"เมื่อข้าเกิดมา ข้าถูกทุกคนรอบตัวข้าชี้แนะข้าทันที ข้าต้องเป็นฮ่องเต้ที่ดี ต้องฟื้นฟูหนานซ่ง ต้องปกป้องทวยราษฎร์จากมองโกล ต้องๆๆ แม้กระทั่งทุกวันนี้ ลู่ซิวฟูยังละเมอกระซิบบอกข้าอยู่ทุกวันเลย" ชายหนุ่มรำพึง "เขาบอกว่า ข้าต้องเอาอย่างซ่งไท่จู่จ้าวควงอิ้น เอาอย่างเยวี่ยหวางโกวเจี้ยน ทุกคนมีแต่บอกให้ข้าทำอย่างนั้น ทำอย่างนี้"
ดวงตาอัญมณีของหญิงสาวจ้องเขา มุมปากเธอยกขึ้นน้อยๆ
"ข้าไม่เคยถามตัวเองเลย ว่าข้าต้องการสิ่งใด แต่วันนี้ข้าถามตัวเอง ข้ารู้แล้ว ว่าข้าปรารถนาสิ่งใด" แล้วชายหนุ่มก็ยิ้มออกมา
หัวใจของสาวิตรีฟูฟ่อง รอยยิ้มกระจ่างนั้นให้ความรู้สึกเหมือนท้องนภายามฤดูเกี่ยวข้าว เพียงนางได้เห็นหัวใจก็คล้ายต้องลมเย็น สาวิตรีแอบตั้งคำถามอยู่ในใจ คนหน้าไร้ความรู้สึกเยี่ยงเขา ยิ้มเช่นนี้เป็นด้วยหรือ สตรีในแผ่นดินนี้สักกี่คน ที่ได้เห็นรอยยิ้มงามเช่นนี้
สาวิตรีไม่พูดคำใดออกมา ความสุขอาบไล้ทั่วทั้งใบหน้า นางเพียงเอียงคอแล้วพิงศีรษะของตัวไว้ที่ไหล่แกร่งของจ้าวปิ่งเท่านั้น
.
..
...
ดวงใจของจ้าวปิ่งเคยเต้นจังหวะนี้หรือ? คุนะถามตัวเอง คลองสายตาของหญิงสาวมองไม่เห็นสิ่งใดอีกแล้ว ทุกอย่างพร่ามัวเพราะม่านน้ำตาบดบังทุกอย่าง
น้ำอุ่นไหลออกจากดวงตา หยดลงสู่พื้นเป็นสาย หัวใจของจ้าวปิ่งไม่เคยร้องจังหวะนี้ให้กับใคร กับตัวข้าจ้าวปิ่งยิ่งไม่เคย
จ้าวปิ่งรักสาวิตรี รักอีนังคนนั้นเหมือนอย่างที่ข้ารักเขา
"ฆ่ามัน" เฮียวงะเอ่ย "ข้าจะฆ่ามัน ข้าจะฆ่าคนที่ทำให้เจ้าเสียน้ำตา"
คุนะสะอื้น นิ้วมือหญิงสาวขยี้ก้อนหินที่อยู่ข้างหน้าจนเป็นธุลี
"ฆ่ามันซะก็สิ้นเรื่อง"
ไม่มีคำตอบ นอกจากเสียงสะอื้นแผ่วเบาของหญิงสาว