-บทนำ-
“เอื้อมไม่ได้โกหกจริงๆนะพี่ปิ่น เอื้อมท้องจริงๆ ท้องลูกพี่ปราณต์ พี่ปิ่นบอกพี่ปราณต์ให้เอื้อมได้ไหม หากเขารู้เขาต้องรีบมาหาเอื้อมแน่ๆ” อัญญิศาเกาะขอบรั้วบอกเจ้าบ้านอย่างวอนขอ น้ำตาเม็ดร้อนไหลอาบบนใบหน้างามแต่ริมฝีปากบางกลับคลี่ยิ้มอย่างมีความหวัง
“พอเถอะเอื้อม เธอพูดอะไรไว้ควรรักษาคำพูด อย่าทำตัวไม่มีศักดิ์ศรีไปกว่านี้เลย ที่ผ่านมาปราณต์ฝืนใจและเหนื่อยมามากพอแล้ว อีกสองอาทิตย์ปราณต์ก็จะแต่งงานกับฝ้าย พี่หวังว่าจะไม่เห็นเธอเข้ามาป่วนงานนะเอื้อม ทางใครทางมันเถอะถือว่าพี่ขอ” เพราะเธอที่พาผู้หญิงคนนี้เข้ามาแนะนำให้รู้จักกับน้องชายหวังให้ลืมรักเก่าโดยไม่ศึกษาให้ดีว่าแท้จริงแล้วจิตใจและนิสัยเป็นยังไง หากย้อนกลับไปได้วันนั้นเธอจะไม่พาอัญญิศาเข้ามาในบ้านเด็ดขาด
“พี่ปิ่น ฟังเอื้อมก่อน” อัญญิศาตะโกนเรียกคนที่หันหลังเดินจากไป ก่อนที่ทั้งร่างจะทรุดลงบนพื้นอย่างคนหมดเรี่ยวแรง
“กลับได้แล้วเอื้อม พอได้ทุกอย่างก็ถีบหัวส่ง คนจำพวกนี้จะไปให้ค่ามันทำไม ไม่มีพวกมันแกก็อยู่ได้ อย่างน้อยแกก็มีฉัน” ชรินดาเข้าไปโอบไหล่เพื่อนสาวให้ลุกขึ้น เธอทนเห็นภาพตรงหน้าไม่ไหวอีกแล้ว
“ผู้ชายอย่างนั้นมีอะไรดีนักหนาเอื้อม ตั้งสติแล้วกลับมาเป็นแกคนเดิมได้แล้ว” ชรินดาเตือนสติ อัญญิศาเพื่อนสาวของเธอคนนี้ แต่ก่อนนั้นเป็นคนห่วงศักดิ์ศรีเกินกว่าใคร เพราะเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทผลิตและนำเข้าเครื่องมือทางการแพทย์
“พี่ปราณต์หรอกฉันมาตลอดเลยหรอ เขาทำแบบนี้ได้ยังไง ที่ผ่านมาเขาไม่เคยรักฉันเลยใช่ไหม” น้ำตาไม่รู้กี่หยดไหลรินลงมาอย่างไม่อายใคร เจ็บนอกจนไม่สามารถเอ่ยคำใดออกมาได้อีก
“เด็กสองคนนี้เป็นลูกของปราณต์ใช่ไหม” เป็นปิ่นปักที่เอ่ยปากถามไปตรง ๆ อัญญิศาอยากจะส่ายหน้าปฏิเสธแต่ความจริงไม่สามารถทำให้หล่อนเอ่ยปฏิเสธออกไปได้
“เด็กคนนี้เป็นลูกของเอื้อมเพียงคนเดียว คืนลูกมาให้เอื้อมเถอะค่ะ อย่าให้ต้องได้ขึ้นโรงขึ้นศาลกันเลย” อัญญิศาตอบกลับเสียงสั่น พร้อมกับก้าวเข้าไปหมายจะอุ้มลูกจากคุณปัทมาศ แต่กลับโดนปิ่นปักปัดมือออกเต็มแรงจนเกือบล้มลง
“ปิ่น” คุณปัทมาศที่อุ้มหลานอยู่ปรามบุตรสาว ไม่ว่าอัญญิศาจะปฏิเสธอย่างไร นางก็เชื่อว่าเด็กทั้งสองเป็นลูกของปราณต์และเป็นหลานของนาง DNA บนหน้าหลานก็ชัดเจนพออยู่แล้ว การที่บุตรสาวบุกเข้าไปเอาหลานมาแบบนี้นางก็ไม่ได้เห็นด้วยเท่าไหร่นัก และนางก็อยากฟังความจริงจากปากอดีตสะใภ้ของนางมากกว่า
“เธอจะกีดกันพ่อลูกได้ยังไงเอื้อม ความสัมพันธ์สามีภรรยาตัดกันได้ แต่ความสัมพันธ์พ่อลูกตัดให้ตายยังไงมันก็ตัดไม่ขาด พาเด็ก ๆ ไปตรวจ DNA พร้อมกันแล้วเรื่องอื่นค่อยคุยกันอีกที” ปิ่นปักว่าขึ้น วันนี้จะไม่ไปไหนทั้งนั้นหากอัญญิศาไม่ยินยอมให้ตรวจ DNA
“เอื้อมกีดกันเหรอคะ เอื้อมพยายามบอกข่าวคราวให้เขารู้มาโดยตลอด ถ้าเขามีจิตสำนึกของความเป็นพ่อมากพอเขาต้องรีบมาหาลูกไม่ใช่ปล่อยให้เวลาล่วงเลย แล้วมาเรียกร้องจะรับผิดชอบเอาป่านนี้” ในดวงตาคู่กลมของคนที่คิดว่าทำใจยอมรับกับเรื่องทั้งหมดได้แล้วมาวันนี้กลับสั่นระริกและมีม่านน้ำตาเอ่อคลอ
“เรื่องนั้นปราณต์ไม่รู้เรื่องด้วย ข้อความที่เธอส่งหาปราณต์พี่เป็นคนเปิดอ่านและลบทิ้งเอง” ปิ่นปักว่าออกมา นั่นทำให้ผู้เป็นมารดาหันมาทางบุตรสาวอย่างไม่เชื่อกับสิ่งที่ได้ยิน
“ถ้าอย่างนั้นพี่ปิ่นก็ควรรับผิดชอบผลของการกระทำของตัวเอง เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเอื้อม คืนลูกมาให้เอื้อมค่ะ!”