สัญญาณเตือนภัยทางอากาศกรีดร้องก้องดังไปทั่วฟ้า พร้อม ๆ กับเสียงเครื่องยนต์ของฝูงบินข้าศึกที่กระหึ่มคำรามแหวกความมืดใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ท้องฟ้ายามค่ำคืนมืดทะมึน มีเพียงแสงไฟวูบวาบจากลูกระเบิดที่ถูกทิ้งลงมาอย่างไม่ปรานี
ตู้มมมม!!!
ระเบิดลูกแล้วลูกเล่าตกลงสู่พื้น ดังกระหึ่มสะเทือนลั่นไปทั่วทั้งเมือง บ้านเรือนถูกทำลายราบเป็นหน้ากลอง เปลวไฟลุกโชนจากเศษซากปรักหักพัง ควันดำหนาทึบพวยพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าเหมือนเมฆปีศาจที่กำลังกลืนกินทุกสิ่ง
พ่อเลี้ยงจักรคำยืนอยู่ท่ามกลางความโกลาหลด้วยสีหน้าตึงเครียด แสงเพลิงสะท้อนอยู่ในดวงตา ขณะตะโกนสั่งบ่าวรับใช้ให้ช่วยกันดับไฟและขนข้าวของออกจากบ้านไม้สักเก่าแก่ยุคอาณานิคมที่กำลังถูกเปลวไฟลามเลีย แรงระเบิดฉีกหลังคาจนเป็นช่องโหว่ เพลิงลุกโชนตามแรงลม
“เร็วเข้า! ยกหีบขึ้นรถให้หมด ของสำคัญต้องขนไปก่อน”
ทุกคนต่างเร่งมือลากหีบสัมภาระหลายใบขึ้นรถบรรทุก บ้างเนื้อตัวเปรอะเปื้อนเขม่า บ้างบาดเจ็บจากแผลไฟไหม้ ท่ามกลางความเร่งรีบ เสียงไม้ลั่นเปรี๊ยะ ๆ ดังขึ้น คานบ้านไม่อาจทานทนต่อเปลวไฟได้อีกต่อไป
โครมมมม!!!
หลังคาถล่มลงมา ฝุ่นควันและสะเก็ดไฟกระจายไปทั่ว คนที่ยังหลงเหลือต่างเผ่นหนีออกมาอย่างทุลักทุเล
รถบรรทุกขับออกจากบ้านของพ่อเลี้ยงจักรคำในคืนที่เต็มไปด้วยกลิ่นเขม่าควันไฟ เสียงร้องไห้คร่ำครวญปะปนกับเสียงโหวกเหวกดังสะท้อนอยู่ทุกที่ บ้านเรือนหลายหลังยังคงลุกไหม้ราวกับทะเลเพลิง สะเก็ดระเบิดกระเด็นไปโดนต้นไม้ริมทางจนเกิดไฟลุกเป็นแนวยาว ขบวนรถแล่นผ่านภาพความวินาศสันตะโรจนมาถึงอดีตโรงงานแปรรูปไม้ อาคารเก่าแก่รอดพ้นจากฝูงเครื่องบินทิ้งระเบิด พ่อเลี้ยงจักรคำก้าวลงจากรถ ก่อนจะหันไปสั่งการกับบ่าวรับใช้
“ขนของเข้าไปเก็บข้างในให้หมด เราจะใช้ตรงนี้เป็นที่หลบภัยสำหรับทุกคน”
แสงแรกของอรุณฉายส่องลงมาบนเมืองที่เหลือเพียงเถ้าธุลี โรงเลื่อยเก่าบนที่ดินของพ่อเลี้ยงถูกเปลี่ยนเป็นที่พักอาศัยชั่วคราว ผู้คนเริ่มหลั่งไหลเข้ามาหลบภัยภายใต้ชายคาของอาคารหลังนี้ พื้นไม้ถูกปูด้วยเสื่อเก่า ๆ ผ้าห่มที่หาได้มีเพียงไม่กี่ผืน แต่ก็ยังดีกว่าการต้องนอนหนาวอยู่ริมถนน รถบรรทุกยังคงวิ่งกลับไปกลับมาระหว่างบ้านพ่อเลี้ยงที่เหลือเพียงเถ้าถ่าน นำอาหารและข้าวของที่รอดพ้นจากเปลวเพลิงมาแจกจ่าย พร้อมกับรับคนที่ต้องการความช่วยเหลือมาอย่างต่อเนื่อง
“พ่อเลี้ยงจะไม่กลับไปที่บ้านวัชรโยธินแล้วหรือครับ” บ่าวคนสนิทเอ่ยถามอย่างลังเล
พ่อเลี้ยงจักรคำเงียบไปครู่หนึ่ง เฝ้าดูกลุ่มควันที่ลอยขึ้นมาจากอีกฝั่งของแม่น้ำ เมืองที่เคยรุ่งเรืองตอนนี้กลายเป็นอดีตไปแล้ว
“ไม่ บ้านของเราอยู่ที่นี่แล้ว” พ่อเลี้ยงหันหลังให้กับซากปรักหักพังนั้น
เสียงหัวเราะของเด็ก ๆ ที่ยังไร้เดียงสาดังแว่วมา พวกเขายังคงจับกลุ่มวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนานโดยไม่รู้เลยว่าสงครามคืออะไร
“เห็นเด็ก ๆ เหล่านั้นไหม พวกเขาคืออนาคต” พ่อเลี้ยงกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่นแล้วออกก้าวเดิน “มาเถอะ มีเรื่องให้ทำอีกเยอะ”