ในคราวนั้น "เฟยเทียน" เพียงต้องการพลัง เพื่อครอบครองอำนาจ
จึงเรียกปีศาจมังกรเพลิงและแลกเปลี่ยนบางสิ่งเพื่อให้ได้ชัยชนะในสงคราม ทรายย้อมโลหิต
ทว่าปีศาจมังกรเพลิงตนนั้นใช้แขนซ้ายของเขาเป็นที่หลบซ่อนการตามล่าจากเทพมังกรดิน
จึงปรากฏรอยสักสีเพลิงรูปมังกรที่ท่อนแขนซ้าย ทว่าการสู้รบแบบโหดเหี้ยมทำเขาถูดขับออกจากตำแหน่งรัชทายาทซึ่งเขามิใส่ใจ
เป็นลูกที่พ่อไม่รัก ซ้ำกำจัดไม่ได้
ต้องเก็บเขาไว้เป็นเสี้ยนหนามตำหัวใจเช่นนี้ เฟยเทียนกลับรู้สึกสุขสำราญใจดี
"ว่านหนิงเหมย" ในวัยสิบแปด ไม่มีวี่แววว่าจะมีใครกล้ามาสู่ขอนางไปเป็นภรรยา
ไม่ใช่เพราะฐานะที่เป็นลูกอนุของเสนาบดีว่านเท่านั้น
แต่เพราะรอยแผลเป็นที่แก้มขวาของนางอีกด้วย
เมื่อครั้งที่นางอายุเพียงสิบสอง
การพบกันครั้งแรกระหว่างนางกับองค์ชายเฟยเทียน
อุบัติเหตุครั้งนั้นทำให้ผู้อื่นเข้าใจเขาผิดคิดว่าเขาใช้กรงเล็บมังกรกรีดใบหน้านางจนเสียโฉม
แม้นางจะบอกทุกคนว่าไม่ใช่ความผิดของเขาก็ไม่มีใครเชื่อนาง แต่เพราะแผลเป็นนี้ทำให้นางรอดพ้นการถูกบังคับให้แต่งงานได้
ขอเพียงใช้ชีวิตเรียบง่าย แม้ต้องอยู่เพียงลำพังนางก็ยินดี
ว่านหนิงเหมยเป็นคนโปรดของฮองไทเฮา ด้วยนางเป็นคน "มือเย็น"
ต้นไม้ดอกไม้ที่ผ่านมือนาง แม้ใกล้ตายก็ยังฟื้นกลับมาเบ่งบานได้อีกครั้ง แม้นางจะถูกเรียกว่า "คนโปรด"
แต่ดูแล้วไม่ต่างจากคนสวนเท่าใดนัก
"เฟยเทียน"เข้าวังหลวงตามคำสั่งของพระบิดา
ด้วยความดีความชอบที่ทำศึกรวมแผ่นดินได้สำเร็จจึงประทานตำแหน่งชินอ๋องและจะประทานคู่ครองให้
เขาบังเอิญพบว่านหนิงเหมยอีกครั้ง ด้วยตัวเขามีพลังปีศาจอยู่ครึ่งหนึ่ง
เมื่อเข้าใกล้ดวงจิตเทพมักอ่อนแรง เมื่ออยู่ต่อหน้าหญิงอัปลักษณ์ผู้นี้ เขากลับไม่อาจใช้พลังของตนกับนางได้
เขากลายเป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาไร้พิษสง
ความลับนี้ทำให้เขาคิดกำจัดนาง แต่ดูว่าการพยายามกำจัดนางไร้ผล
ด้วยเหตุนี้เขาก็เปลี่ยนใจเก็บนางไว้ข้างกาย หากผู้อื่นรู้ความลับนี้ จะเอานางมาเป็นเครื่องมือสังหารเขาได้
"ถ้าจะประทานสมรสให้กระหม่อม กระหม่อมขอเลือกคนที่จะมาชายาด้วยตนเอง"
"เจ้ามีหญิงที่หมายปองอย่างนั้นรึ"ฮ่องเต้ทรงแปลกพระทัยนัก
"มีแต่เป็นคนของฮองไทเฮา ไม่ทราบว่าฮองไทเฮาจะมอบให้กระหม่อมได้หรือไม่"
"เป็นใครกัน" ฮองไทเฮาข่มความหวาดกลัว
พระนางกลัวว่าเฟยเทียนหมายจะเอาองค์หญิงหรือท่านหญิงที่นางโปรดปรานไป
"ว่านหนิงเหมย"
เพียงเอ่ยชื่อนาง ในห้องประชุมถึงกับเงียบกริบ
ใครเลยจะคาดคิดว่าปีศาจผู้นี้จะต้องการเพียงหญิงอัปลักษณ์ที่แทบไม่มีใครรู้จัก.