แก๊งป่วนทะลุมิติ
บทที่ หนึ่ง ตอน..เฟิงหนิงหลิน
"..???..."
แดนดินตื่นขึ้นมาในห้องอับชื้น..ข้างๆเต็มไปด้วยกองฟืนและท่อนไม้มองสำรวจตัวเองไม่พบร่องรอยใดๆมีเพียงคราบสกปรกนิดหน่อยตามเสื้อผ้ายาวรุ่มร่ามถึงมันจะสวยแต่ไม่ใช่สเป๊กที่ชอบ..หันซ้ายหันขวา..เจอมีดอยู่หนึ่งเล่มและขวานผ่าฟืน..
"น่ารำคาญ ชุดยาวรุ่มร่าม" ว่าดังนั้นแดนดินจับมีดเฉือนชายยาวลากพื้นออกทั้งหมด เสื้อผ้าหรูหราถูกหั่นไม่เหลือซาก..แดนดินเดินไปที่ประตูแล้วดึงบานประตูไม้ที่ถูกล็อกด้วยโซ่เอาไว้
"ล็อกเหรอ..หึ..."
แดนดินดึงขวานออกจากตอไม้ แล้วจามไปที่ประตูเพียงสองครั้งโซ่ที่ล็อกอยู่ขาดสะบั้น ตามด้วยลูกถีบแรงสูงเสียงดังสนั่น จนทหารรักษาจวนและบ่าวไพร่แห่กันมา มองบานประตูที่แตกเอียงไม่เหลือดี ร่างของแดนดินที่ก้าวออกมาพร้อมรอยยิ้มหยันให้คนทั้งจวน รวมถึงเสนาบดีฝ่ายขวาไป๋ซุนเค่อที่ถูกพ่อบ้านเชิญมายังห้องเก็บฝืนที่ขังอนุเฟิงหนิงหลินเอาไว้ เนื่องจากเมื่อวาน..อนุเฟิงหนิงหลินได้ตบตีอนุคนโปรดที่มาใหม่เพราะความหึงหวง
ปกติอนุเฟิงหนิงหลินเป็น คนขี้โวยวาย อารมณ์ร้อน...อิจฉาใส่ไฟเพราะชอบท่านเสนาบดีไป๋ บังคับให้ท่านตาที่เป็นสหายต่างวัยกับท่านเสนาวดีกล่าวทวงบุญคุณให้รับหลายชายเพียงคนเดียวแต่งเข้าจวนในฐานะอนุ แม้ไป๋ชุนเค่อจะไม่ยินดีเท่าไหร่แต่ด้วยรูปร่างหน้าตาที่งดงามก็ไม่อาจปฏิเสธได้ เฟิงหนิงหลินจึงปีนขึ้นเตียงท่านเสนาบดีและตามเข้าจวนหวังไต่เต้าจากอนุไปยังตำแหน่งที่สูงกว่า
แต่ท่านเสนาบดีนั้นเบื่อความช่างพูดที่คอยให้ร้ายผู้อื่น ขัดกับหน้าตา ผมดำสนิทยาวดังม่านน้ำตก ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนดังลูกกวาง ผิวอมชมพูปากแดงระเรื่อ ชอบแต่งหน้าหนาเตอะใส่น้ำหอมฉุนตลอดเวลาท่านเสนาบดีพยายามเขี่ยทิ้งหลายรอบแล้วแต่ติดที่เป็นหลานของสหายต่างวัย จึงได้แต่ทำโทษสถานเบาและครั้งนี้ถึงกับพังประตู แต่ทำไมออร่ารอบๆตัวถึงดูเปลี่ยนไป ดูสงบจนเยือกแข็งไม่เหมือนคนเดิม
แดนดินเป็นคนไม่ชอบพูด ไม่สิ ต้องบอกว่าพูดแต่ไม่ค่อยทันไอ้สองหน่อที่แข่งกันพูดทั้งวัน แดนดินที่พูดไม่ทันก็รับบทเป็นผู้ฟังที่ดี กลายเป็นว่าคนอื่นมองว่าเป็นคนเงียบไม่ค่อยพูด แต่ชอบปฏิบัติมากกว่าไม่ใช่ไม่ตกใจ แต่ในเมื่อมันเป็นแบบนี้ ก็คงต้องเลยตามเลย แต่เจ้าเพื่อนสองหน่อนั้นอยู่ที่ไหนกันนะ ต้องออกไปจากที่นี่ก่อนแล้วกัน ยิ่งความทรงจำของเจ้าของร่างที่ไหลเข้ามาก่อนหน้ายิ่งเข้าใจสถานการณ์..อนุคนใหม่สวยดีนะ เสียดายปากแดงหนาขาวไปหน่อย...
