Playmate เพื่อนร่วมเตียง { AnJae DAY6}
2
ตอน
20.7K
เข้าชม
99
ถูกใจ
20
ความคิดเห็น
72
เพิ่มลงคลัง

Playmate~ 
เพื่อนร่วมเตียง

Young K (Brian) x Jaehyung DAY6

OST. One more night - Maroon5

OST. แรงโน้มถ่วง - 25Hours
Type : Passionate Sex!

 

 

 

 

 

"เราเพื่อนกัน กูเพื่อนมึงไงจำไม่ได้หรอ"

 

Author : DEARMONSTER_

 

 




INTRO Dialogue 

 

 

 

 

เพราะความเมาและความต้องการที่ไม่เคยคิดจะห้าม ทำให้เขาไม่แม้แต่จะสนใจว่าคนที่นอนเปลือยกายอยู่บนเตียงตอนนี้เป็นผู้ชาย 'ยองเค' เจ้าของเรือนร่างสูงโปร่ง ไหล่กว้างและช่วงบ่าหนาทรงเสน่ห์ เขาดื่มไปหนักมาก มากจนหยุดยับยั้งอารมณ์ของตัวเองไม่ได้ มือหนาสองข้างไขว้ทับจับชายเสื้อยืดสีทึบของตัวเองเลิกขึ้นเหนือหัว เปิดเผยแผ่นหน้าอกพาดลายสักมังกรช่วงหัวไหล่ซ้ายไล่ไปตามแขนเกือบถึงช่วงศอก กล้ามเนื้อล่ำเรียงเบียดแน่นสวย เลียลิ้นกับริมฝีปากของตนขับไล่ความแห้งผาด คนบนเตียงเป็นใครไม่รู้ กล้าดียังไงมาแต่งตัวเป็นผู้หญิงแล้วนั่งชงเหล้าเบียดๆ ยั่วๆ ไม่ใช่อิฐ หิน ดิน ปูน นี่ไบรอันคัง นิสิตเศรษฐศาสตร์ปีสามผู้จัดเจนศึกรักบนเตียง!

 

เหมือนอีกฝ่ายจะมีสติที่ดีกว่าพยายามจะดีดดิ้นหนีห่าง เขาไม่ได้เห็นหน้าเมาเป็นลาก ไฟไม่ต้องเปิด จะเอาแล้วจะเปิดไฟให้เสียเวลาทำไมกัน! ยองเคคว้าจับขาอ่อนเปลือยเปล่าเอาไว้ มันหมดจรดไม่เหลือเสื้อผ้าเพราะฝีมือของเขานี่แหละที่ดึงกระชากมันตั้งแต่หน้าประตู รั้งให้อีกคนเลื่อนไถลเข้ามาอยู่ใต้อาณัติแล้วยันแขนสองข้างคร่อมปักหลัก ก่อนจะซุกไซ้สันจมูกโด่งสัมผัสซอกคอขาวเนียนนั่น

 

 

 

 

 

“มึงขาวจังวะ น่าแดกมาก”

 

 

คำพูดคำจาหยาบโลนตามนิสัย หลุดลอดออกมา ผิวเนียนสีน้ำนม เด่นชัดขึ้นแม้อยู่ท่ามกลางความมืด ใบหน้าของยองเคแดงก่ำและร้อนผ่าวจนคนที่กำลังถูกบุกรุกสะดุ้งเกร็ง ลิ้นหนาลากผ่านใบหู แยงลิ้นแหย่ทุกอณูค่อยๆ ไล่ทำความรู้จักทุกซอกทุกมุมอย่างตั้งใจ ความเทคนิคหลากหลายกระตุ้นเบิกอารมณ์อีกฝ่าย สันกรามบอกเอกลักษณ์ประกบสอดเข้าล็อคพอเหมาะกับใบหน้าเล็กแค่ฝ่ามือ ความเนียน ความไร้เดียงสา และ อาการเกร็งสะท้านของอีกฝ่าย ยิ่งปลุกเร้า ยิ่งรื้อกระชากอารมณ์ดิบของเสือร้ายยองเคให้ลุกโชน

 

 

 

 

 

 

“ขี้อ่อยเหลือเกินนะมึง”

 

กูยังไม่ได้ทำเลยอิเหี้ย! ปล่อยเดี๋ยวนี้นะไอ้เชี่ย! แค่ตั้งใจจะแกล้งเล่น ใครมันจะไปรู้เล่าว่ามึงจะจำกูไม่ได้ นี่เพื่อนไง ไบรอัน กูเจไง เพื่อนมึงไง จำไม่ได้หรอ...

