ผม เจ้ายูปทูป กับหนุ่มหลังบ้าน

รักวัยรุ่น

ผม เจ้ายูปทูป กับหนุ่มหลังบ้าน

ผม เจ้ายูปทูป กับหนุ่มหลังบ้าน

RunChaNa

รักวัยรุ่น

3
ตอน
2.11K
เข้าชม
52
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
1
เพิ่มลงคลัง

เรื่องนี้ก่อนลงมือเขียน สองจิตสองใจว่าจะใส่คำว่า 18+ ดีหรือไม่?

 

แต่แล้วก็ตัดสินใจได้ว่า ไม่ดีกว่า เพราะใส่ไปยิ่งทำให้ใครที่ 18- ยิ่งเข้ามาอ่านเพิ่มขึ้น

และยืนยันได้ว่าเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนชอบอ่านเท่านั้น แม้จะไม่ใช่เรื่องยาวแต่ตัวหนังสือนั้นมีเยอะแน่ และเห็นได้ชัดเจนว่ามันจะติดกันเป็นพรืดจนน่าตาลาย

คนเขียนก็ตาลาย แต่ก็บอกกับตัวเองว่าให้พยายามเล่าสั้น ๆ เขียนสั้น ๆ จะได้อ่านได้ง่าย ๆ

อีกทั้งยังต้องใส่คำว่า “โปรดใช้วิจารณญานในการอ่าน” ลงไปด้วย

เพราะเรื่องมันหวาดเสียวจริง ๆ

ให้ดิ้นตาย...

 

เริ่มเรื่องที่บ้านของผมก็แล้วกัน

มันเป็นบ้านสองชั้น อยู่ในหมู่บ้านแห่งหนึ่งแถวชานเมือง เป็นหมู่บ้านจัดสรรราคาไม่แพงมากนัก

เป็นหมู่บ้านเล็ก ๆ มีไม่กี่หลังคาเรือน แบ่งแยกด้วยถนนหลักเส้นใหญ่ผ่ากลาง

มีถนนซอยแบ่งเป็นตาราง ท้ายซอยจะมีถนนเชื่อมต่อถึงกันและกันให้เลือกเอาว่าจะออกหรือเข้าบ้านด้วยซอยไหน

บ้านผมเป็นหลังที่สามนับจากถนนหลัก มีเพื่อนบ้านรอบตัว

บ้านตรงข้ามเป็นครอบครัวใหญ่ มีลูกมีหลานยั้วเยี้ย..เด็ก ๆ ออกมาวิ่งกันที่ถนนหน้าบ้านส่งเสียงลั่นซอย

บ้านติดกันทางซ้ายเป็นหญิงชายแต่งงานใหม่ ผ่านไปแว่บเดียวเห็นผู้หญิงท้องโตซะแล้ว

บ้านติดกันทางขวา เป็นครอบครัวสูงอายุ มีคุณตาคุณยายอยู่กันสองคน ว่างขึ้นมาก็แบ่งมะม่วงที่ปลูกไว้มาให้แม่ผม ทั้งที่ผมเองก็แอบสอยของแกกินมาตั้งแต่ยังเด็ก ก็กิ่งมันยื่นเข้ามาบ้านผมถึงขนาดนั้น

ส่วนบ้านข้างหลังที่มีกำแพงติดกันนี้เป็นบ้านเช่า มีคนย้ายเข้าย้ายออกอยู่บ่อย ๆ เลยไม่ได้วิสาสะสนทนาอะไรกันมากนัก

 

บ้านหลังนี้แบ่งเป็นสามห้องน้ำสามห้องนอน แต่ผมกับแม่แบ่งกันนอนคนละห้อง ห้องนอนที่เหลือจึงเป็นห้องเก็บของไปโดยปริยาย

ห้องน้ำก็เช่นเดียวกัน ไอ้ที่อยู่ข้างบนสองห้องนั้นก็ไม่ได้ใช้ ที่ไม่ได้ใช้ก็เพราะน้ำมันไม่ไหล ที่น้ำไม่ไหลก็เพราะปั๊มน้ำมันเสีย

แม่เคยใช้ให้ผมลองซ่อม ผมเปิดดูแป๊บ ๆ แล้วก็ปิดตามเดิม ก็ผมซ่อมไม่เป็น

แม่มองผมด้วยสายตาเย็นชา..คือตาปรือ ๆ ครึ่งหลับครึ่งตื่น ยิ้มเหยียด ๆ เกาะที่ริมฝีปาก

"แม่ว่าแล้ว..."

