ล่ารักนางจิ้งจอก

ล่ารักนางจิ้งจอก

บุษบาหนึ่งหรัด

www.mebmarket.com

ล่ารักนางจิ้งจอก“ควบม้าศึกย่ำหนทางอันทอดยาวหลังม่านป่าได้พบเจ้าหลบเร้นกายท้องฟ้ากว้างใหญ่ ผืนแผ่นดินไร้ขอบเขตชีวิต สงคราม ความตายล้วนไม่อาจพรากรักจากหัวใจ”

ล่ารักนางจิ้งจอก

บุษบาหนึ่งหรัด

www.mebmarket.com

ล่ารักนางจิ้งจอก“ควบม้าศึกย่ำหนทางอันทอดยาวหลังม่านป่าได้พบเจ้าหลบเร้นกายท้องฟ้ากว้างใหญ่ ผืนแผ่นดินไร้ขอบเขตชีวิต สงคราม ความตายล้วนไม่อาจพรากรักจากหัวใจ”

บทนำ

จิ้งจอกจะถูกกำจัดด้วยวิธีเผาทั้งเป็นเช่นวิธีการกำจัดสัตว์แห่งเทพและมารเพื่อป้องกันมิให้ดวงวิญญาณดวงวิญญาณจิ้งจอกเวียนว่ายตายเกิดในชาติภพต่อไปหากสังหารเพียงร่างเนื้อวิญญาณจิ้งจอกที่จุติมาเป็นมนุษย์จะสามารถกลับไปเป็นจิ้งจอกอีกครั้งตามสายเลือดบรรพบุรุษดั้งเดิมเว้นแต่ว่าจิ้งจอกตนนั้นจะถวายวิญญาณให้แก่ผู้มีเป็นประมุขแห่งดินแดนปรโลก 

มีตำนานเล่าขานว่าหุบเขาจิ้งจอกเป็นถิ่นกำเนิดของบรรดาเหล่าจิ้งจอกซึ่งสามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้ดังเช่นคนธรรมดาเมื่อข่าวลือหนาหูแพร่หลายออกไปเรื่องที่เหล่าจิ้งจอกมีอิทธิฤทธิ์มนต์ดำลุ่มหลงฝักใฝ่กิเลสตัณหาราคะจิ้งจอกเพศผู้และจิ้งจอกเพศเมียมักล่อลวงมนุษย์ชายหญิงมาเสพย์กามแล้วสูบเอาวิญญาณเพื่อเพิ่มพลังความเป็นอมตะ 

เพียงเวลาไม่นานที่มีข่าวลือนั้นแพร่สะพัดเผ่าพันธุ์จิ้งจอกก็ถูกกลุ่มคนที่อ้างตนว่าเป็นชาวยุทธ์ทรงคุณธรรมไล่เข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์จนเกือบหมดสิ้นไม่เว้นแม้แต่จิ้งจอกตนนั้นจะเป็นสัตว์ที่บำเพ็ญตนจนกลายเป็นเทพหรือกำเนิดจากสายเลือดแห่งมาร 

แต่ยังมีจิ้งจอกสาวหนึ่งตนที่ยังคงมีชีวิตเหลือรอดจากการถูกตามล่าทว่าสายเลือดของนางก็ได้ถูกผสมผสานระหว่างมนุษย์และจิ้งจอกนางจึงมีร่างเนื้อเป็นหญิงสาวแสนงามเช่นเผ่าพันธุ์แห่งสัตว์เทพซึ่งหากเป็นเพศหญิงล้วนรูปโฉมสะคราญหวานล้ำยิ่งกว่าเทพธิดาหรือหากเป็นชายย่อมงามสง่าปานเทพบุตรบนแดนสวรรค์