 

 

 

 

“อืออออออ”

 

เสียงเครือกระเส่าหลุดลอดออกมา แจฮยองหรือเจอยากจะงับปากกัดกั้นเสียงน่าบัดสีแต่ทำได้ยาก เมื่อร่างกายของเขาถูกมือของเพื่อนสนิทจับต้องไปทุกส่วน ตัวของเขาอ่อนไหวเกินไปแล้ว! มันเหมือนว่าร่างกายของเขาได้เจอเจ้าของใหม่ และดูท่าจะภักดีอยู่มาก จับตรงไหนสะท้านตรงนั้น แหม่..เกรงใจนิดนึงนี่ร่างกายกูนะเอาจริงๆ ใบหน้าเล็กร่นถอยหนี เขาไม่ได้เมา แต่ไอ้คนบนตัวนี่ยิ่งกว่าเมา เวรเอ้ย นี่ไม่ได้ตั้งใจไง แกล้งเฉยๆ เองกูผิดอะไร ขอความยุติธรรมด้วยครับคุณกิตติ

 

 

 

 

ยองเคแทรกเข่าบังคับดันเรียวขาอ่อนให้ยกตั้ง เขาตั้งใจจะบดขยี้ให้ถึงที่สุด เอาให้เตียงทรุดให้เอวอักเสบ ให้ช่วงล่างแหลกเหลว แม้ไม่เคยขี่ผู้ชายมาก่อน แต่กับมึงจะเป็นข้อยกเว้นพิเศษแล้วกัน!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

.

.

 

 

 

 

.

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“คืนก่อนมึงไปไหนมาวะเจ จะได้ช่วยกูจำหน้าคนของกู

 

ผู้ชายร่างสูงโปร่งในชุดเชิ้ตขาวกางเกงยีนส์สีซีดผิดระเบียบ แนวสันกรามได้รูปเด่นชัด ตาเรียวเฉี่ยวเคร่งเครียด พร้อมๆ กับถ้อยคำสารพันความหลังเมื่อครั้งวันก่อนๆ ที่ได้ผู้ชายสุดเซ็กซี่มาครอง แต่พอตื่นมาแล้วดันหายไป จำไม่ได้แม้กระทั่งหน้าตา จำได้แต่เสียงครวญคราง พูดมาได้หน้าไม่อายจริงๆ

 

 

แจฮยอนเหลือบสายตาฝ่ายกรอบแว่นเพื่อมองอีกฝ่ายที่กำลังพับเสื้อนิสิตขึ้นไปเหนือข้อศอก คนของมึงเนี่ยนะไอ้ไบรอัน แค่ได้กันร้อยแปดท่าบนเตียง ระเบียงโต๊ะตู้โซฟา มันไม่ได้หมายว่ากูจะต้องเป็นคนของมึงนะครับ!

 

จะให้หรรษาแล้วยืดอกรับว่าเสียซิงให้เพื่อนไปแล้วน่ะหรอ อาการช่วงล่างกูไม่ได้ดีเหมือนหน้าตาเข้าใจไว้ด้วย! จะไม่มาเรียนก็ไม่ได้ มีสอบย่อย ทรมานแค่ไหนต้องทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้ากูพิการขึ้นมานะ จะใช้มึงซักผ้าซะให้เข็ด คนซัลไล

 

ยองเค ขมวดคิ้วขึ้นมาดื้อๆ ตาเรียวเฉี่ยวเสียอารมณ์ ก่อนจะเบี่ยงตัวของเขาหยิบกระเป๋าเบสไฟฟ้าเปิดออก มันตั้งท่าเช็คปรับสายสักพักให้เขาเกิดความสงสัยจนหลุดถามออกไป

 

 

 

 

 