 

ผมไม่ค่อยถือสาแม่ แม่มักจะไม่ค่อยเชื่อถือลูกคนนี้ซักเท่าไร

"แม่ถามหมอถึงสองรอบในวันที่แกเกิด เดี๋ยวแม่คงต้องไปถามใหม่?"

"ถามว่าอะไรเหรอแม่?"

"ว่าแกเป็นผู้ชายแน่รึ"

"แง๊ววววววววววว"

 

ผมเป็นผู้ชายจริง ๆ ครับ

สูงตามมาตรฐานชายไทย ผิวขาวเหมือนพ่อ คิ้วหนาเหมือนแม่

แต่ปากที่แดงตลอดนี่ไม่รู้เหมือนใคร

หน้าขาว ๆ คิ้วดำ ๆ ปากแดง ๆ มอง ๆ ไปเลยคล้ายผู้หญิงมากไปหน่อย

ทั้ง ๆ ที่ผมบอกกับตัวเองได้เต็มร้อยว่าผมเป็นผู้ชาย

 

สิ่งที่ยืนยันข้อความดังกล่าวได้เป็นอย่างดี ก็คือผมชอบผู้หญิง

ผู้หญิงสวย ๆ ขาว ๆ อายุอานามไล่เรี่ยกับผมที่บ้านฝั่งตรงข้ามนั่นไง ผมแอบมองเป็นประจำ

เธอชอบนุ่งสั้น นอนเล่นบนเปลที่สวนข้างบ้านของเธอให้เห็นอยู่บ่อย ๆ

บางครั้งบางทีเราก็ได้คุยกันบ้าง ยิ้มทักกันบ้าง เธอเองก็กล้าพอที่จะให้ผมสอนการบ้านให้เธออยู่เหมือนกัน

แต่เราก็ไม่สนิทกันนักหรอก อาจจะเป็นเพราะคำพูดของแม่ผมก็เป็นได้

"ระวังไว้หน่อยก็ดี ลูกเขาเป็นสาวเป็นแส้ ถึงอย่างไรเราก็เป็นผู้ชาย มันดูไม่ดี"

"ไม่ดีอย่างไงฮะ?" ผมไม่ได้แกล้งถาม แต่อยากรู้ความเห็นของแม่

"แกจะเสียท่าเขาน่ะสิ"

"แง้ววววววววววววว"

 

ตามปกติผมจะอยู่บ้านเสียเป็นส่วนใหญ่

พอเลิกเรียนก็เข้าบ้าน เว้นแต่จะไปเดินห้างฯ เล่นกับเพื่อน ๆ หรือบางทีก็ไปดูหนังเฉพาะเรื่องที่อยากดู (และแน่ใจว่าจะรอดูจากซีดีเถื่อนคงไม่สนุกเท่า)

ส่วนวันหยุดนั้นก็มักจะอยู่กับบ้านเป็นเพื่อนแม่

ทั้งบ้านมีแม่กับผมสองคน

อ้อ..มีเจ้ายูทูปอีกตัว มันเป็นหมาน่ะครับ

พันธุ์อะไรไม่รู้ ตัวเล็ก ๆ คนฟู ๆ

เพื่อนแม่เขาให้มา ด้วยเหตุผลเล็ก ๆ ว่า

"มันเห่าหนวกหู"

 

