กลลวงบ่วงรัก
13
ตอน
7.62K
เข้าชม
109
ถูกใจ
2
ความคิดเห็น
9
เพิ่มลงคลัง

2 

หญิงสาววิ่งกลับขึ้นมาบนห้องได้ก็คว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาไล่กดหาเบอร์ของปณาลีเพื่อนรัก เธอนั่งฟังเพลงรอสายด้วยความร้อนใจ 

เวลานี้ใจของจันทร์ฉายร้อนเสียยิ่งกว่ามีใครเอาไฟมาสุมทรวงเสียอีก เสียงเพลงแบบวัยรุ่นร้องฟังไม่เป็นคำหยุดไป พร้อมๆ กับความเงียบฉี่เข้ามาแทนที่ 

จันทร์ฉายได้แต่ถอนหายใจทำหน้าเหนื่อยหน่าย สงสัยว่ายัยปานเพื่อนรักยังไม่กลับจากเมืองนอก เธอลืมไปเสียสนิทว่าเพื่อนสาวบอกไว้อยู่ว่าจะไปฉลองวันเกิดที่ปารีสกับหวานใจสักอาทิตย์สองอาทิตย์ อย่างว่าล่ะก็หล่อนได้แฟนรวยนิ! 

แล้วคำว่ารวยก็ลอยเข้ามาในหัวสมองจันทร์ฉายอีกครั้ง หญิงสาวถึงกับเบ้หน้าเมื่อนึกถึงคำพูดของมารดา แม้พ่อเลี้ยงอโณทัยจะร่ำรวยล้นฟ้า แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะเธอไม่ได้รักเขา ต่อให้รวยแค่ไหนชีวิตที่เหลืออยู่ต่อไปนับจากนี้มันจะมีความสุขได้อย่างไรกัน 

“ไม่มีใครช่วย ช่วยตัวเองก็ได้วะ ยัยจันทร์” 

หญิงสาวฮึดสู้อีกครั้ง หลังจากนั่งคอตกกลุ้มอกกลุ้มใจอยู่พักใหญ่ สมัยนี้เทคโนโลยีทันสมัยไฮเทคจะตายไป ใครอยากได้อะไรก็แค่คลิ๊กเพียงคลิ๊กเดียวผ่านหน้าจอคอมฯ เท่านั้น นับประสาอะไรกับคนรักปลอมๆ ของเธอ ก็หาเอาจากในอินเตอร์เนตนี่แหล่ะ 

คิดได้ดังนั้น จันทร์ฉายจึงไม่รอช้าที่จะเปิดคอมพิวเตอร์โน้ตบุคส์ขึ้นมาหาสิ่งที่เธอต้องการ ในที่สุดหญิงสาวก็คิดหาวิธีที่จะได้ตัวคนรักกำมะลอมาควงตบตา หลอกให้คุณนายแจ่มใจเชื่ออย่างสนิทใจ 

นิ้วเรียวบรรจงกรอกรายละเอียดทั้งหมดที่เธอต้องการลงในหน้าประกาศรับสมัครงาน แน่นอนประกาศเฉยๆ มันก็ไม่มีอะไรดึงดูดใจ มันต้องมีของรางวัลมาล่อ ปลาถึงจะฮุบเบ็ด ว่าแล้วเรียวปากบางก็คลี่ยิ้มให้กับความชาญฉลาดของตน 

“ประกาศรับสมัครทอม! ที่ยังโสดด่วน!!! 

อายุ:ขอแค่บรรลุนิติภาวะแล้วเป็นใช้ได้ 

คุณสมบัติ:  ยังไม่มีแฟน ไร้พันธะผูกพันกับใครทั้งสิ้น 

รูปร่างหน้าตา: ไม่จำกัด จีน ไทย ฝรั่ง แขก ได้หมด 

วุฒิการศึกษา: ไม่ระบุ 

ตำแหน่ง: คนรัก(กำมะลอ) 

ระยะเวลา: 1 ปี 

ค่าจ้าง: 200,000 บาท (โดยแบ่งจ่ายสองครั้ง ก้อนแรกวันที่ตกลงทำสัญญาว่าจ้าง และจ่ายที่เหลือทั้งหมดเมื่อสัญญาจ้างงานสิ้นสุด) 

สนใจกรุณามาสมัครด้วยตนเองที่...ในวันเวลาที่กำหนด เพื่อสอบสัมภาษณ์ 

ผู้ที่ผ่านการพิจารณาจะได้เริ่มงานพร้อมกับเงินก้อนแรกทันที 

จันทร์ฉายหยิบสมุดบัญชีธนาคารขึ้นมาเปิดดูยอดเงินที่เหลืออยู่ในธนาคาร ซึ่งตัวเลขในนั้นมีอยู่ไม่ถึงหมื่น แต่ก็ช่างมันเถอะค่อยหาทางแก้ปัญหาเอาทีหลัง ขอแค่ทำยังไงก็ได้ ให้พรุ่งนี้มีคนมาให้เธอเลือก ควงเป็นแฟนหลอกให้คุณนายแจ่มจันทร์เชื่อสักคนก็พอ 

เสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นถี่ๆ ติดกันหลายครั้ง ทำให้จันทร์ฉายต้องเลิกสนใจข้อความที่ตัวเองเพิ่งลงประกาศหาคู่ไปหยกๆ แล้วหันกลับมาควานหาโทรศัพท์ที่เพิ่งโยนทิ้งไว้ในกองตุ๊กตามากมาย ซึ่งแออัดอยู่บนเตียงนอนแทน 

ทันทีที่หาโทรศัพท์เจอ หญิงสาวก็รีบกดรับน้ำเสียงดีใจเป็นอย่างยิ่ง เมื่อได้เห็นเบอร์ที่โทรเข้ามาเป็นของปณาลี 

“ว่าไงยัยปาน ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน กลับมาถึงเมืองไทยหรือยัง? ฉันอยากเจอแกมากๆ เลยรู้ไหม ฉันมีเรื่องจะเล่าให้แกฟังตั้งเยอะแยะ” 

จันทร์ฉายรัวใส่เพื่อนเป็นชุด หลังจากกดรับสาย จนอีกฝ่ายได้แต่ทำเสียงอึก อั่กในลำคอ ไม่รู้จะพูดแทรกตอนไหน 

“นี่! ใจเย็นๆ ก่อนได้ไหมยัยจันทร์ เอาทีละคำถามได้ไหม เล่นถามติดกันเป็นชุดแบบนี้ฉันฟังไม่ทัน” ปณาลีบอกเพื่อนรักกลับมาในสาย 

“ก็ฉันใจร้อนนี่ ฉันมีเรื่องด่วนสำคัญมากๆ เลยที่จะให้แกช่วย ว่าแต่ตอนนี้แกอยู่ที่ไหน กลับมาถึงเมืองไทยหรือยัง?” 

“กลับอะไรกันล่ะ ฉันไม่ได้ไปไหนทั้งนั้นแหล่ะ” ปณาลีทำเสียงเนือยๆ ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นเล่าอย่างไรดี กับเพื่อนรักที่เคยผ่านการมีแฟนมาไม่ถึงสองครั้ง จะได้เข้าใจไอ้อารมณ์ของคนอกหักว่ามันเป็นยังไง 

“ไม่ได้ไป! หรองั้นดีเลย แกมาหาฉันที่บ้านหน่อยนะ ฉันมีเรื่องสำคัญอยากให้แกช่วย” 

จันทร์ฉายไม่เปิดโอกาสให้เพื่อนรัก ได้มีเวลาคิดตัดสินใจแม้แต่น้อย นิ้วเรียวกดตัดสายทิ้งพร้อมกับปิดมือถือไปเสียเฉยๆ เพื่อให้ปณาลีมีสิทธิ์เลือกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือมาหาเธอที่บ้านตามที่ต้องการ 

เวลาผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง เสียงเคาะประตูห้องก็ดังขึ้น พร้อมกับเสียงบ่นอุบอิบ เป็นหมีกินผึ้งของเพื่อนรัก จันทร์ฉายฉุดแขนปณาลีลากเข้ามาในห้องนอน ก่อนจะปิดประตูล็อคกลอนแน่นหนา ด้วยกลัวว่าคุณนายแจ่มใจจะมาแอบฟัง 

“เอ้า! มีอะไรก็ว่ามา ไอ้ธุระด่วนของหล่อนน่ะ คุณนายจันทร์” ปณาลีหย่อนก้นลงบนที่นอน พลางกอดอกมองหน้าเพื่อนรักที่เอาแต่ขมวดคิ้วพันกันจนเป็นปม ตั้งแต่เธอก้าวเข้ามาในห้อง 

“เบาๆ หน่อยสิปลา เดี๋ยวแม่ได้ยิน” จันทร์ฉายจุ๊ปาก ยื่นหน้าเข้ามาใกล้เพื่อนรัก เสียงที่พูดออกมานั้นเบาจนแทบไม่ได้ยิน หากไม่ตั้งใจฟังให้ดีๆ 

“เออๆ มีอะไรก็ว่ามา” 

ปณาลีพยักหน้าหงึกหงัก คะยั้นคะยอให้เจ้าของห้อง รีบพูดธุระสำคัญออกมา 

จันทร์ฉายไม่รอช้า รีบเปิดจอคอมพิวเตอร์ ไปยังหน้าที่เธอลงประกาศหาคู่กำมะลอเอาไว้ ส่วนปณาลีไล่สายตาตามอ่านไปทีละบรรทัด ยิ่งอ่านดวงตาก็ยิ่งเบิกกว้างขึ้นเรื่อยๆ จนเมื่อไล่มาถึงบรรทัดสุดท้าย หญิงสาวถึงกับทำตาโตแทบไข่ห่าน ส่งเสียงร้องอุทานออกมา เมื่อรู้ว่าข้อความที่ประกาศหราอยู่นี้ เป็นฝีมือของใคร 

