บทนำ
จากเรื่องๆนั้นพวกเราก็ไม่เคยพูดถึงมันอีกเลยทำไมล่ะ ก็เพราะพวกเราไม่เข้มแข็งพอสำหรับความจริงนั้นนะสิ แน่นอนอยู่แล้วสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วมันหักล้างกับคำโกหกหลอกลวงที่สร้างขึ้นมาเพื่อกลบเกลื่อนความเจ็บปวดนั้นไม่ได้แน่ๆ แต่ไม่หรอก เพราะทุกๆวันนี้เรายังไม่เคยแม้แต่มองหน้ากันด้วยซ้ำ อีธานเขาอาจจะคิดว่าทุกๆเรื่องสำหรับเขาคงไม่มีค่าอะไรมากมาย มันก็คงเป็นแค่เรื่องที่เขาอยากพิสูจน์ความเป็นไปได้จากผม มันก็คงผิดมากๆที่ผม ผมคนที่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้เพราะความรู้สึก แต่ก็มันเกิดขึ้นแล้วนิ เพราะอดีตนั้นมันกักขังความรู้สึกของเราไว้
ผมรู้จักเขาเมื่อไหร่กันน่ะ หรือควรพูดว่าผมพบเขาครั้งแรกเมื่อไหร่กันนะดีกว่าเพราะความรู้สึกตอนนั้นไม่ใช้แบบนี้ จำได้ว่าเราเจอกันได้เพราะครอบครัวเขาย้ายมาอยู่ตรงข้ามบ้านตอนประมาณซักเราสาม หรือสี่ขวบนี่แหละ ตอนแรกพ่อแม่ของพวกเราทำความรู้จักกัน เขาก็วิ่งเอาบอลมาเล่นกับผม ในสวนหน้าบ้านของผม เขาเป็นเด็กที่น่ารักมากๆในตอนนั้นตากลมๆโตสีน้ำตาลคู่นั้นเผลอทำให้ผมมองได้ทุกๆวันจากนั้นมา แม้ว่าตอนนี้จะไม่ได้คุยกันแล้วก็ตาม แต่ตาคู่นั้นก็มองผมตลอดเวลา คิดว่านะ เขาคงมองผมอยู่ที่ไหนซักที่ อะไรคือเรื่องราวนั้น เรื่องราวของเรา เรื่องราวที่ก่อให้เกิดความทุกข์และเจ็บขนาดนี้มันแย่มากเลย แต่มันก็กลับไปแก้ไขไม่ได้แล้ว
เราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆแล้ว อีธานกับผมแทบจะถูกพ่อแม่พวกเราจับแยกกันเพราะเราสนิทกันเกินไป เราเรียนอยู่ห้องเดียวกันตั้งแต่เริ่มเข้าเรียนจนเรียนจบตอนเกรดหก แต่พอขึ้นไฮสคูลเราก็ได้แยกห้องกันจนเขาก็เริ่มมีเพื่อนใหม่ๆด้วย ผมก็เช่นกัน แต่เราก็ยังลงเรียนวิชาเดียวกันเสมอมา จนตัวผมเองเริ่มมีความรู้สึกแปลกๆกับเขาแต่ก็ไม่กล้าพูดและบอกออกไป แต่เราก็สนิทกันเหมือนเดิมจนเราเรียนจบ และเขาก็ยังพยายามสอบเข้ามหาลัยเดียวกันกับผมแม้คะแนนเขาไม่ค่อยดีนักแต่ก็ยังหลุดเข้ามาได้ เพราะผมติวให้เขาอย่างหนัก สมัยเรียนไฮสคูลผมก็ทำรายงานช่วยเขาเสมอ อีธาน พยายามเข้ามหาลัยเดียวกันกับผมก็เพราะเหตุผมเดียวกับตอนไฮสคูลนั้นคือให้ผมแบ่งเบาภาระงาน และติวให้ จนก่อนจะจบปีสุดท้ายก็ดันเกิดเรื่องขึ้นเพราะความงี่เง่าของผม
“ก่อนทุกๆสิ่งจะเปลี่ยนราวฟ้าที่สว่างสดใสจนกลายเป็น ฟ้าที่มืดมิดและมีลมพายุโหมกระหน่ำ
มันเลวร้ายแต่พายุนั้นมันก็คงต้องหยุดซักวันแค่รอวันนั้นเท่านั้นเอง”