สิ่งที่พ่อทิ้งไว้ให้ก่อนแกจะจากไป ก็คือศาลาทรงไทยหลังบ้าน

มันยกพื้นสูง มีหลังคาคาร์บอเน็ต(เรียกถูกเปล่า?)สีขาวมุงกันแดดไว้ให้

ยังมีต้นอินทนนท์ซึ่งผมดูอย่างไงก็คือต้นตะแบกชัด ๆ  แผ่กิ่งก้านหนาทึบคลุมอีกชั้นหนึ่ง

มันมีเนื้อที่พอที่จะปูเสื่อนอนเล่นหรือตั้งโต๊ะทำการบ้านท่ามกลางลมเย็น ๆ ได้

ผมมักจะนอนเล่นจนหลับผลอยไปบ่อย ๆ

โดยมีเจ้ายูทูปนอนอยู่บนพุง

 

มาวันหนึ่งบ้านที่ผมบอกว่าเป็นบ้านเช่าก็มีความเคลื่อนไหวอะไรบางอย่าง

ท่ามกลางการเห่าขรมของเจ้ายูทูปซึ่งนอนเล่นกันอยู่ดี ๆ กับผมบนศาลา ทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะต้องลุกขึ้นดู

ในขณะที่มือหนึ่งบีบปากเจ้าหมาน้อยเอาไว้ ผมยืดคอมองข้ามกำแพง เห็นปิ๊กอัพสี่ประตูคันหนึ่งจอดที่หน้าบ้านหลังนั้น

มีชายคนหนึ่งลงมา น่าจะเลยวัยกลางคนไปไม่นานนัก แปะหนวดไว้นิดหน่อยพอสังเขป

อีกคนหนึ่งเป็นชายหนุ่มผมปะบ่า จมูกแหลมตาเข้ม เสื้อยืดขาวกางเกงยีนส์ ลงตามมา

และยังมีเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ แก้มยุ้ย ๆ ขาว ๆ ลงมาด้วย ส่งเสียงเจื้อยแจ้วตามประสา

แล้วผมก็เลิกสนใจ หันมาทำความตกลงกับเจ้ายูทูปที่กำลังใช้สองขาหน้าของมันแกะนิ้วของผมเป็นพัลวัน

ขณะที่หูก็เงี่ยฟังอย่างอดเผือกเรื่องชาวบ้านไม่ได้

ก็นะ เรื่องอย่างนี้มันฝังอยู่ในยีนตั้งแต่เกิดมาแล้วนี่นา

 

"ในเมื่อแกอยู่กับแม่ใหม่แกไม่ได้ แกก็ต้องอยู่คนเดียว  ปีกกล้าขาแข็งแล้วนี่ รีบเอาของลงเร็ว ๆ ฉันมีธุระต้องไปทำ ไม่ได้เป็นคนไร้ประโยชน์อย่างแก.."

เป็นเสียงของชายวัยกลางคนคนนั้น

 

"ผมจะอยู่กับพี่ก้านคับคุณพ่อ"

เป็นเสียงของเด็กชายวัยห้าหกขวบคนนั้น

 

"ไม่ได้..ขึ้นไปรอที่รถนะลูก"

"ทำไมล่ะฮะ?" เด็กน้อยเสียงพร่า ผิดกับตอนแรกที่มาถึงอย่างเห็นได้ชัด

"แล้วพี่ก้านจะอยู่กับใคร ทำไมคุณพ่อไม่อยู่กับพี่ก้านล่ะฮะ?"

"แล้วคุณแม่จะอยู่กับใครล่ะลูก..ลูกไม่รักคุณแม่หรือ?" สำเนียงที่คนเป็นพ่อพูดกับลูกอีกคน ไหงมันคนละโทนอย่างงี้ เต็มไปด้วยความอาทรห่วงใยรักใคร่อย่างเต็มที่

"ไม่เป็นไรครับน้องต้น พี่อยู่ได้ แล้วพี่จะไปหาน้องต้นบ่อย ๆ นะ"

เป็นเสียงของเด็กหนุ่มคนนั้น

เสียงทุ้มนุ่มดีแฮะ

"ต้นรักพี่ก้าน ต้นอยากจะอยู่กับพี่ก้าน.." แล้วแกก็ร้องไห้ออกมา

"อ๋อง.."