“ยัยจันทร์! นี่แกทำอะไรของแกกันห๊ะ แล้วคุณป้า? คุณป้าว่ายังไงบ้าง เกิดเพี้ยนอะไรของแกถึงลุกขึ้นมาเล่นอะไรพิเรนทร์อย่างนี้” ปณาลีอดสงสัยไม่ได้ ร้อยวันพันปีจันทร์ฉาย เคยสนอกสนใจ คิดอยากมีคู่ครองเหมือนอย่างคนอื่นเขาที่ไหนกันล่ะ 

“แล้วทำไมต้องเป็นทอมด้วยล่ะ เป็นผู้ชายไม่ได้หรือไง?” ปณาลีซักไม่เลิก เธอยังไม่หายข้องใจ ยอมรับว่าไล่ตามความคิดของจันทร์ฉายไม่ทันจริงๆ 

“ก็แม่จะบังคับให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายบ้ากามที่ไหนก็ไม่รู้ ฉันไม่อยากแต่งเลยโกหกแม่ไปว่าฉันมีคนรักอยู่แล้ว” จันทร์ฉายเริ่มเล่าเรื่องราว ที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้เพื่อนรักฟัง 

“คุณป้าก็เชื่อที่หล่อนแต่งเรื่องขึ้นมาหลอกว่างั้นเหอะ” ปณาลีสรุปเอาเอง 

“ไม่รู้สิ! ฉันไม่รู้ว่าแม่เชื่อหรือเปล่า แต่แกก็รู้ไม่ใช่หรอปาน คนอย่างคุณนายแจ่มใจ ฉลาดเป็นกรดขนาดนั้น มีหรือจะเชื่อน้ำคำเด็กเมื่อวานซืนอย่างฉันง่ายๆ ” 

จันทร์ฉายคิดว่ามารดาคงเชื่อคำพูดเธอ ไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำ 

“แกก็เลยต้องประกาศหาคู่จอมปลอมอย่างนั้นสิ เออ เอาเข้าไปยัยจันทร์เอ๊ย!!!” 

ปณาลีตีหน้าผากตัวเองด้วยความสับสนมึนงง สมองที่เคยลื่นไหล คิดหาทางออกให้กับปัญหาต่างๆ ได้อย่างสบาย กลับมาตีบตัน มองไม่เห็นทางไป 

“ฉันล่ะมองเห็นความยุ่งเหยิงวุ่นวายของเรื่องนี้ ส่อแววมาแต่ไกล แล้วแกจะให้ฉันช่วยอะไร” 

จันทร์ฉายค่อยยิ้มออก หลังจากต้องอดทน นั่งฟังปณาลีพร่ำบ่นเสียยืดยาว กว่าที่เพื่อนรักจะหลุดประโยคนี้ออกมาได้ 

“นี่แหล่ะ! ไอ้ที่ฉันอยากได้ยินจากปากแก ” ร่างบางดีดนิ้วดังเปาะ แล้วขยับกายเข้าไปนั่งเบียดชิดติดกับปณาลี “พรุ่งนี้แกไปช่วยฉันเลือกคู่หน่อยนะ ฉันว่าถ้าแกไปช่วยฉันดูอีกสองตาน่าจะดีกว่าให้ฉันเลือกเอง” 

“เรื่องนั้นไม่มีปัญหาหรอก ต่อให้แกไม่ออกปาก ยังไงฉันก็ต้องไปช่วยแกเลือกแฟนอยู่แล้วล่ะ แต่ฉันก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมต้องเป็นทอมด้วย?! ” หญิงสาวยังไม่หายสงสัย หากวันนี้จันทร์ฉายไม่อธิบายให้ฟังจนกระจ่าง เห็นทีว่าจะนอนไม่หลับ 

“ก็แม่อยากให้ฉันแต่งงานกับผู้ชายดีนัก ฉันก็เลยบอกแม่ไปว่าฉันไม่ชอบผู้ชายน่ะสิ” เสียงหวานสะบัดน้อยๆ บอกให้รู้ว่าไม่พอใจขนาดไหน 

ปณาลีรีบยกมือขึ้นปิดปาก เมื่อทนกลั้นเสียงหัวเราะไว้ไม่ไหวอีกต่อไป หลังจากได้รู้เหตุผลที่แท้จริง ที่ทำให้จันทร์ฉายลงประกาศหาคู่เป็นทอมบอย 

ที่แท้ก็แค่ต้องการอยากเอาชนะ คุณนายแจ่มใจเท่านั้น งานนี้ไม่รู้เหมือนกันว่าระหว่างแม่กับลูก ใครจะเป็นฝ่ายแพ้ชนะ คงต้องรอดูผลกันวันพรุ่งนี้ ว่าจะมีคนหลงผิดมาให้ยัยจันทร์ฉายเลือกเป็นแฟนสักกี่มากน้อย 

####### 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว