เรื่องนี้จะเปิดให้อ่าน " ฟรีจนจบ " แต่อาจจะติดเหรียญล่วงหน้าและปลดล็อคให้อ่านฟรี!!
โดยจะแจ้งวันและเวลาที่จะปลดเหรียญให้ นักอ่านที่ติดตามไรท์จะทราบถึงข้อนี้ดีค่ะ
แนะนำให้อ่านวันแต่อวันนะคะ จะได้ไม่พลาดทุกการอัพเดท
ฝากกดใจ เก็บเข้าชั้น กดติดตามนักเขียน รวมไปถึงคอมเม้นท์มาคุยกันด้วยนะคะ
1 คอมเม้นท์ = 1 กำลังใจค่ะ
..............................................................................
แนะนำเรื่อง
หนิงซูมี่ยูทูบเบอร์สาวที่มียอดผู้ติดตามมากกว่า
ห้าล้านคนกำลังพาเพื่อนรักอีกสามคนไปท้าทายความศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าแม่ไฉ่หง
ที่มีผู้มาขอพรแล้วรีวิวว่าได้ผู้กันไปทุกราย ทำให้กลุ่มคนโสดอย่างพวกเธอไม่สามารถที่จะทนอยู่เฉยได้อีกต่อไป จึงต้องเรียกระดมพลเหล่าบรรดาเพื่อนสนิททั้งสามคนมาในทันที
“นี่พวกแกเดินเร็ว ๆ หน่อยสิ เดี๋ยวแดดออกก็บ่นว่าร้อนกันอีก”
หนิงซูมี่ร้องบอกเพื่อน ๆ ที่เดินหน้าหงิกหน้างอมาเพราะถูกเธอโทรปลุกให้ตื่นกันแต่เช้า
“เรื่องไร้สาระแบบนี้ไม่เห็นต้องชวนฉันมาเลย เสียเวลาอ่านหนังสือ”
ใบหน้าสวยชื้นไปด้วยเหงื่อเมื่อถูกแสงแดดเริ่มแผดเผา มู่หรันเฟิงยกข้อมือขึ้นมาดูนาฬิกา นี่ก็เป็นเวลาหลายชั่วโมงแล้วที่พวกเธอเดินทางมาที่นี่
“แกนั่นแหละที่ต้องควรมามูมากที่สุด ชีวิตนี้ยังไม่เคยโดนจิ้มเลยไม่ใช่เหรอ มาขอพรเถอะ เผื่อจะได้มีวาสนาโดนเปิดซิงกับเขาบ้าง”
ยูทูบเบอร์สาวในชุดเกาะอกสีแดงและกระโปรงสีดำสั้นจู๋สั่งพลางทำสีหน้าสงสารเพื่อนรักที่ยังไม่ประสีประสากับเรื่องพวกนี้ พอพูดถึงทีไรก็จะทำท่าจะเป็นจะตายทุกที
“เดี๋ยวสิ เรื่องแบบนี้ก็ต้องเอาออกมาพูดกันในสถานที่แบบนี้ด้วยเหรอ”
เด็กเรียนอย่างมู่หรันเฟิงถึงกับหน้าเหวอเมื่อได้ยินคำพูดที่ตรงไปตรงมาของเพื่อนสนิท ที่เธอยังซิงก็เพราะไม่มีผู้ชายคนไหนมาจีบต่างหาก
“ที่จริงน่าจะมาตอนกลางคืนนะ ตอนกลางวันแบบนี้ไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่เลยมันยังไม่สร่าง อีกอย่างมาตอนกลางวันแบบนี้แม่ดาราสาวจะไม่ต้องปลอมตัวอย่างหนักเลยหรือไง”
ลู่ต้าเหนิงบ่นออด ๆ แอด ๆ แต่ก็เดินตามเพื่อนไปอย่างทุลักทุเล
“เอาน่านาน ๆ จะได้รวมตัวกันที เดี๋ยวขอพรเสร็จพวกเรามาถ่ายรูปด้วยกันก่อนกลับนะฉันจะเอาได้เอาไปลงในช่องทางโซเชียลส่วนตัวของฉัน พวกชาวเน็ตที่เอาแต่เม้าท์ว่าฉันบ้างานบ้าเงินจนไม่มีเพื่อนคบจะได้สงบปากสงบคำลงบ้าง”
เสวี่ยเยว่ฮวาดาราสาวชื่อดังพูดพลางขยับแว่นกันแดดสีดำสนิทให้เข้าที่ หลังจากเดินทางมาถึงสถานที่ขอพรทุกคนก็ยืนพักจนหายเหนื่อยแล้วเริ่มสงบจิตสงบใจ มองรูปปั้นเจ้าแม่ตรงหน้าแล้วเริ่มอธิษฐานในสิ่งที่ปรารถนาทันที