“ทำไมมึงถึงเล่นเบสวะ เสียงมันไม่ค่อยดังอ่ะ”

 

ก็จริงที่เบสไฟฟ้าจะมีเสียงดังคล้ายเสียงกลองหากว่าต่อเข้ากับแอมป์หรือลำโพง แต่ถ้าเป็นเวลาปกติมันเบามากจนนึกว่าเสียงมดเดินเล่นในสวนสาธารณะ

 

 

 

“ก็ไม่ได้เล่นเอาไว้โชว์ใคร เล่นเพราะอยากเล่นเอง”

 

มันยกคำตอบกลับมาโดยไม่ได้เงยสายตาขึ้นมามองเขา หน้าเหน่อนี่สั่นไปหมด ฟังชัดๆ ใช่! กูเล่นไว้อวดสาว ใครจะทำแมะ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

แดดร่มลมตก นี่เป็นโต๊ะตัวประจำที่เขาใช้เพื่อมานั่งเล่นกัน ถัดจากตัวคณะไม่ไกลมันใกล้ต้นไม้ใหญ่ร่มรื่นดีจริงๆ เขาอยู่ชมรมดนตรี แต่ไอ้ไบรอันไม่ใช่ แม้มันจะเล่นเบสเก่งมาก แต่มันชอบสีหญิงมากกว่าเลยไม่อยากจะชวนเข้าชมรมให้เสียแฟนคลับ

 

 

 

แม้เขาจะสูงกว่ามันแต่ก็เพียงเล็กน้อยเท่านั้น รูปร่างเมื่อยืนข้างกันเห็นได้อย่างชัดเจนถึงความหนาของขนาดช่วงตัว เอาจริงๆ ตอนแรกก็ไม่อยากจะเชื่อว่าเป็นอย่างนั้นแม้เพื่อนคนอื่นๆ จะบอกกัน จนกระทั่งได้ฟัดเหวี่ยงกันบนเตียง ถึงรู้ความจริงที่น่าเจ็บปวดก็คือเขาสู้แรงมันไม่ได้เลยสักนิด หมามาห้าสิบตัว (สัตว์มาก)! โกรธมากแต่โวยวายไม่ได้เดี๋ยวมันรู้แล้วจะหนาวขี้... มือหนาของมันวางเบสในมือกลับเข้ากระเป๋าตามเดิม ต่างหูสีเงินสะท้อนความมีเสน่ห์ให้เผลอชื่นชมภาพนั้นในใจ มันเป็นคนที่หล่อจริงๆ หล่อมากๆ แต่กูว่ามันจะมากเกินไปหน่อยแล้ว หน้ามึงเนี่ยจะยื่นมาใกล้กูขนาดนั้นทำไมกัน! เจ้าของเบสเครื่องงามยื่นใบหน้าเข้ามาใกล้ สายตาคมจับจ้องมองใกล้ชิดเสียจนคนถูกมองหายใจผิดจังหวะ และพอได้ยินประโยคต่อมาเขาถึงกับต้องกลั้นหายใจ

 

 

"จะว่าไป กูคบกับมึงมานี่ ยังไม่เคยเห็นมึงถอดแว่นเลย ไหนมึงลองถอดแว่นดิ๊"

 

“อะไรมึง”

 

ถอดแว่นก็รู้สิวะเพราะคืนก่อนหน้านั้นเขาถอดแว่นและใส่วิกเป็นผู้หญิงไปแกล้งสีมันในผับ! ขอร้องอย่ามาข่มเหงรังแกกู กูไม่ควรต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ โปรดเห็นใจ คนตัวผอมกว่าถอยหน้ายืดหลังตั้งตรง มือเรียวยกขึ้นขยับแว่นให้กระชับกรอบหน้ามากกว่าเดิม โดยที่เพื่อนสนิทของตัวเองก็ยังไม่ถอนความใกล้ชิดออกไปซักที

 

 

 

“ทำไม ได้ผู้ชายคืนเดียวทำให้มึงมองว่ากูน่ารักเลยงั้นสิ”

 

 

“ก็ใช่!”

 

 

 

 

“ห๊ะ!!”

