**เปิดให้อ่านฟรี ก่อนติดเหรียญ**
**หมายเหตุ :: เรื่องนี้ผ่านการรีไรท์แค่รอบเดียว
หากมีผิดพลาดตรงไหน ขออภัยคนอ่านทุกท่านค่ะ
ชายหนุ่ม ปัณณภัทร เลือกที่จะให้ใจกับงานมากกว่าความรัก เพราะเขาเริ่มเบื่อความรักประเภท “ยามรักน้ำต้มผักก็หวาน” แต่พอนานวันเข้ามันก็เริ่มจืดจาง ต่างฝ่ายต่างไม่ใส่ใจกันและกัน แต่สำหรับเขาไม่ใช่เขาใส่ใจคนรักเสมอ แต่เหมือนยิ่งรักษาความรักนั้นไว้ มันยิ่งไกลออกไป ยิ่งเจอการกระทำของคนรักที่ดูเหมือนจะหมดรักกันแล้ว เราทั้งสองคนเลยเลือกที่จะจบรักครั้งนั้น และปัณก็ไม่อยากมีรักครั้งใหม่อีกแล้ว มันวนเวียนแบบเดิมซ้ำๆ เขาสาบานกับตัวเองว่า หากเขามีรักครั้งใหม่ และหากแฟนถามเขาว่า "กินไรดี" เขาจะไม่ยึกยัก และจะไม่ตอบ "อะไรก็ได้" เพราะคำพวกนั้นมันบั่นทอนจิตใจของอีกฝ่าย แต่ถึงอย่างไร ณ ตอนนี้เขาก็ยังไม่เจอคนที่ใช่เสียที
ตัวอย่าง
“สรุปจะกินไร?” ปัณถอนหายใจหันไปถามแฟนหนุ่มร่างบางที่นั่งข้างๆ ที่กำลังคุยแชทกับเพื่อนในกลุ่มอย่างสนุกสนาน
“อะไรก็ได้...” ร่างบางก็หัวร่อต่อกระซิกกับเพื่อนๆ มือก็จิ้มรัวเร็วเป็นพัลวัน
“งั้นชาบูมั้ย?” ปัณพยายามเลือกในสิ่งที่แฟนเขาชอบไปทานกับเพื่อนๆ
“เฮ้อ!! ชาบูอีกละ? กินกับเพื่อนจนเบื่อละ พี่ปัณจะให้เฟรมไปนั่งกินชาบูอีกเนี่ยนะไม่เอาไม่กิน!!” ร่างบางหันมาแหว๋วใส่คนรัก และตีหน้ายักษ์ใส่ชายหนุ่มไปเสียอย่างนั้น
“แล้วเฟรมจะกินอะไรบอกพี่มาเลยดีกว่า” ชายหนุ่มเองก็ขี้เกียจเลือกเหมือนกัน กลัวเลือกไปแล้วไม่ถูกใจสุดท้ายก็ต้องตามใจคนกินอยู่ดี
“ก็...นึกไม่ออกอ่ะ แต่ตอนนี้กินอะไรก็ได้หมด” ร่างบางตอบไปโดยไม่คิดว่าเมื่อครู่ตนพูดอะไรไป จนชายหนุ่มนึกอยากจะตบหน้าผากตัวเอง
... เมื่อกี้บอกชาบูมั้ย? ไม่แดกกกก!!
...มาตอนนี้ อะไรก็ได้???? เจริญ!!!
สุดท้ายเส้นทางรักของเขามันก็หยุดแค่นั้น เพราะในเมื่อต่างฝ่ายไม่ได้เอาใจเขามาใส่ใจเรามากพอ แยกย้ายกันไปเติบโตนั่นแหละดีที่สุดและช่วงเวลานั้นมันก็ผ่านมาแล้วถึงสี่ปี ที่คนอย่าง “ปัณณภัทร ภักดีเกียรติ” ไม่มีแฟนกับเขาเสียที จนเข้ารับตำแหน่งประธานบริษัทแทนบิดาก็ยังไม่มีวี่แววที่เจ้าตัว จะพาคนรู้ใจมาเปิดตัวกับคนในครอบครัวอย่างเป็นทางการ คนเป็นพ่อเป็นแม่ก็ได้แต่เฝ้ารออุ้มหลานตอนนี้ท่านทั้งสองถอดใจ และฝากความหวังไว้กับลูกสาวคนเล็กน่าจะได้เรื่องมากกว่าพี่ชายคนโต