และเมื่อลืมตา ก็พบว่า วิญญาณของตัวเองได้มาอยู่ในร่างของนางร้ายเหิงเย่วที่ถูกชินอ๋องเฉิงหรงจิงบีบคอจนหมดลมหายใจไปชั่วขณะ
ให้ตายเถอะนางร้าย ..ตายได้อนาถจริงๆ
แต่เดี๋ยวนะ ..
ถ้าเป็นเรื่องนี้ ..นางร้ายจะต้องพบเจอกับความน่าอนาถมากกว่านี้อีก
นั่นก็เพราะ ตามในนิยาย เมื่อเช้าวันรุ่งขึ้น ชินอ๋องเฉิงหรงจิ่งได้ให้ผู้ติดตามของเขาได้ผลัดกันเชยชมเรือนร่างของนางร้าย เพราะเขาโกรธ เกลียดนางร้ายที่กล้าวางยาปลุกกำหนัดเขา
ดังนั้น ในเมื่อนางต้องการจะนอนกับผู้ชาย ..เขาก็จัดให้นางได้จุใจ
ทั้งๆ ที่วรยุทธิ์ของนางไม่อ่อนด้อย ทว่า เมื่อเข้าสู่ขั้นสูงสุดของเคล็ดวิชา หลังจากเสพสังวาสแล้วร่างกายนางจะอ่อนแอไปเจ็ดวัน แล้วจึงค่อยฟื้นพลัง
เมื่อหยินหยางหลอมรวมครบเจ็ดวัน จุดลมปราณทุกจุดจะเปิดออก แล้วพลังยุทธิ์จะเข้าสู่จุดสูงสุด
นั่นจึงเป็นช่องโหว่ที่ทำให้ผู้ชายเหล่านั้น ครอบครองนางได้
นับแต่นั้น นางร้ายก็กลายเป็นนางมารร้าย มีความแค้นกับพระเอกและนางเอก ชนิดที่อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้อีกต่อไป
นางตามล้างตามฆ่าทุกคนที่เคยได้เชยชมนาง และขณะที่กำลังจะฆ่าพระเอก นางเอกก็เข้ามาขวางทางกระบี่
แต่ว่า เจียวเจี้ยซึ่งเป็นพระรองของเรื่อง กลับยื่นมือเข้ามาช่วย
เขาคือศิษย์พี่ของชินอ๋องเฉิงหรงจิ่งและหลี่จิ่วเหมยซึ่งเป็นนางเอกของเรื่อง
เจียวเจี้ยฉวยโอกาสตอนนางเผลอ แทงดาบเข้ามาจากทางด้านหลัง
ทำให้นางมารร้ายเหิงเยว่จำต้องพ่ายแพ้ และพยายามหนีเอาตัวรอดไปอย่างทุลักทุเล
ทว่า มักเจอศัตรูบนทางแคบ
นางหนีไปและได้เจอกับไฉหลงซึ่งเป็นตัวร้ายที่หลงรักนางเอกอย่างจิ่วเหมย ดังนั้น เหิงเยว่เลยกลายเป็นศัตรูของเขาไปด้วย
เมื่อนางผู้เป็นที่รักเป็นศัตรูกับใคร คนผู้นั้น ย่อมเป็นศัตรูของไฉหลงเช่นกัน
เขาเองก็อยากให้นางมารเหิงเยว่ตายเช่นกัน ทว่า นางได้ขโมยตำรามารสยบไปจากสำนักมาร
ดังนั้น นางยังตายไม่ได้
ไฉหลงได้พานางกลับสำนักมารของเขา
“อาจารย์”เหิงเยว่ยื่นมือไปขอความช่วยเหลือจากเขา
ไฉหลงอุ้มนางขึ้นมา แล้วพากลับสำนัก จากนั้นก็รักษาบาดแผลให้
ทว่า เขาก็ได้แอบวางยาพิษนางเช่นกัน
ไฉหลงดูแลเหิงเย่ว และสารภาพรักกับเหิงเย่วเพื่อให้นางตายใจ
เมื่อได้รับความรักความอบอุ่น ต่อให้เป็นนางมารร้ายก็กลายเป็นเพียงดรุณีที่พร้อมจะมอบทุกอย่างให้คนรัก
หนึ่งปีที่อยู่ด้วยกันที่สำนักมาร นางทั้งรักและเชื่อใจเจ้าสำนักอย่างไฉหลงเป็นอย่างมาก
ทั้งสองแต่งงานกัน ใช้ชีวิตด้วยกันทั้งวันทั้งคืน
เห็นนางที่ใด เห็นเขาที่นั่น
“ท่านบอกว่า ยังฝึกวิชาสยบมารไม่สำเร็จใช่ไหม”
“ใช่ ข้าคงเป็นเจ้าสำนักคนเดียวที่จะไม่สำเร็จวิชาที่ตกทอดมาสู่รุ่นต่อรุ่นนี้ ต่อไป สำนักเราคงตกต่ำเพราะมีข้าเป็นเจ้าสำนัก”ไฉหลงกล่าว
“ท่านพี่”นางมองสามีที่แต่งงานด้วยอย่างสำนึกผิด “ข้าเป็นคนขโมยคัมภีร์วิชามารสยบไปจากสำนักของเรา”
“เจ้าหรือ”เขาแสร้งทำเป็นไม่รู้ “ข้าคิดว่า มันหายไปก่อนที่ข้าจะขึ้นเป็นเจ้าสำนึกเสียอีก ตอนนั้นในสำนักมีพวกทรยศ ทำให้ต่อสู้กันจนสำนักนองเลือดขนาดนั้น ข้าจึงนึกว่า มันหายไปตอนนั้น”
“ข้าเอง ..ข้าเป็นคนเอาไป”
“แล้ว ..”
“ข้าซ่อนไว้ ข้าจะไปเอากลับมาให้ท่าน”
“จริงหรือ”ไฉหลงยิ้ม
นางมองรอยยิ้มนั้นแล้วยิ้มตอบ
เมื่อเห็นรอยยิ้มของคนรัก และรักเรา ..มันรู้สึกดีอย่างนี้นี่เอง
ตั้งแต่เกิดมา นางก็ไม่เคยสัมผัสกับคำว่ารัก
นางเป็นลูกชังที่แม่ไม่รัก
สุดท้าย ได้มารู้ในภายหลังว่า จอมยุทธิ์หญิงที่เลี้ยงนางมา ..หาใช่มารดาที่แท้จริง
นางเป็นลูกคุณหนูจากตระกูลใหญ่อย่างตระกูลหลี่ ซึ่งบิดาของนางก็คือ ท่านกั๋วกงหลี่อี้คุน ..เขาเป็นแม่ทัพพิทักษ์แผ่นดินในฮ่องเต้เฉิงฟงในเวลานี้
หรือถ้าให้พูดก็คือ นางคือคุณหนูใหญ่ตระกูลหลี่ ซึ่งก็คือพี่สาวต่างมารดาของหลี่จิ่วเหมยที่เป็นนางเอกของเรื่อง
เมื่อลูกสาวโดนลักพาตัว มารดาของเหิงเยว่ก็ล้มป่วย อาการอ่อนแอเรื่อยมา
หลังจากนั้น บิดาของนางก็รับอนุคนใหม่เข้ามา เพื่อมีทายาทให้ตระกูลหลี่
มารดาของนางจึงรับลูกชายของอนุเป็นลูกบุญธรรม และเลี้ยงดูราวกับบุตรในอุทร
แม้แต่ลูกสาวของอนุอย่างหลี่จิ่วเหมย ก็ได้รับความรักความเอ็นดูจากหลี่ฮูหยิน ซึ่งปัจจุบันไม่มีลูกเพราะร่างกายอ่อนแอหลังจากที่คลอดบุตรสาวอย่างเหิงเยว่
*_____________*
เหิงเยว่ได้กลับไปเอาคัมภีร์วิชามารสยบกลับมาให้ไฉหลง
และทันทีที่เขาได้รับคัมภีร์ไปก็ตั้งใจฝึกทั้งวันทั้งคืน จนสำเร็จวิชาภายในเวลาเพียงสามเดือน
“ท่านฝึกสำเร็จแล้ว ข้ายินดีด้วยนะท่านพี่”นางยิ้มให้
“ฉึก!”มีดสั้นที่ซ่อนอยู่ภายใต้แขนเสื้อของไฉหลงแทงเข้ากลางอกของเหิงเยว่
“ท่า ..ท่าน”นางมองเขาอย่างไม่เข้าใจ “เพราะอะไร”
“เพราะข้าเกลียดและขยะแขยงเจ้า”
“อะไรกัน”เหิงเยว่มึนงง “ถ้าเป็นเรื่องผู้ชายพวกนั้นที่เคยเชยชมเรือนร่างของข้า ..ข้าก็เคยบอกเล่ากับท่านไปแล้ว ท่านเองก็รู้มานานแล้วไม่ใช่หรือ ..แล้วใย ..”
“ข้าไม่ได้รังเกียจเจ้าแค่เรื่องนั้น แต่ที่ข้าเกลียดเจ้า ..ก็เพราะเจ้าพยายามฆ่าผู้หญิงที่ข้ารัก ในเมื่อเจ้าเป็นศัตรูกับนาง ก็เท่ากับเป็นศัตรูของข้าเช่นกัน”ไฉหลงยิ้มมุมปากด้วยความสาแก่ใจ “ข้ารอเวลานี้มานานแล้ว รอให้เจ้าเอาคัมภีร์กลับมาคืน และในเวลานี้ ข้าก็ฝึกวิชาสำเร็จแล้ว ต่อให้เจ้า ..ก็ไม่อาจต่อกรกับข้าได้อีก”
“หึ!”เหิงเยว่หัวเราะเยาะความโง่ของตัวเอง “ที่แท้ ..ก็เป็นเช่นนี้”
นางถ่องแท้แล้ว
ไม่มีความรัก ไม่มีความจริงใจ
ทุกอย่างล้วนลวงตา ทุกอย่างเป็นแค่เรื่องโกหก
นางมารร้ายอย่างนาง ..จะพบเจอรักแท้ได้อย่างไร
โชคชะตาคงกำหนดเอาไว้แล้วว่า ชาตินี้ ..คงเป็นได้แค่คนที่ถูกเกลียดชัง
“บอกได้ไหม ผู้หญิงที่ท่าน ..รักจริง ..คือใคร”เหิงเยว่น้ำตาร่วงหยดด้วยความเสียใจ
“หลี่จิ่วเหมย”ไฉหลงตอบ
“ที่แท้ ..ก็เป็นนาง”เหิงเย่วมองมองสบตาเขาพร้อมกับดึงมีดสั้นออกมาจากอก
ร่างของนางทรุดลงกับพื้น
เลือดเจิ่งนองไปทั่ว
“แต่ข้า ..รัก ..ท่าน”เหิงเย่วมองมีดในมือของตัวเองก่อนจะพูดตัดสัมพันธ์
“ขอให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายสำหรับเรา ชาติหน้าชาติใด ..ท่านกับข้า ..อย่าได้พบพาน”พูดจบนางก็ใช้มีดปาดคอตัวเองเพื่อเป็นการปลิดชีพจากความเจ็บปวดทรมานทั้งกายและใจ
นางไม่ขอรับรู้ใดๆ อีกแล้ว
ทั้งชีวิตนี้ ..นางไม่เคยพบเจอรักแท้
ในโลกนี้ ไม่มีใครรักนางเลยแม้แต่คนเดียว
“ ..”ไฉหลงค่อยๆ นั่งลงข้างๆ กายร่างที่สิ้นลมหายใจของนาง
ทำไมอยู่ๆ ก็รู้สึกโหวงเหวงในใจ
เหตุใดไม่รู้สึกมีความสุขแม้แต่น้อย
เขาเกลียดนางมาตลอดไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมน้ำตาจึงไหลออกมาเล่า
ภาพความทรงจำเมื่อตอนแต่งงานเข้ามาภาพแล้วภาพเล่า
“ไม่ ข้าไม่ได้รักเหิงเยว่ ..คนที่ข้ารักคือจิ่วเหมย”ไฉหลงบอกกับตัวเองแบบนั้น