ลัคนาน้ำตาร่วง เมื่อรับรู้ได้ว่าอนาคตอันใกล้นี้จะเกิดอะไรขึ้น เรี่ยวแรงในกายอ่อนล้าลงกะทันหันจนต้องทรุดตัวนั่งกับโซฟา หมดแรงต่อต้านขัดขืน เจ็บจนใจด้านชาไปหมด
ลัคนัยให้เวลาน้องร้องไห้อีกห้านาที จนเริ่มเห็นว่าสิ่งที่เอาให้น้องกินนั้นเริ่มออกฤทธิ์ ลัคนากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก พยายามขยับเสื้อผ้าให้คลายความรัดกุมออกจากร่างกาย ผู้เป็นพี่ชายคงจะหวังดีมากเกินไป มันเข้ามาช่วยน้องปลดเปลื้องเสื้อผ้าและสวมด้วยชุดคลุมอาบน้ำ
“ไปกันเถอะ คุณเค้ารอนานแล้ว” เอ่ยด้วยเสียงเย็นชา ก่อนที่จะเป็นฝ่ายอุ้มร่างอวบอัดของน้องสาวออกจากห้องพักที่ตนเปิดไว้อีกห้อง พาเดินไปตามทางจนมาถึงห้องสุดหรูของโรงแรมซึ่งอยู่ชั้นบนสุด
ลัคนัยพูดถึงผู้ชายที่ชื่อพีรภาสอยู่สองถึงสามประโยค คนยืนเฝ้าประตูจึงชะโงกหน้าเข้ามามอง เห็นเป็นหญิงสาวที่นอนกรอกกลิ้งตาไปมาอยู่บนอ้อมแขนของพี่ชาย พิจารณาสักพักว่าเป็นคนที่อีกฝ่ายเคยสัญญาจะพามาพบเจ้านาย จากนั้นจึงยอมเปิดประตูให้ทั้งคู่เดินเข้ามาในห้อง
คนสิ้นหวังได้แต่นิ่ง มองเพดานที่เคลื่อนไปเรื่อย ๆตามจังหวัดการเดินของคนอุ้ม น้ำตาเธอหยุดไหลแล้ว แต่ความเสียใจมันยังกลัดหนองอยู่ภายในจนชาหนึบ มีเพียงภาพทับซ้อนที่เริ่มหลอนในสติสัมปชัญญะ
“อยู่นี่นะหลิว เป็นเด็กดี เชื่อฟังและทำตามที่คุณเติร์กเขาสั่ง” พี่ชายกำชับกับน้องสาวเมื่อพาเธอทอดตัวลงที่เตียงนุ่ม ปาดเช็ดน้ำตาที่ยังชื้นอยู่แก้มบางพอให้หมาดแห้ง จากนั้นวางกล่องถุงยางอนามัยที่พกมาไว้ที่โต๊ะข้างเตียง เมื่อทำธุระเรียบร้อย จึงเดินตัวปลิวออกจากห้องไปอย่างลอยนวล ทิ้งคนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่ให้นอนรอการประหารอย่างน่าอนาถ
ลัคนาเริ่มรู้สึกร้อนสลับกับหนาว เธออยากจะถอดเสื้อผ้าที่สวมใส่อยู่ ความคิดเธอประมวลผลได้อย่างเซื่องซึม ได้แต่ทำตามสัญชาตญาณ เมื่อร้อนก็ต้องถอดเสื้อที่สวมอยู่ออก ริมฝีปากขบเม้มเข้าหากันแน่นยามเมื่อรู้สึกรุ่มร้อนภายใต้ร่มผ้า พยายามอดกลั้นไว้ไม่ให้เปล่งเสียงน่าละอายออกมา แต่ยิ่งห้ามตัวเองเธอยิ่งทรมาน ใบหน้าอิ่มร้อนฉ่าจนแดงเห่อ ลิ้นบางเลียริมฝีปากหวังจะดับความกระหายภายใน
“นี่เหรอดอกเบี้ยของไอ้ลัคนัย” เสียงของชายหนุ่มดังขึ้นบริเวณประตู พร้อมๆกับร่างสูงสมส่วนในชุดคลุมอาบน้ำที่เดินเข้ามาใกล้ๆ
“ไอ้บ้านั่นมันก็เอาให้เธอกินเหรอ” ผู้ที่เข้ามาใหม่ให้ข้อสังเกต ยามที่เห็นหญิงสาวนอนกระสับกระส่ายอยู่บนเตียงนอน เห็นอีกฝ่ายมีอาการคล้ายกันกับเขา ไม่ต้องสงสัยเลยว่าได้รับอะไรเข้าไป