 

 

แทนคำตอบ ยองเคถอยตัวกลับไปและลุกพรวดคว้ากระเป๋าเบสของตัวเองเดินลุกเดินออกไปไม่พูดไม่จาอะไรอีก

 

 

 

 

 

 

"ไอ้เชี่ย ไอ้บ้ากรามและบ้ากาม ทำไมมึงชมแล้วกูต้องเขิน งงไปหมด"

ริมฝีปากบางได้รูปขมุบขมิบ ถ้าข้างหน้าคือกระจกก็คงได้เห็นพวงแก้มขาวใสขึ้นสีระเรื่อแปลกหูแปลกตา หนุ่มแว่นผิวขาวราวหยวกกล้วยฉวยหยิบคว้าข้าวของแล้ววิ่งตามเพื่อนตัวเองไป

 

 

 

 

 

 

“เจ!  กลับบ้านหรอ เราไปด้วยดิ”

 

เสียงเรียกของเพื่อนร่วมวงรั้งให้หยุดการก้าวสับของเรียวขา หนุ่มแว่นตัวขาวหันเอี้ยวตัวเองกลับมาตามเสียงเรียก

 

“อ้าว วอนพิล”

 

 

 

 

 

 

“ไม่ได้! เจกลับกับกูแล้ว ไปเจ”

 

แต่ก่อนที่เขาจะตอบหรือชวนวอนพิลให้เดินไปด้วยกัน เสียงเข้มดังผ่ามาทางด้านหลัง พร้อมๆ กับเจ้าตัวที่เดินกลับมาตอนไหนก็ไม่รู้ มายืนข้างๆ เขา ทั้งๆ ที่เมื่อกี้มันเดินไปตั้งไกลแล้ว

 

 

“ไปไหนกันวะ ทำไมกูกลับด้วยไม่ได้”

 

 

เจ้าของกระเป๋าสะพายสีดำกระชับมือกับสายสะพายข้างหัวไหล่ เลิกคิ้วถามไอ้ไบรอันที่ทำหน้าบึ้งบอกบุญไม่รับ เขาสนิทกับเจมากกว่าเพราะเป็นเพื่อนในวงดนตรี แต่กับไบรอันเพื่อนของเจ เขาไม่ค่อยสนิทแต่กลับพูดมึงกูกับมันได้อย่างไม่ตะขิดตะขวงใจเลยจริงๆ

 

 

 

 

 

“เอ่อคือ..”

 

 

เจยังไม่ได้หาคำตอบ เพราะก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมไอ้ไบรอันมันถึงพูดแบบนั้น เจ้าของแว่นเลนส์ใสคิดคำอธิบายด้วยสีหน้ามึนๆ

 

 

 

 

 

 

 

ไปกินเจ!”

 

 

คำตอบมาอย่างเร็วยิ่งกว่ารถเมล์สายแปด สายฟ้าฟาดลงมากลางหัวสมอง ดังมากดีดเด้งจนประตูหลังกูสั่นสะเทือน มึงมาสายเหลืองแล้วใช่มั้ย สายสีเหลืองที่ไม่ใช่แค่กินเจ ไอ้สัดบอกที มือที่โอบเอวกูอยู่นี้ กูแค่รู้สึกไปเอง

 

 

 

 

 

 

ปล่อยกูนะ!
กูยังไม่อยากได้เพื่อนเป็นผัว อย่างเป็นทางการอ่ะ บอกไว้ตรงนี้เลย ขีดเส้นใต้หนาๆ กูยังไม่พร้อมจริงๆ งงไปหมด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

.
.

 

 

 

 

ประตูห้องถูกผลักออกด้วยฝีมือเจ้าของเสื้อเชิ้ตถกขึ้นเหนือศอก มันปล่อยมือจากเอวของเขาแล้ว ก่อนจะเดินเข้าห้องไปไม่พูดไม่จา ไม่มีคำอธิบายเกี่ยวกับคำว่ากินเจ.. เจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลสว่างยืนค้างโดยที่ยังไม่เลือกว่าจะพักโรงแรมหรือบังกะโลอยู่หน้าห้อง จริงๆ นี่คือคอนโดของไบรอัน ไม่เข้าใจมึงจะพากูมาทำไม คอนโดกูก็มี สวยด้วย ปกติก็ไปแต่ห้องของเขาไง ห้องมันไม่ค่อยจะมา เพราะมันรก ฝุ่นเยอะ! ไอ้นี่เคยอยู่ห้องกับเขาด้วยหรอ เวลาพาสาวมาโดนทีก็เปิดห้องที่โรงแรมทั้งปี ตาเรียวใต้กรอบแว่นเลิกขึงขังหงุดหงิด ก็แค่บ่น หงุดหงิดไม่พอใจในฐานะที่เพลียสันดานเพื่อนตัวเองเฉยๆ ไม่มีอะไรมากกว่านั้นเลยจริงๆ ไม่เคยมี…