คุยกันก่อนอ่าน

นิยายเรื่อง ล่ารักนางจิ้งจอก คือเรื่องราวสมมุติ ไม่มีความเกี่ยวข้องกันกับประวัติศาสตร์จีนแต่อย่างใด ผู้ที่ติดตามประวัติศาสตร์จีน (และนิยายจีน)  แบบแฟนพันธ์แท้อาจจะเกิดความติดขัดข้องใจในข้อมูลเรื่องจริง กบจึงขออธิบายข้อมูลคร่าวๆ ว่า นิยายเรื่อง ล่ารักนางจิ้งจอก จะอิงความแฟนตาซีสมัยก่อนก่อตั้งประเทศจีนหรือก่อนประวัติศาสตร์จีนยุคโบราณ ซึ่งจีนยุคโบราณจะเป็นรัชสมัยสามราชาห้าจักรวรรดิ

เรื่องชื่อแซ่ของราชวงศ์ ‘ต้าชิง’ ที่กล่าวอ้างถึง ก็ไม่เกี่ยวกับ ราชวงศ์‘ต้าชิง’ (ยุคจักรวรรดิตอนปลาย รัชสมัย ปี 1600-2000 ซึ่งยุคนั้นจะเป็นช่วงขยายอาณานิคมติดต่อกับต่างประเทศ )

ล่ารักนางจิ้งจอก จะมีความศิวิไลน์ประมาณจีนยุคโบราณตอนปลาย ( หลังการรวบรวมประวัติศาสตร์ประเทศจีน ได้แบ่งออกเป็น 4 ยุค ยุคโบราณ ยุคจักรวรรดิ ยุคใหม่ ยุคปัจจุบัน) ภูมิประเทศรวมถึงแม่น้ำสายหลักที่กล่าวถึงในเนื้อเรื่องก็ไม่เกี่ยวกับแม่น้ำหวงเหอของประเทศจีน

เหตุการณ์สถานที่ อุปกรณ์สิ่งของ ทุกอย่างคือเรื่องสมมติ เพราะในยุคโบราณยังไม่มีพลุดอกไม้ไฟ ไม่มีคันไถทำนา แต่ในนิยายเรื่องนี้ จะมีหมดค่ะ มียันระเบิดควัน และเครื่องครัวเรือนสมัยยุคกลางที่มีในยุคแมนจู (กบไม่นิยมจะให้พระเอกโกนผมครึ่งหัว จึงขอหยิบยืมแฟชั่นความทันสมัยและความเจริญรุ่งเรืองด้านสถาปัตยกรรมของยุคโบราณตอนปลายกับยุคจักรวรรดิมาใช้เท่านั้น) ตัวละครมีบ้านเรือนอาศัยไม่ได้กินนอนถ้ำหรือโพรงต้นไม้ แต่ไม่มีน้ำประปาบาดาล ระบบไฟฟ้าหรือเครื่องใช้อิเล็กทรอนิกส์

โดยภาพรวมด้านความรุ่งเรืองศิวิไลน์ของอารยธรรมประเพณี ความเชื่อ ศาสนา ในนิยายเรื่อง ล่ารักนางจิ้งจอก เป็นแนวบ้านเมือง 2 ยุคสมัย (ยุคโบราณ กับยุคจักรวรรดิ) ผสมผสานกับความแฟนตาซีอลังการ(เล็กน้อย) อย่างเช่นตำนานทวยเทพปกรณัม

ด้านแฟชั่นทรงผม เครื่องแต่งกายจะเน้นสไตล์สุขุมนุ่มลึก เฉิดฉายงดงาม วิริศมาหราแบบทวยเทพบนสวรรค์ชั้นฟ้า เพื่อความโฉบเฉี่ยวพริ้วละมุน ให้ผู้อ่านเกิดมโนภาพในบทตอนแสดงวิทยายุทธ อิทธิฤทธิ์มนต์ดำอย่างอลังการระดับที่ต้องใช้เชือกสลิงและเอฟเฟ็คคอมพิวเตอร์เป็นตัวช่วย

สรุปว่าภาพลักษณ์โดยรวมในนิยาย เพื่อนนักอ่านที่น่ารักอยากให้สวยงามล้ำเลิศแค่ไหน อันนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับความมีอิเมจิ้นแฟนตาซีของแต่ละบุคคล

บุษบาหนึ่งหรัด

บุษบาหนึ่งหรัด ฉายา Stylo Romantique

บุษบาหนึ่งหรัด ฉายา Stylo Romantique