“ทุกคนมีเหตุผล มีเล่ห์กลทั้งนั้นแหละ” เขาไม่ปฏิเสธที่หญิงสาวสวนคืน จงใจด่าเขา
“ไม่ทุกคนหรอกค่ะ อย่างน้อยฉันก็ไม่มี”
เธอไม่เคยมีเรื่องบ้าๆ ในหัวเลยจริงๆ “งั้นเหรอ แล้วที่เธอหนีการแต่งงานล่ะ อย่าบอกนะว่าไม่ได้คิดแผนไว้ จนหนีหัวซุกหัวซุนมาถึงกรุงเทพกับอนุ” มาลัยกัดปากไว้แน่น เธอไม่นับรวมว่านั่นคือความเจ้าเล่ห์ของเธอ ในเมื่อเธอไม่ได้รัก เธอจะไปแต่งได้ยังไง นี่เขาต้องเพี้ยนมากๆ เลยทีเดียว
“เรื่องนั้นไม่ใช่แผนค่ะ แต่คนเราต้องเอาตัวรอด”
ท่าทางของเขาพอใจกับคำตอบที่ทำได้ดีของเธอ “ตอบได้ดี เอาตัวรอดโดยที่ไม่สนคนข้างหลังจริงๆ”
“คุณเปรม นี่ด่าฉันเหรอคะ”
“ฉันเป็นคนจริงใจ พูดตรงและทำจริง อย่างเช่นอยากเอาเธอฉันก็บอกว่าอยากเอาเธอ และลงมือ” ไม่แค่พูดเปล่า เขายื่นมือรวบเอาร่างของเธอเข้ามาหา จากนั้นเธอก็ทุบไปยังอกของเขา ไม่ได้ออกแรงมาก ยังออมแรงไว้ระดับหนึ่ง แต่ดูเหมือนเขาจะไม่สนใจ
“มันเกี่ยวที่ไหนกันคะ”
เขารวบเอามือของเธอมาจูบเบาๆ แล้วรวบเอาร่างของภรรยามาสวมกอด “ไม่เอาไม่ทะเลาะแล้วนะ”
“คุณเริ่มก่อนนะคะ” ท่าทางของเธอจะเริ่มงอนอีกซะแล้ว ทำให้เขาต้องจูบไปยังกระหม่อมของเธอไปหลายที “ฉันจะไม่เริ่มทะเลาะก็ได้ฉันยอมเมียฉันทุกอย่าง แต่ฉันคงต้องไปแล้วแหละ ฉันมีธุระ เจอกันตอนเย็นนะ”
เขาผละจากไป จับเอาของไว้ในมือ แล้วมาลัยก็เดินตาม ไม่อยากจะให้เขาไปไหนเลย กำลังเข้าใจกันแบบนี้ เธออยากจะให้เขาอยู่ด้วยกันมากกว่า
“คุณเปรม เอ่อ...จะไปไหนคะ”
“จะอยากรู้ไปทำไม”
“ก็...จะมาทานข้าวเย็นไหมล่ะคะ จะได้ทำเผื่อ”
ชายหนุ่มยิ่มพอใจตรงมุมปาก แล้วก้าวขามาใกล้ ต้อนคนตัวเล็กเท่าหน้าอกให้ถอยไปจนติดผนังห้อง แล้วลำแขนข้างหนึ่งของเขาก็วางไว้เหนือศีรษะของเธอ ส่วนฝ่ามืออีกข้างเลื่อนขึ้นมาตามท่อนแขนเสลา ลูบไล้แผ่วเบา สร้างความซาบซ่านไปทั่วผิวเนื้อของเธอ
“หายโกรธฉันแล้วเหรอ”
“จะโกรธไม่โกรธ เราก็ต้องอยู่ด้วยกันไปเรื่อยๆ จนกว่า...”
ชายหนุ่มยกนิ้วชี้ขึ้นแนบไปยังริมฝีปากอวบอิ่ม แดงระเรื่อน่าหลงใหล เขาอยากจะฉกปากลงไปบดจูบเสียจริงๆ แต่คิดว่าถ้าทำแบบนั้นแล้ว เขาก็มั่นใจว่าจะไม่ได้หยุดแค่การจูบ พลอยจะทำให้นัดหมายช้าออกไป
“คิดเหรอว่าฉันจะหย่าให้”