ศิรา กิจธนะวรกุล เจ้าของรูปร่างสูงใหญ่ ใบหน้าหล่อเหลา จมูกโด่งเป็นสัน ส่วนสูงราว ๑๘๖ เซนติเมตร ทายาทเพียงคนเดียวของบริษัทศัจกรกิจไพศาล จำกัด หนุ่มนักเรียนนอกจบปริญญาโท ด้านการบริหารจากมหาวิทยาลัยชื่อดังในอเมริกา ที่เพิ่งบินกลับมาอยู่บ้านหมาด ๆ ตามคำสั่งเด็ดขาดของผู้เป็นพ่อที่ต้องการให้ลูกชายคนเดียวกลับมารับตำแหน่งรองประธานบริษัท ชีวิตตั้งแต่เด็กไม่เคยออกนอกกรอบที่พ่อกำหนดไว้ ได้รับแรงกดดันจากผู้เป็นพ่อที่คาดหวังให้ลูกชายคนเดียวสืบทอดธุรกิจที่ตัวเองสร้างมากับมือ
บัวบูชา ชื่อที่มีความหมายว่า ดอกบัวที่นำขึ้นบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เจ้าของร่างบางผิวขาวราวกับหยวกกล้วย ที่มีส่วนสูงประมาณ ๑๖๙ เซนติเมตร ใบหน้าเรียวยาวขาวนวลน่ารัก ดวงตาเรียวยาวสีน้ำตาลอ่อนสีเดียวกับผม มีจุดไฝสีดำเม็ดเล็กข้างริมฝีปากล่างซ้าย ซึ่งเป็นจุดเอกลักษณ์บนใบหน้า ทำให้แลดูมีเสน่ห์ เป็นลูกแม่ค้าขายข้าวแกงอยู่กับแม่สองคน ลำบากแต่เด็ก ขยัน ทำงานเก่ง จิตใจอ่อนโยน แต่ไม่อ่อนแอ เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว
*****************************************
“หึ เลี้ยงดูส่งเสียมาตั้งแต่เรียนไม่จบ จนตอนนี้มีบ้าน มีรถ มีร้านอาหาร มีชีวิตที่ดีแล้ว ก็น่าจะพอได้แล้วมั้ง ปลิงตัวเมีย แบบนั้นไม่คู่ควรกับแก จำไว้”
“ผมก็แค่เล่น ๆ ไม่เคยคิดที่จะจริงจังแต่แรกอยู่แล้ว” เสียงทุ้มที่คุ้นหูเอ่ยประโยคที่บัวบูชาไม่คิดว่าจะได้ยินออกมา ตัวชาวาบ ใจกระตุกบีบรัดแน่นด้วยความรู้สึกเจ็บปวด พยายามข่มกลั้นน้ำตาที่กำลังเอ่อล้นออกมาอย่างยากลำบาก
“แบบนั้นก็ดี รีบจัดการซะ ก่อนที่หนูน้ำเพชรจะกลับมา”
“ครับ”
*****************************************
“เช็คเงินสด ๒๐ ล้านบาท ค่าตอบแทนตลอด ๒ ปีที่ผ่านมา แล้วหนูจะไปไหนก็ไปได้เลยค่ะ”
“ทำ...ทำไมครับ พี่ศิรา” ราวกับถูกฟ้าผ่าลงมาที่กลางใจ ทั้ง ๆ ที่เตรียมใจไว้บ้างแล้วแท้ ๆ แต่ทำไมกันนะ มันถึงได้เจ็บอย่างนี้
“ตอนนี้พี่เบื่อหนูแล้วค่ะ พันธะระหว่างเราสองคนสิ้นสุดแค่นี้ ต่อไปนี้ก็ต่างคนต่างอยู่นะคะ” เสียงทุ้มเอ่ยขยายความกระจ่างให้ร่างบางอย่างชัดถ้อยชัดคำ
“เรารักกันไม่ใช่เหรอครับ?”
“ใครบอกหนูคะ?” ร่างสูงเลิกคิ้วมีสีหน้าแปลกใจกับประโยคที่ได้ยิน
“ที่ผ่านมาบัวเข้าใจผิดไปเองงั้นเหรอครับ?”
“หนูขา หนูลืมไปแล้วเหรอคะว่าสถานะของเราสองคนคืออะไร?”
“.....”
*****************************************
๕ ปีผ่านไป
ศิราเผยรอยยิ้มออกมา เมื่อเลื่อนไปเจอคลิป ๆ หนึ่ง ที่เด็กหญิงตัวน้อยกำลังดีดแข้งดีดขาอย่างดีใจอยู่บนรถเข็นเด็ก ซึ่งผู้เข็นกำลังเดินเลือกซื้อของในห้างสรรพสินค้า มันจะเป็นคลิปทั่วไปที่ไม่มีอะไร ถ้าหากว่ากล้องไม่แพนไปที่ใบหน้าของผู้ที่กำลังเข็นรถ
ศิราชะงักกึกตัวแข็งทื่อ กลางอกร้อนวูบวาบ ใจเต้นระรัวแทบหลุดออกมานอกอก เมื่อเห็นใบหน้านั้นชัด ๆ ใบหน้าที่เขาไม่มีวันลืม
(วันนี้คุณหม่าม้า พาลูกสาวมาซื้ออะไรคะ?) เสียงของผู้หญิงที่ถือกล้องเอ่ยถาม
(มาซื้อของสดครับ วันนี้ตัวเล็กครบ ๓ ขวบครับ) รอยยิ้มสวยที่ทำให้เขาหลงใหลตั้งแต่แรกเจอระบายอยู่บนใบหน้าเรียว แสดงให้เห็นว่าเจ้าของกำลังมีความสุขมากมายแค่ไหน
(มะ.. ม้า มะ.. ม้า) เด็กน้อยพยายามเปล่งเสียงเรียกหม่าม้า ตามผู้เป็นป้า
(ว้าว เก่งจังเลย หลานป้า)
(งั้นวันนี้แสดงว่าป้าฤดีจะได้กินอาหารฝีมือแม่บัวใช่ไหมคะ? น้องงาม) แล้วกล้องก็แพนไปที่ใบหน้าของเด็กหญิงตัวน้อย ที่ตอนนี้ส่งเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากราวกับเข้าใจสิ่งที่คนเป็นป้ากำลังสื่อสาร
(น่ารักจังเลยหลานสาวป้าฤดี เราไปเลือกของกันดีกว่าเนอะ บ๊ายบ่าย ก่อนค่ะคนเก่ง) มือน้อย ๆ ส่ายไปมาให้กล้อง พร้อมด้วยรอยยิ้มที่กว้างจนเห็นฟันซี่เล็ก และส่งจุ๊บให้กล้องทีหนึ่ง ก่อนคลิปดังกล่าวจะตัดจบไป
นักเขียนฝึกหัดขอฝากนิยายเรื่องแรกด้วยนะคะ
เรื่องนี้ตั้งใจมาก ๆ มีคำแนะนำติชมมาได้เลยค่ะ
ยินดีรับฟังความคิดเห็น และนำมาปรับปรุงผลงานเรื่องใหม่ให้ดีขึ้น
หวังว่านักอ่านทุกท่านจะชอบเรื่องนี้กันนะคะ
จากใจ วรากาญจน์