แดนดินจับใบหน้าของอนุเฟิงหนิงหลินที่ตนเองเข้ามาอยู่แทน...เห็นแป้งขาวติดมือ...สงสัยต้องล้างหน้าก่อนคันยุบยิบ แดนดินหันไปเจอบ่อน้ำด้านข้าง เดินไปตักน้ำท่ามกลางสายตาของคนในจวน ก่อนจะราดน้ำเย็นลงมาทั้งตัวและอีกถังสำหรับล้างหน้าจนเนื้อแท้ปรากฏแก่สายตาคนทั้งจวน เท่านั้นยังไม่พอแดนดินถอดเสื้อตัวนอกออกตามด้วยตัวในที่เปียกชุ่ม เสยผมที่ปกหน้าอย่างลวกๆขึ้น ถ้าเป็นเมื่อก่อนคนจะตะลึงในความหล่อแมนแฮนซั่ม แต่ตอนนี้อยู่ในร่างคนงาม กลายเป็นภาพยั่วยวนของชายงามไปซะนี้...เสียดาย
"พวกเจ้าหันหลังให้หมด..เฟิงหนิงหลิน! จะมากไปแล้ว หัดรักนวลสงวนตัวเสียบ้าง มาเปิดเผยเนื้อตัวต่อหน้าบุรุษอื่นนอกจากสามีของเจ้า แบบนี้ไร้ยางอาย" เสนาบดีไป๋หลังจากหลุดจากภวังความงามแปลกตาของอนุเฟิง หันมาต่อว่าอนุที่กำลังเปลือยอกท่อนบนท้าลมท้าแดดท่ามกลางสาธารณะชนในจวน
"สามี....ผม..ข้าไม่ยักจะจำได้..เจ้าอยากให้ข้าออกจากจวน..ได้อยู่แล้ววันนี้เลย"
"อะไรนะ!...เจ้าว่าอะไรนะ..ใช่ข้าอยากให้เจ้าออกจากจวน แต่เจ้าเป็นหลานของสหายที่ฝากไว้ก่อนตาย..เจ้าไม่เหลือใคร ข้าไม่อยากผิดคำพูด..ข้า"
"หุบปาก..รำคาญ" แดนดินหยิบมีดออกมา ทหารเข้าคุ้มกันท่านเสนาบดีเพื่ออนุเฟิงคิดร้ายจะแทงเสนาไป๋ขึ้นมา
"หึ..ไม่จำเป็น" มีดตวัดตัดเส้นผมดำยาวเหลือความสั้นเพียงปิดคอ แดนดินทิ้งผมให้กระจายไปกับสายลมอย่างไม่ใยดี เดินไปตบบ่าท่านเสนาบดีสองสามทีอย่างให้กำลังใจ ที่ยังตะลึงไม่หายอ้าปากผะงาบๆเหมือนปลาขาดน้ำ
"โชคดีนะ"
แล้วก้าวผ่านไปยังเรือนหลังน้อยที่อยู่หลังจวน เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่ทะมัดทะแม่งและเหมาะที่จะเดินทางไกล ชุดเรียนๆสีน้ำเงินเข้มผมถูกรวบเก็บ ทรัพย์สินที่มีค่าและสามารถนำไปขายได้แดนดินเก็บมาทั้งหมด มองไปรอบๆห้อง ที่เจ้าของร่างเก่าชิงชังเป็นนักหนา เดินออกจากเรือนอย่างสง่าผ่าเผยยังไม่ทันพ้นประตูส่วนหน้า
"ต้องตามหาสองหน่อนั้นก่อน"
"ช้าก่อน หนิงหลินเจ้าเป็นอนุในเรือนหลัง จะไปไหนต้องขออนุญาตข้าก่อน คิดว่าจวนเสนาบดีเป็นสนามเด็กเล่นหรือไงกัน" จะเป็นใครได้ถ้าไม่ใช่เจ้าของจวนแห่งนี้
"ใคร?...ข้าไม่รู้จัก..ถ้าเฟิงหนิงหลินคือข้า..แต่อนุเฟิงหนิงหลินตายไปแล้ว"
แดนดินหันไปตอบเสนาบดีนกขุนทองที่กำลังเดินมาพร้อมกับอนุคนโปรดคนใหม่ บุรุษปากแดงส่งสายตาเย้ยหยันมาให้มือเกาะเป็นปิงไม่ปล่อย...มีหรือแดนดินจะสนใจ มีมารยาทกล่าวลาสักหน่อยจะหาว่าพ่อไม่สั่งสอน
"ลาก่อน"
"หยุดนะ...ข้าบอกให้หยุด" แดนดินยังคงเดินตรงไปข้างหน้าโดยไม่สนใจเสียงเห่าหอนด้านหลังแม้แต่น้อย พูดถึงว่าเสนาบดีไป๋ชุนเค่อสามีเก่าของเฟิงหนิงหลินก็หน้าตาดีไม่น้อย ผมสีขาวควันบุหรี่ยาวหยักโศกถูกรวบเป็นเปียข้างอย่างง่ายแต่ดูน่ามอง ดวงตาคมเฉียงขึ้นรับกับคิ้วเข้มที่กำลังขมวดเป็นปม แดนดินตัดสินใจเดินไปจนจะถึงประตูเมือง เบื้องหน้าคือประตูเมืองสูงใหญ่ที่มีทหารยืนประจำการอยู่หลายนาย
ขณะที่กำลังยืนมองความยิ่งใหญ่อยู่นั้น ดันถูกคนสองคนชนจนล้มข้าวของกระจัดกระจาย แต่สิ่งที่ทำให้แดนดินสนใจคือคำอุทานคุ้นหูหรือว่าจะเป็น ..
."ปึ๊ด...โอ๊ย..แม่งเอ๊ย!..เดินยังไงไม่ดูทางวะ"
"มึงหลับตาเดินหรือไงวะสัส"
"...ตาบอด..." สามเสียงพูดพร้อมกัน หลังจากเดินชนกับคนแปลกหน้าแต่คำพูดมันคุ้นๆวะอย่าบอกนะว่า
"ไอ้เพื่อนน่าน"
"ไอ้เพื่อนดิน"
"ไอ้เพื่อนน้ำ"
"พวกมึง....มาเหมือนกันเหรอวะ"(x3)