 

 

 

 

 

 

 

สอดส่องสายตาผ่านเลนส์แว่นกรอบสีเงินทรงกลม มองหาตำแหน่งการวางพักร่างกายที่นุ่มนิ่มที่สุด ฝืนมาทั้งวันเจ็บจะขาดใจ โดนนิดโดนหน่อยน้ำตาจะร่วงเป็นสายโลหิต ดีนะที่ไอ้ไบรอันมันขับรถได้เบากว่าทุกครั้งไป ค่อยๆ ลากสังขารอิดโรยของตัวเองเลือกทิ้งตัวลงบนโซฟาขนาดใหญ่

 

 

 

ชีวิตนี้ไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว เหมือนเจอสิ่งที่ค้นหามาตลอด ขอพักสักทีเถอะหวานใจ

 

 

 

 

 

 

 

 

“เฮ้ยไรวะ!”

 

แทนที่กูจะได้นั่งแม่งงงงงงงงงง!! ปล่อยกู จู่ๆ มือของไอ้ไบรอันก็คว้าเข้าที่ข้อมือของเขา ไม่คว้าเปล่าดึงแรงจนตัวเขาเซถลากระแทกหน้าอกของมัน มันปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตอนไหนไม่รู้ รู้แค่สายตาของเขาตอนนี้ไหลลวนลามแผงหน้าอกของมันลึกเกือบถึงกล้ามหน้าท้อง มึงมันใช้ร่างกายเปลืองจริงๆ รับไม่ได้

 

 

 

 

 

“เจ! มึงคิดว่ากูโง่หรอ”

 

อัลไลของมึงเนี่ย ใบหน้าเล็กสะบัดมองอีกฝ่ายจังงัง ความสงสัยที่ปิดไม่มิดลอดผ่านกรอบเลนส์แว่นสายตาแสดงอาการ ใบหน้ามันนิ่งและเหมือนว่ากำลังสะกดกั้นความโกรธหรืออารมณ์บางอย่างไม่ให้ทะลักออกมา

 

 

 

 

“เป็นเหี้ยอะไรมึงเนี่ย ปล่อยกู กูจะนั่ง”

 

แจฮยองพยายามขืนยื้อข้อมือของตัวเองและสะบัดออกจากการบีบจับ

 

 

 

 

 

 

มึงนั่งได้หรือไง โดนกูเอาแรงขนาดนั้น

 

 

 

เช็ดดดดดดดดดดดดดดดด!!! มึงเมายาอม ยาดม ยาหม่องอะไรหรือเปล่า พรูดดดดอะไรออกมาหน้าด้านๆ กลางวันแสกๆ

 

 

 

 

 

“มึงพูดเหี้ยอะไรเนี่ย ปล่อยกู”

 

 

เมื่อเจ้าของแว่นดื้อด้านไม่ฟังเสียง ไม่รับสักทีใช่มั้ย บ่ายเบี่ยงอยู่ได้ เห็นกูเป็นไอ้โง่หรือไง มือหนาจัดการใช้ความว่องไวให้เป็นประโยชน์ กระชากคอเสื้อเชิ้ตพอดีตัวของแจฮยองจนกระดุมเสื้อเม็ดใสหลุดขาดกระเด็น รอยแดงเป็นจ้ำๆ ช้ำม่วงพร่างพราว ทั่วแผ่นอกขาว เลอะเทอะไปถึงไหปลาร้า อกด้านซ้ายของคนถูกรุกล้ำเต้นถี่แรงจนกลัวว่าหัวใจจะหลุดกระเด็นออกมาแกรนโอเพ่นนิ่งบนพื้น

 

 

 

 

 

 

 

 

“มะ ไม่ใช่กูเว้ย ไม่ใช่ เราเพื่อนกัน กูเพื่อนมึงไงจำไม่ได้หรอ”

 

ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว แต่ปากได้รูปยังพอมีความสามารถ จะให้กูยอมรับหรอไม่มีทาง มันไม่ใช่วิถีของลูกผู้ชายอย่างปาร์คแจฮยอง ขอโทษด้วย มึงควรทำความเข้าใจ

 

“ไม่ตลกเจ มึงใช่มั้ย คนของกูในคืนนั้น”

 

ไอ้ไบรอัน!! มึงต้องทำหน้าจริงจังอย่างนั้นไปเพื่ออะไรกัน มันกำเสื้อเชิ้ตที่ขาดติดมือมันไป พร้อมกับสาดสายตาทิ่มแทงแผดเผา ก็ไม่ใช่ไอติมแต่กูกำลังจะละลายแล้วเนี่ย มึงดึงแรงขนาดไหน เสื้อขาดไปขนาดนั้น มึงใช่ไหมที่จะรับผิดชอบเย็บมันกลับเข้าที่ให้กู ดึงซะจนไม่เหลือซาก ไม่ผิดเพี้ยนกับคืนแห่งปริศนาธรรมนั่นเลย ให้ตาย เสมอต้นเสมอปลายจริงๆ คนซันไล

 

 

 

“กูไม่ตลก อิเหี้ย หน้ากูเหมือนใครในแก๊งสามช่าหรอ”

-_-'

 

โอเคมันเล่นมุข...
        กูเกือบจะหลุดขำ ติดตรงที่พอมีมารยาท กับ Mood & Tone ตอนนี้ถ้าหลุดขำไป อาจจะเตรียมตัวจองวัดได้เลย ขอศาลาสามนะ สามหนึ่งสามสามคูณสามเป็นเก้า แง กูจะนอกเรื่องไปไกลแล้ว กลับมาก่อน กลับมาทำไมฉันลืมเธอไปหมดแล้ว…

 

 

 

 

 

 

 

“เพื่อนกันจะเอากันได้ยังไง มึงจะบ้าหรอ”

 

 

 

 

“เออ กูบ้าไปแล้ว มึงรู้มั้ย มึงทำให้กูคลั่งไคล้แค่ไหน ตอนนี้ทุกๆ วินาทีกูอยากนอนกับมึงคนเดียว กูเป็นหนักอาการแย่มาก เพราะมึงคนเดียว ยังจะมาทำหน้าใสไม่รู้ส้นตีนอะไรได้ยังไง มึงต้องรับผิดชอบ!”

 

 

 

รับผิดชอบเหี้ยอะไรไอ้สัด กูหรือเปล่าที่เป็นฝ่ายโดนกระทำ กูยังไม่เรียกร้องอะไรจากมึงเลยนะ ขอให้มึงกลับไปทบทวนอย่างถี่ถ้วนอีกที ไปเถอะไป

 

 

 

“ก็ดี”

 

ไม่ดี

ทำอะไรไม่ได้ ไม่กล้าคัดค้านมันออกเสียงกลัวโดนมันฆ่า ไอ้ไบรอันไม่เคยโมโหขนาดนี้ ปกติมันยิ้มยังดูหื่นๆ และน่ากลัว ตอนนี้มันดูโกรธมาก คิดเอาแล้วกันว่าจะน่ากลัวแค่ไหน กำพระกันเถอะพวก

 

 

 

 

 

 

 

 

“ต่อจากนี้ไป จำเอาไว้เจ”

 

 

 

 

 

“….”

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

กูจะจีบเพื่อนอย่างมึงมาทำเมีย!”

!!

 

 

 

“ก็นี่ผัวมึงไงเจ ว่าไง จำผัวไม่ได้หรอ”

นั่นมันคำพูดกู!! เอาไปแบบนี้จะจดลิขสิทธิ์ฟ้องร้องค่าเสียหายให้มึงหมดตัวเลยคอยดู คนซัลไล!!!

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Intro 100%

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว