้นมาเท่านั้น
นิยายเรื่องนี้เป็นผลงานการเขียนของ
Blue Hestia
ห้ามคัดลอก ดัดแปลง และแก้ไข หรือนำบางส่วนในนิยาย
ออกไปเผยแพร่ไม่ว่าจะด้วยกรณีใดใดทั้งสิ้นโดยไม่ได้รับความเห็นชอบจากเจ้าของผลงาน
สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติ พ.ศ.2558
หากฝ่าฝืนมีโทษตามที่บัญญัติไว้สูงสุดตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ 2558
เน้น PWP เป็นหลัก
Enjoy Reading Kah