“ตัวละคร ฉาก เนื้อเรื่อง และเหตุการณ์ทั้งหมดในหนังสือเล่มนี้
เป็นสิ่งที่ผู้แต่งสมมุติขึ้นทั้งสิ้น ตามจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น
หนังสือเล่มนี้เป็นนิยายรักวัยรุ่น
ซึ่งมีเนื้อหาเรท NC20+ มีคำหยาบ
และในบางฉากอาจมีความรุนแรงทางเพศ ทั้งต่อร่างกายและจิตใจ
โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน”
................................................................
แก้ม เด็กหญิงที่ย้ายมาใหม่ในหมู่บ้าน
ปืน เด็กชายที่พยายามอยู่ในห่างจากเด็กนิสัยเสีย
แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาก็พลิกผันทำให้แก้มและปืนกลายเป็นเพื่อนสนิทกัน ‘มึง’ ‘กู’ คือคำเรียกที่พวกเขาทั้งสองใช้เรียกัน
ปืนอยู่ห้องคิงส์
แก้มอยู่ห้องควีน
ทุกเช้า ปืนจะมารับแก้มไปโรงเรียนด้วยมอเตอร์ไซค์
ทุกวันศุกร์ แก้มจะมานอนค้างห้องปืน
ความสัมพันธ์ลึกซึ้งไปไกลเกินคำว่าเพื่อน
แต่แล้ววันหนึ่งโชคชะตาคล้ายกลั่นแกล้ง ให้แก้มต้องจากปืนไปไกลไร้คำกล่าวลา แล้วแต่งงานกับคนอื่น
พบกันอีกครั้ง 10 ปีต่อมา เมื่อปืนกลายเป็นบุตรบุญธรรมของสามีใหม่แม่
ทั้งคู่จะยังเป็นเพื่อนกันได้หรือไม่? ในเมื่อสิ่งที่ปืนทำคือการย้อนกลับมาแก้แค้นสิ่งที่แก้มได้ทิ้งเขาไป
หรือ . . . สถานะจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่น
………………………………………….
“อีกเรื่อง กูคิดอยู่นานเลยว่าจะบอกมึงดีไหม แต่มึงก็เป็นเพื่อนสนิท”
มันเงียบไปอีกแล้วจนผมใจคอไม่ดี
“เมื่อวานไอ้กำปั่นมาขอเป็นแฟน”
มือแกร่งสีเข้มอย่างคนผิวสองสีกระชับไหล่เล็กแรงขึ้น เท้ายังก้าวเดินต่อเหมือนไม่มีอะไรเกินขึ้นแต่รู้สึกชาวาบลงปลายเท้า
“แล้วมึงตอบไปว่าไง”
ยายเตี้ยเงียบไปอีกแล้ว ผมจึงหยุดลงกลางทางแล้วผลักมันไปใต้ต้นไม้แถวนั้น
“มึงตอบไอ้กำปั่นไปว่ายังไงแก้ม”
“กูแค่ ... จะลองคบมันเป็นแฟนสักเดือน”
หูผมกระดิกได้ใช่ไหม ทำไมรู้สึกร้อนวาบไปทั่วจนถึงทรวงอก หนังตากระตุกถี่หรี่ตาลงมองร่างเตี้ยกว่า ยายเตี้ยหลุบตามองพื้น
“มึงเอาจริง?”
“อืม กูแค่อยากรู้อะไรบางอย่าง”
“มึงอยากรู้อะไรแก้ม” ผมคาดคั้นต่อ ใจหนึ่งต้องหยุดพูดเพียงเท่านั้นแล้วให้ธรณีสูบผมลงพื้นดินหายไปต่อหน้ายายเตี้ย แต่ใจหนึ่งที่ชั่วร้ายกว่ากลับอยากรู้คำตอบและหาทางกำจัดไอ้กำปั่นออกไป
“มัน .. แค่ กูรู้สึกว่าอยู่กับมึงมากเกินไป ทุกอย่างกูทำร่วมกับมึง กินข้าว ดูหนัง นอนที่บ้าน ทุกอย่างเลย”
คราวนี้ยายเตี้ยเงยหน้าขึ้นมาแล้ว ผมหัวใจจะหยุดเต้น สีหน้าแก้มคล้ายปิดบังบางอย่างอยู่ พวกเราไม่เคยมีอะไรปิดบังกัน และมันทำให้ผมรู้สึกแน่นหน้าอกเหมือนมีเชือกเส้นเล็ก ๆ รัดอยู่และกำลังขึงจนตึงทีละน้อย
“แล้วยังไงแก้ม มึงเลยอยากไปกินข้าวกับคนอื่น ดูหนังกับคนอื่น นอนบ้านคนอื่น อย่าง .. อย่างไอ้กำปั่นใช่ไหม”
ผมหัวเสียสุด ๆ หงุดหงิด ฉุนเฉียว อารมณ์ทุกอย่างที่มัดรวมเอาด้านนิสัยเสียของผมออกมา
“เย็นนี้มึงไม่ต้องไปบ้านกู ไปสมัครสอบบ้านไอ้กำปั่น และต่อไปมึงไม่ต้องซ้อนมอเตอร์ไซค์กูอีก”
“ปืน ปืน”
ผมได้ยินเสียงเล็ก ๆ เปล่งออกมาจากลำคอของยายเตี้ยยามผมสะบัดตัวเดินกลับไปทิศทางตรงกันข้ามกับโรงอาหาร หมดอารมณ์จะกินหรือทำอะไรทั้งนั้น ทางที่ดีโดดเรียนกลับบ้านไปเลยดีกว่า แต่ผมก็ไม่ทำอย่างนั้น ยังทนนั่งเรียนอยู่จนบ่ายสามครึ่งแล้วมองยายเตี้ยซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ไอ้กำปั่นกลับบ้าน - - เวรจริงไอ้ปืน
.....................................................
“ทุกวันเสาร์ มึงจะมานอนบ้านกู” ปืนพูดโพล่งขึ้น
“ใช่ มีอะไร”
“มึงชอบนอนกอดกูจากด้านหลัง มือเล็กของมึงมักพาดเอวมาด้านหน้า” ปืนเอามือฉันไปทาบหน้าท้อง “ตรงนี้ กูต้องคอยจับมือมึงเอาไว้ตลอด”
ฉันเอียงหน้าสงสัย นอนกอดกันมาหลายปี และกอดมันก็บ่อย ไม่เคยรู้เลยว่ามันจงใจจับมือไว้
“ห้าเซนติเมตร นิ้วก้อยมึงอยู่ห่างจากปืนใหญ่กู ห้าเซนติเมตร”
ฉันหลุบตาลงมองทันทีแล้วเห็นหัวลำกระดกห่างแบบเฉียดฉิว แล้วพลันสะดุ้งเมื่อปืนเอามือฉันวางทาบลง
“แต่ไม่แล้ว ต่อไปนี้ มึงและกูจะไม่เหลือช่องว่างอะไรอีก”