“บ้านเราเป็นหนี้คนอื่นอยู่ 20 ล้าน”
จะให้ผมยอมรับได้ยังไงในเมื่อตลอดชีวิตที่ผ่านมาผมใช้ชีวิตแบบคุณชายสะดวกสบาย อยากได้อะไรได้ อยากกินอะไรก็ได้กิน อยากได้ของแพงแค่ไหนก็ต้องเอาให้ได้ แล้วจู่ๆ มาบอกว่าบ้านเรามีหนี้
ใครจะเชื่อ!!
ใช่ครับ....ผมไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด
******************************
“ใจร้าย...นี่ตั้งสติใหม่นะ ทางฉันให้โอกาสครอบครัวนายมาห้าปีกับหนี้ยี่สิบล้าน ฉันน่าจะถามนายมากกว่านะไม่ใจร้ายกันไปหน่อยเหรอเงินต้นสักบาทยังไม่เคยได้จากครอบครัวนายเลย”
...เอาไงละไอ้อันพูดอีกเค้าก็ถูกอีกจะพาตัวเองมาให้เค้าด่าทำไมเนี่ย ผมคิดในใจ ไม่มีทางที่จะเถียงเลยจริงๆ
“ผมทราบฮะ เพียงแต่...ผม...ผมไม่อยากแต่งงานกับคุณเพื่อใช้หนี้”
“หึ!!...นี่นายบ้าหรือประสาทกลับ นายคิดว่าฉันอยากแต่งงานกับนายหรือไง”
“ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้นเสียหน่อย แต่ผมรู้ว่าหากมีเรื่องดวงเข้ามายุ่งเกี่ยวแล้วยิ่งมาพร้อมกับคำว่ากตัญญูด้วยแล้วมันจะทำให้ผมปฏิเสธแม่ไม่ได้ ผมถึงอยากมาขอให้คุณยืดระยะเวลาเรื่องหนี้สินก็เท่านั้น”
“ได้ทั้งขึ้นทั้งร่องสินะ”
“ผมไม่ได้ต้องการให้คุณยกหนี้ให้คุณจะคิดดอกเบี้ยเพิ่มก็ได้”
“จะให้ฉันคิดดอกเบี้ยเพิ่ม ถ้าไม่ติดว่าในสัญญาระบุไว้อย่างชัดเจนว่าหนี้ก้อนนี้ให้ยืมโดยไม่คิดดอกเบี้ยละก็ฉันทำไปนานแล้ว”
“แล้วคุณจะให้ผมทำยังไง ไอ้นั่นก็ไม่ได้ไอ้นี่ก็ไม่ได้”
“นี่! อย่ามาขึ้นเสียงกับฉัน”
“โอ้ย...นี่ผมใจเย็นสุดแล้วนะ”
“แล้วนายคิดว่าฉันไม่ใจเย็นหรือไง ถ้าไม่ติดว่านายเป็นลูกเพื่อนคุณแม่ละก็...”
“ทำไม ผมเป็นลูกเพื่อนแม่คุณแล้วยังไง คุณจะเอาไงก็ว่ามาเลย”
“งั้นก็ไปหาเงินมาคืนฉันภายในสามวันก่อนจะหมดสัญญา ทำได้หรือเปล่าล่ะ”
“สามวัน?? คุณก็รู้หนิว่ามันทำไม่ได้” อันร้องลั่นห้องห้าปียังไม่ได้คืนเลย “เอาไปยี่สิบบาทได้ป่ะละ??”
“ถ้าทำไม่ได้งั้นก็เงียบปากไปซะ อย่าทำให้ฉันอารมณ์ขึ้น”
***************************