สาปสังวาลย์
กูจะขอแช่งชักหักกระดูก
กูจะผูกดวงมึงให้ตายโหง
แม้ตัวตายกูจะกลายเป็นผีโพง
ไปสาปส่งให้มึงตายวายชีวี
สองเท้าจารึกอักษรฝากแม่พระธรณี สองมือพนมไหว้พระกาฬไชยศรีที่จะมาพรากเอาชีวิต สองหูจดจำเสียงเเห่งมรณะ สองตาเพ่งมองไปที่ความว่างเปล่าเพื่อจดจำกรุ่นกลิ่นแห่งความอาฆาต !!!
"ชาตินี้มึงฆ่ากู ชาติหน้ากูจะจองเวรมึงตราบจนสิ้นอาตมัน"
ชาตินี้ลูกบุญน้อยด้อยค่านัก
จึงพิทักษ์ชีวีไว้มิได้
ถึงชาติหน้าจะอาฆาตจองเวรไป
ตราบจนสิ้งอสงไขยชั่วกัปกัลป์
หมายเหตุ
นิยายเรื่องนี้ เคยวางโครงเรื่องไว้ตั้งแต่สมัยเด็กๆ แล้วก็แต่งขึ้นแบบเด็กๆ ทำให้ไร้ความสวยงามของภาษาไป พอเริ่มมีวุฒิภาวะแล้ว จึงได้จับนิยายเรื่องนี้มาปัดฝุ่นเสียใหม่ วางโครงเรื่องให้มันน่าเชื่อถือกว่าเดิม และปูรากฐานให้มันมั่นคงกว่าเดิม โดยหวังว่า นิยายเรื่องนี้จะเปล่งประกายความงดงามของภาษา และอวดโฉมโครงเรื่องที่สลับซับซ้อนให้แก่ผู้อ่านที่มายลนิยายเรื่องนี้
สิษย์สินธุ์และขวัญฟ้า เป็นตัวละครที่แรกเริ่มในความทรงจำเมื่อจะขีดเขียนร่างโครงเรื่องของนิยายเรื่องนี้ พวกเขามีตัวตนอยู่ในใจของผู้เขียน และหวังว่าผู้อ่านจะยอมเปิดใจให้พวกเขามีตัวตนอยู่ในใจผู้อ่านด้วย
สุดท้ายนี้ อดิขอแค่คำติชมให้กำลังใจในช่องความคิดเห็น เพียงเท่านั้นก็ขับเคลื่อนความปราถนาที่จะจรดปลายปากกาขีดเขียนนิยายเรื่องนี้ให้เต็มไปด้วยความละเมียดละไมดั่งน้ำชาในช่วงบ่าย
ขอขอบคุณรูปภาพบัวสายปลายทุ่งจากศิลปินสุรเดช แก้วท่าไม้ ที่ได้หยิบยืมมาเพื่อสร้างความกระจ่างให้แก่ตัวละครสิษย์สินธุ์ด้วย ณ ที่นี้
จารึกไว้ในนามปากกา อดิ