ผมตบปากเจ้ายูทูปดังเพี๊ยะ

 

 

=====

 

การมีเพื่อนบ้านใหม่เป็นธรรมดาที่ใครก็คงจะตื่นเต้น

เอ๊ะ หรือไม่มีใครเขาตื่นเต้นกัน ยกเว้นผม?

ก็ทำไมล่ะ ดีเสียอีกจะได้มีคนคุยด้วย ดีเสียอีกจะได้มีเพื่อนผู้ชายในวัยเดียวกันที่มีบ้านอยู่ติดกัน มีปัญหาอะไรจะได้ปรึกษาซึ่งกันและกัน

ผมชะโงกดูหน้าตาหนุ่มคนนั้นอีกครั้งแว่บหนึ่ง

ดีเสียอีกที่มีเพื่อนหน้าตาดี ๆ อย่างนั้นไว้เป็นเพื่อน

อ๊ะ..ผมฉุกคิด..แล้วกลืนน้ำลายเอื๊อก..

ชักแปลก ๆ แล้วเว้ยเฮ้ย..!!

 

ผมยังยืนยันว่าทุกความรู้สึกและทุกอนูในร่างกายของผมเป็นผู้ชายและไม่ได้เป็นเกย์เป็นตุ๊ดอะไรทั้งนั้น

แค่รู้สึกดีเล็ก ๆ ที่ได้มองหน้าผู้ชายหน้าตาดี ๆ ก็เท่านั้น

ซึ่งก็ไม่น่าจะแปลกอะไร ผมเองก็ยังชอบณเดช ชอบมาริโอ้  ชอบเจมส์จิ ณ วังจุฯ เหมือนกับใครหลาย ๆ คน

และยังชอบญาญ่าขณะทำปากจู๋ยกสองนิ้วยิงพิ๊วช์ ๆ ตอนโฆษณา 9จีไปพร้อม ๆ กันด้วย

ไม่รวมคนที่คุณก็รู้วาใครที่ชอบทำนิ้วชี้กับนิ้วโป้งเป็นตัวแอลวางแหมะบนสันตะหมูกตัวเองอีกด้วย

มีอะไรน่าแปลกอยู่รึ??

 

ผมได้ยินเขาขนของเพียงคนเดียวอยู่นานหลายนาที

ตาก็มองเจ้ายูทูปที่บัดนี้ถูกเชือกรัดปากไว้เรียบร้อยแล้ว

ใจก็เต้นโครมครามขณะตัดสินใจว่าจะเข้าไปช่วยเขาดีหรือเปล่า

"ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณมาก"

เป็นคำตอบของเขาหลังจากที่ผมลุกขึ้นถามเขาว่ามีอะไรให้ผมช่วยไหม?

"รอแป๊บนะ"

ผมขี่จักรยานอ้อมไปที่บ้านหลังนั้นทันที

"ไอ้ลูกคนนี้ แกล้งหมาทำไมเนี่ย??"

เสียงแม่ตะโกนไล่หลังมากแว่ว ๆ

 

====

 

ตอนนั้นผมใส่เสื้อยืดเหมือนกัน แต่สีเขียว

กางเกงบอลขาสั้นสีแดง มองไกล ๆ คงเหมือนต้นพริก

นึกเสียดายว่าทำไมไม่ใส่เสื้อยืดบาง ๆ สีขาวบ้าง

เวลาเหงื่อออกชุ่ม ๆ จะได้แนบเนื้อเห็นอะไรบาง ๆ เหมือนเขาคนนั้น

กล้ามอกพอมี กล้ามท้องพอใช้

สำคัญที่กล้ามแขน ใหญ่กว่าผมสองเท่าได้

เหงื่อพราวที่ใบหนา เกาะที่ขนตาวาววับ

แอ๋..ผมกำลังบรรยายอะไรเนี่ย

ก็แค่เพื่อนใหม่คนหนึ่งเท่านั้นเอง

 