ผ่านไปครู่หนึ่งที่ทั้งสี่คนตั้งสมาธิอยู่ที่คำขออย่างสุดพลัง ท่านเป็นเจ้าแม่ที่โดดเด่นทางเรื่องความรักที่คนอยากมีคู่ต้องเข้าคิวมาเพื่อสักการะเลยทีเดียว
“คราวนี้แหละฉันจะต้องได้ผัวสักที”
หนิงซูมี่เอ่ยอย่างลิงโลด เพื่อนๆ ที่ได้ฟังต่างก็ส่ายหน้าเพราะเอือมระอาในเรื่องความบ้าผู้ชายของเพื่อนสาวคนนี้
“แต่ฉันไม่ได้มาขอผู้นะ ฉันมาขอเงิน เจ้าแม่จะให้หรือไม่ให้ไม่รู้แต่ขอไว้ก่อน”
เสวี่ยเยว่ฮวาบอกกับหนิงซูมี่และเพื่อน ๆ อย่างไม่ใส่ใจเท่าไหร่นัก เพราะที่เธอมาในวันนี้เพราะอยากเจอเพื่อนมากกว่า
“ไหน ๆ ก็ไหนๆ แล้วไหว้พระขอพรเสร็จแล้วพวกเราไปหาอะไรกินเป็นครั้งสุดท้ายกันเถอะ”
ลู่ต้าเหนิงหันมาชวนเพื่อน ๆ ที่ยืนคนละทิศคนละทาง
“แกนี่พูดอะไรเป็นลางจริง ๆ เลยนะต้าเหนิงครั้งสุดท้ายบ้าบออะไรกัน ถึงฉันจะเอาแต่ทำงานจนแทบไม่มีเวลาว่างแต่ก็ยังพยายามหาเวลามาหาพวกแกนะ”
เสวี่ยเยว่ฮวา บ่นกับลู่ต้าเหนิงที่วันนี้ดูท่าว่าเพื่อนคนนี้จะพูดจาไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่
“เออ...นั่นสิต้าเหนิง แกอย่าพูดอะไรอัปมงคลแบบนั้นสิ นี่แกคงจะดื่มเหล้าจนสมองเลอะเลือนไปหมดแล้วมั้ง ฉัน...หนิงซูมี่ขอพูดเอาไว้ตรงนี้เลย ถ้ายังไม่เจอ 56 ซูมี่คนนี้จะยังไม่ยอมตายโดดเด็ดขาด”
“ฉันล่ะเชื่อแกเลยมีมี่ ที่สามารถพูดเรื่องนี้ออกมาได้หน้าตาเฉย” แต่พอลู่ต้าเหนิงพูดเรื่องของกินท้องของเธอก็ส่งเสียงร้อง มื้อเช้ายังไม่ทันได้เข้าปากก็โดนลากออกมาที่นี่หวังว่าเจ้าแม่ไฉ่หงรู้เข้าคงจะให้พรเธอสมปรารถนานะ
“ฉันก็พูดเล่นไปเรื่อยเปื่อยนั่นแหละน่า แกก็อย่าคิดมากไปเลยนะหรันเฟิง ว่าแต่มื้อเที่ยงนี้พวกเราจะกินอะไรกันดี” ลู่ต้าเหนิงพูดทั้งที่หัวเราะในความคิดของเพื่อน
“เอาเป็นอะไรง่าย ๆ ดีไหม ฉันยังมีถ่ายแบบกับถ่ายละครอีกอาทิตย์หน้า เดี๋ยวน้ำหนักขึ้นเวลาลดจะลำบาก”
เสวี่ยเยว่ฮวาพูดพลางส่งยิ้มแหย ๆ ให้กับเหล่าเพื่อน เพราะกลัวว่าเพื่อน ๆ จะบ่นว่าเธอเรื่องมาก อีกอย่างหนิงซูมี่ มู่หรันเฟิงและลู่ต้าเหนิงทุกคนต่างก็ดูแลตัวเองกันเป็นอย่างดีอยู่แล้วและหน้าตาของแต่ละคนนั้นก็สะสวยจนสามารถเป็นดาราได้อย่างสบาย ๆ เลย
เพียงแค่พวกเพื่อนของเธอนั้นไม่ได้สนใจที่จะเข้าวงการบันเทิงกันก็เท่านั้นเอง หลังจากตกลงกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วทั้งสี่สาวก็ตัดสินใจเลือกฝากท้องไว้ที่ร้านหม้อไฟเจ้าประจำ พวกเธอพูดคุยเรื่องสัพเพเหระกันก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับบ้านไป ไม่มีใครรู้ว่าพรที่พวกเธอขอนั้นกำลังทำงานอยู่เงียบ ๆ จนกระทั่งอีกเจ็ดวันต่อมา ทั้งสี่สาวก็ค่อย ๆ พากันทยอยล้มหายตายจากไปทีละคนอย่าง