ขลุ่ยสะท้านเสียดใจ ทั้งไหวหวั่น
คล่ำลำพรรณ ถึงเรื่องเก่า มิเล่าขาน
เสียดแหวดแว่ว ดวงจิตร คิดวันวาน
ทรมาน แสนเศร้า เคล้าอารมณ์
เหมือน ใบไผ่พลิ้วไหว เมรัยเยี่ยม
สหายเตรียม โอชารส เลิศประสาน
ฟังเสียงขลุ่ย เคล้าจิตร พิชิตกาล
ลืมวันวาน ดับกลิ่น มิสิ้นใจ
(ขอขอบคุณ supol sutalat ที่มาของบทกลอน)
เหยียนอี้เฟย จอมราชันย์แห่งเเคว้นหยวน
เกิดมาเป็นองค์จักพรรดินั้นช่างเเสนสุขยิ่งนัก ไม่ว่าพระองค์จะต้องการสิ่งใดยากเย็นเเค่ไหน เหล่าข้าราชบริพารก็จะหามากองเเทบพระบาทของพระองค์อยู่ร่ำไป
เเต่นี่มันอะไรกัน!! เจ้าขุนนางเฒ่านั่นกลับไม่ยอมยกบุตรคนเล็กของมันให้เป็นชายาของพระองค์ ช่างน่าตายนัก!
ทั้งๆที่ขุนนางผู้ใหญ่คนอื่นต่างก็แทบจะยกบุตรของตนใส่พานมาถวายให้กับพระองค์ทั้งสิ้น เเต่เจ้าเฒ่านี่มันคิดอะไรของมันอยู่ ถึงคิดกีดกันพระองค์ถึงขนาดนี้
คนงามของพระองค์เองก็ช่างเย็นชาดีเเท้ เเล้วนี่พระองค์จะต้องทำเช่นไร จึงจะได้คนงามมาอยู่ข้างเคียง
หวง สุ่ยเซียน บุตรชายคนเล็กของตระกลูหวง
เเม้หวงสุ่ยเซียนจะเกิดมาดีเลิศพร้อมด้วยทุกสิ่งอย่างในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นสติปัญาญาที่เฉียบแหลม
รูปลักษ์ที่ราวกับเทพจำแลง กลิ่นกายหอมหวานที่ให้คุณดังเช่นยาอายุวัฒนะ บิดาที่รักเขายิ่งชีวิต
เเต่เจ้าตัวก็หามีความสุขไม่
เมื่อเขายังจดจำอดีตรักที่เจ็บปวดนั้นในทุกๆชาติภพที่ผ่านมาได้
ไม่ว่าจะฝืนซักเท่าหร่ ต่อต้านสักเท่าใด มันก็ไร้ผล
อดีตที่ผ่านสอนให้สุ่ยเซียนรู้ว่า เขารักใครไม่ได้