หลังจากช่วยเขายกของเข้าบ้านเสร็จ ผมมานั่งหอบแฮ่กตรงโต๊ะหินอ่อนหลังบ้านของเขา

มันอยู่ใกล้กับศาลาพักใจของผม เพียงแต่มีรั้วปูนไม่สูงนักมากั้นไว้เท่านั้น

เขาออกจากบ้านมาพร้อมกับน้ำเย็นในมือ

มันไม่ใช่ใส่แก้ว แต่ใส่ถุงพลาสติก

เขาหายเงียบไปเพื่อไปซื้อมันมานี่เอง

ขี่จักรยานของผมไปเสียด้วย

"บ้านของนายร่มรื่นดีนะ"

ผมดูดน้ำจ๊วบใหญ่ มันชื่นใจดีแท้ เห็นเขาพยักเพยิดไปทางต้นอินทแบกของผม

"หลังนี้ก็ไม่เลวนะ.." ผมชี้ไปที่ต้นกล้วยใบเหี่ยวสองสามต้นที่อยู่ใกล้ ๆ

"ร่มรื่นอยู่บ้างหมือนกัน"

เขาหัวเราะ เสียงหัวเราะกวนใจดีเหลือเกิน

"มีเวลาเราต้องหาอะไรมาปลูกบ้างแล้วล่ะ.."

 

แล้วต่างคนก็ต่างเงียบ

ผมเป็นคนไม่ค่อยพูด แม้แม่จะบอกให้เงียบ ๆ เหมือนคนอื่นเสียบ้างในบางครั้ง แต่วันนั้นผมพูดไม่ค่อยออก

ส่งสายตาไปมาจนรำคาญตนเอง เลยชวนเขาคุยไปเรื่อย

"นายเล่นกีตาร์เป็นด้วยเหรอ? เราก็เล่นดนตรีเหมือนกันนะ"

เขาทำตาโต "จริงเหรอ เล่นกีตาร์เป็นเหมือนกันเหรอ?"

ผมส่ายหน้า ใจนึกถึงคีย์บอร์ดที่บ้านซึ่งตอนนี้ฝุ่นเกาะจนมองไม่เห็นแป้นคีย์

"คีย์บอร์ดน่ะ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยได้เล่นแล้ว"

"จริงหรือเปล่า วงของเรากำลังขาดมือคีย์บอร์ดพอดีอยู่เลย..เรามาเล่นด้วยกันไหม?"

ผมได้แต่ส่งเสียงแหะ ๆ

หัดมาสิบปีกดได้แค่สามคอร์ด

"อย่าล้อเล่นน่า เราเอาจริงนะ" ผมพูดออกไปได้ยังไงก็ไม่รู้

เขายกมือให้จับ

นิ่มชะมัด อุ่น ๆ พิลึก

"ได้เลย..."

 

=====

 

แม่ถามถึงก้านอยู่บ้างเหมือนกัน

"ทำไมพ่อเขาให้มาอยู่คนเดียวอย่างนี้ พิลึกคน ถึงจะเข้ามหาลัยแล้วก็เถอะ แต่ก็ยังเป็นเด็กอยู่ จะดูแลตัวเองได้แค่ไหนกันนะ"

แกฟังที่ผมแอบได้ยินมาแล้ว

"ปัญหาครอบครัวตัวเองสร้างเองแท้ ๆ แต่มาลงที่ลูก นี่แหละหนาที่เขาเรียกว่าหลงหัวปักหัวปำ"

"มันอาจจะไม่เป็นอย่างที่เราคิดก็ได้นะแม่" ผมพยายามแย้ง ทั้งที่ใจก็เห็นด้วยกับแม่

"ทำไมจะไม่ใช่ นี่คงจะมีปากมีเสียงกับแม่เลี้ยงเข้าน่ะสิ ถึงอยู่ไม่ได้ แล้วแทนที่พ่อจะเข้าข้าง กลับมาเช่าบ้านให้ลูกมาอยู่คนเดียวซะนี่ พ่ออย่างนี้ก็มีด้วย แล้วนี่แม่แท้ ๆ เขาอยู่ไหนกันนะ? สงสัยจะตายไปแล้ว...ฯลฯ"

"ผมชวนเขามานั่งเล่นที่บ้านได้ไหมฮะ?"

ผมพยายามเปลี่ยนเรื่อง กลัวแม่จะวกเข้าละครก่อนข่าวหลังข่าวที่ติดงอมแงมแทบทุกช่อง

"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ ลูกเองก็ควรจะช่วยแนะนำเขาด้วยแหละ ร้านค้งร้านค้าร้านขายกับข้าวที่อร่อย ๆ วันไหนที่แม่ทำกับข้าวพิเศษก็ชวนเขามากินด้วย เฮ้อ..เห็นแล้วก็สงสาร เหมือนเรื่อง..."

"แม่ครับ..ผมหิวข้าว"

แกชะงักกึก ทำหน้านิ่ว

"วันนี้ทำไมหิวเร็ว ไปต้มมาม่ากินโน่นไป..."

แล้วแกก็กดรีโมทดูช่องละครของแกต่อไป

 

=====

 

นั่นเป็นเหตุการณ์หลังจากที่ก้านมาช่วยซ่อมเครื่องปั๊มน้ำให้บ้านเรา

ผมเห็นเขาใช้น้ำหยอดลงไปในรูที่เปิดฝาขึ้นมาจนล้น แล้วก็ปิดฝา จากนั้นให้ผมลองเปิดก๊อกดู

มันส่งเสียงครืดคราดสองสามครั้ง จากนั้นน้ำก็ไหลปริ๊ดดดด

เย้..ห้องน้ำชั้นบนของผมใช้ได้แล้ว

"เก่งจังเลยลูกก้าน รู้ได้ไงว่าต้องซ่อมอย่างนี้..??" แม่ผมถาม มองเขาด้วยสายตาที่ไม่เคยมองลูกตัวเองมาก่อนเลย

"ผมถามกูเกิ้ลครับ"

เป็นคำตอบที่เรียบง่าย แต่เจ็บจี๊ดเข้าไปในหัวใจของผม

ตบหัวตัวเองดังเพี๊ยะที่โง่เหลือเกิน

 

=====

 

เราสนิทกันได้ง่ายดาย..ตามประสาผู้ชายวัยเดียวกันและมีความชอบที่คล้ายกัน

ผมชอบตีแบดแต่เขาเตะฟุตบอล

เขาชอบกีตาร์แต่ผมชอบคีย์บอร์ด

เขาชอบแกงส้มแต่ผมชอบแกงจืด

เขาชอบผู้หญิงแต่ผมชอบ..เอ่อ..ผมก็ชอบผู้หญิง

โดยเฉพาะผู้หญิงคนนั้น..

 

"น่ารักดีนะ สนิทกับนายไหม?"

เขาถามถึงเธอคนที่อยู่บ้านตรงข้ามกับผม คนที่ชอบนุ่งสั้นนั่นน่ะ

"สนิทสิ มากด้วย" ผมตอบไปยังงั้นเอง

"นายจีบเธอเหรอ?"

"ป๋าว.." รีบปฏิเสธเสียงสูง เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน "แต่เธอคงจะมีแฟนแล้วล่ะ"

ผมตอบในสิ่งที่ตัวเองคิดไม่ถึง ผมจะไปรู้ได้ยังไงว่าเธอมีแฟนแล้วหรือยัง ก็ผมไม่เคยถามและเธอก็ไม่เคยบอก

หรือคล้ายกับว่า ผมต้องการให้เขาหมดความสนใจในตัวเธอให้ได้??

ผมทำอย่างนั้นเพื่ออะไร??

"ไม่เป็นไร อย่าเป็นแฟนนายก็พอแล้ว.." เขาทำตาวาว ๆ แปลก ๆ

"นายจะทำอะไร?"

"ลองจีบดู"

แง๊ววววววววววว

 

=======

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว