milestone.
ใครจะไปคิดว่าแค่ไอ้กระดาษพิมพ์ลายภาพถ่ายวิวถนนลอสแองเจลลิสที่หลังถนนเป็นภูเขาพร้อมกับคำว่าฮอลลีวูดโชว์หลาอยู่ ใบเดียวมันจะเปลี่ยนชีวิตคนๆนึงได้
ใช่ นั่นซิ ใครมันจะไปคิดกัน...
"เสี่ยวลู่"
"ครับม๊า" ร่างบางในชุดนอนลายทางสีฟ้าอ่อนชะงักเท้าที่จะเดินลงบันไดเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเรียกจากหญิงวัยกลางคน
"เรื่องมหาลัยเราน่ะไปถึงไหนแล้ว"
"กะว่าจะไปต่อที่หนานจิงครับ" ลู่หานขยับเท้าเดินไปใกล้กับผู้เป็นแม่ที่ดึกดื่นจนป่านนี้แล้วแต่ยังออกมาเดินเล่นอยู่
"ม๊าว่าก็ดีนะ ...แต่ลูกเห็นโปสการ์ดจากแอลหรือยัง"
"ยังเลยครับ พี่ส่งมาให้ผมหรอ"
"ม๊าว่าลูกน่าจะอ่านเอง" หญิงวัยกลางคนยื่นโปสการ์ดใบหนึ่งให้ลูกชาย มือเล็กยื่นไปรับมาก่อนจะยืนอ่านมันตรงนั้น
สวัสดีครับม๊า โปสการ์ดใบที่เท่าไหร่ผมก็จำไม่ได้แล้ว แต่คิดถึงม๊านะครับ อีกสองเดือนป๊าเคลียร์งานเสร็จคงกลับไป ผมต้องเหงาแน่ๆ คิดถึงเสี่ยวลู่จังครับ ป่านนี้ลืมพี่ชายไปแล้วรึยังก็ไม่รู้
ปล.มหาลัยที่แอลเอน่าเรียนเยอะแยะเลย ผมหาที่เรียนให้น้องได้แล้ว เดี๋ยวจะเมลใบสมัครไปให้น้องนะครับ
ผมหาที่เรียนให้น้องได้แล้ว...
ผมหาที่เรียนให้น้องได้แล้ว...
ผมหาที่เรียนให้น้องได้แล้ว...
ผมอ่านอะไรผิดไปรึเปล่า?
นี่มันสารบังคับชัดๆ
ไม่มีคำไหนจะอธิบายความรู้สึกผมตอนนี้ได้เลย ให้ตายซิ พี่นี่เอาแต่ใจจริงๆ พอป๊าจะกลับมาจีนก็มัดมือชกกันให้ไปอยู่ด้วยแบบนี้เลย ทั้งๆที่คิดว่าไปเรียนที่แอลเอแล้วก็คงจะเลิกไอ้อาการน้องชายริซึ่มไปแล้วซะอีก ที่ไหนได้นี่เหมือนมาจับมัดมือมัดเท้าคลุมด้วยกระสอบแล้วอุ้มไปแอลเอชัดๆ
ไอ้พี่ขี้เหงาเอ้ย!
นี่คงกลัวเค้าจะไม่ไปซิท่า ถึงได้เล่นกันแบบนี้
"เอาไงดีครับม๊า พี่คงอยากให้ผมไปเรียนที่นู้น" ร่างบางในชุดเตรียมจะเข้านอนหันไปเอ่ยขอความเห็นกับผู้เป็นแม่
"ก็ไปซะซิ เดี๋ยวพอป๊ากลับจีนแอลอยู่คนเดียวคงเหงาแย่" หญิงวัยกลางคนเอ่ยให้ความเห็นกับลูกชายคนเล็กของเธอ ยังไงซะจะเรียนที่ไหนครอบครัวก็ไม่ได้คิดจะวุ่นวายกับการเรียนของลูกชายอยู่แล้ว เพราะถึงยังไงก็มองการตัดสินใจของลูกๆเป็นหลัก แต่หล่อนเองก็อยากจะให้พี่น้องได้มีเวลาอย่ด้วยกันอีกครั้งเพราะหล่อนรู้ว่าลูกชายคนโตติดน้องแจยิ่งกว่าอะไร แถมตอนนี้ยังไม่ได้อยู่ด้วยกันอีก
"นั่นซิครับ คงทำอะไรไม่ได้แล้วล่ะ"
"เอาหน่าๆ ถือซะว่าไปอยู่เป็นเพื่อนพี่ล่ะกัน ไว้ว่างๆค่อยกลับมาหาม๊าก็ได้นิ" ว่าพลางก็ลูบไหล่บางน้อยๆปลอบใจเจ้าชายน้อยที่โตจนป่านนี้แต่ก็ยังทำตัวงอแงเหมือนเด็กเล็ก
"ต้องคิดถึงม๊ามากแน่ๆ ม๊าดูแลสุขภาพด้วยนะ ไม่งั้นผมโกรธจริงด้วย" เจ้าชายน้อยของหล่อนเริ่มออกอาการงอแงเข้าให้แล้ว ลูกชายบ้านนี้นี่เป็นอะไรกันไปหมด ติดแม่ติดน้องกันอย่างกับเด็กสามขวบแต่ก็เป็นข้อดีไปอย่างที่อย่างน้อยก็ไม่ได้เกเรออกนอกลู่นอกทางให้พ่อให้แม่ปวดใจ
"ม๊ายังแข็งแรงอยู่นะ ม๊าไม่ยอมเป็นอะไรก่อนเสี่ยวลู่จะกลับมาหาม๊าหรอก" ว่าไปหล่อนก็ลูบหัวลูบหางลูกชายคนเล็กของบ้านไป
"โอเคครับ งั้นเดี๋ยวผมจะไปเช็คเมลก่อนนะครับ" ก้มลงหอมแก้มที่มีริ้วรอยจากการทำงานหนักหนึ่งทีก่อนจะวิ่งหายกลับเข้าไปภายในห้องนอน
อีกสองเดือน…
คิดแล้วยังแอบหงุดหงิดเล็กๆกับพี่ตัวเอง
สาบานได้ว่าคงไม่มีใครมีพี่ที่ประหลาดแบบผมอีกแล้ว เชื่อเค้าเลยซิ