"ท่านอ๋อง..."
หวังเยว่อิงเริ่มมีสติขึ้นบ้าง หากนางอยู่บนฝั่งแล้วย่อมหมายความว่าหลี่ซานซานก็คงอยู่แถวนี้เช่นกัน นางค่อย ๆ เอื้อมมือขึ้นมาสัมผัสกับใบหน้าอันหล่อเหลาของชายหนุ่มพลางแสดงละครบทภรรยาผู้แสนดีกำลังถูกตัวร้ายกลั่นแกล้งทันที
"เจ้าปลอดภัยแล้ว"
"ท่านอ๋อง...ข้ากลัว"
ดวงตาคู่สวยสามารถสั่งน้ำตาให้ไหลรินออกมาได้ ความเก่งกาจของนางทำให้หลี่เซียวหมิงรู้สึกทึ่งในความสามารถนี้อยู่ไม่น้อยแล้วเขาควรทำเช่นไรต่อไปเล่า
"ไม่ต้องกลัวนะ ข้าอยู่ตรงนี้แล้ว"
ชายหนุ่มประคองหวังเยว่อิงเข้ามาโอบกอดท่ามกลางสายตาของบรรดานางกำนัลและหลี่ซานซานเป็นอันรู้กันว่าชินอ๋องผู้แสนเย็นชามีความห่วงใยให้กับพระชายามาเป็นอันดับหนึ่ง
"ทำไมพี่ไม่ช่วยข้าเลย ข้าเป็นน้องพี่นะ"
หลี่ซานซานบีบน้ำตาด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในขณะที่หวังเยว่อิงกอดคอหลี่เซียวหมิงพลางอิงแอบแนบชิดกับเขาจนนางแทบจะเสียสติกับสิ่งที่เห็น
"พาข้ากลับห้องได้ไหม ข้าหนาวเหลือเกิน"
"ได้สิ"
"ว...ว่าไงนะ นี่พี่ฟังข้าอยู่บ้างไหม"
ร่างของหวังเยว่อิงถูกอุ้มขึ้นตามความปรารถนาของนาง บรรดานางกำนัลต่างลุ้นว่าเหตุการณ์นี้จะลงเอยเช่นไรเมื่อชินอ๋องไม่ยอมลงให้กับองค์หญิงห้าเพียงเพราะเขาให้ความสนใจพระชายามากกว่าน้องสาวของเขา
"เจ้ากลับวังไปก่อน"
"ท่านไล่ข้าได้อย่างไร ข้าไม่ยอม"
"องค์หญิงห้าแม้นเป็นที่รักของฮ่องเต้ หากไม่ฟังคำของข้า ก็ไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก"
ความเย็นชาของหลี่เซียวหมิงช่างน่าสนใจยิ่งนัก เขากล้าหักหน้าน้องสาวตัวเองต่อหน้านางกำนัลนับสิบและคนที่เขาอุ้มอยู่ซึ่งกำลังมองมายังคนพ่ายแพ้ไม่เป็นท่ายืนเปียกปอนไปทั้งตัว
หลี่เซียวหมิงเดินจากไปในขณะที่หวังเยว่อิงขยับตัวเข้ามาพิงศีรษะมองหลี่ซานซานกำมือแน่น นางกำนัลที่เหลืออยู่ทำตัวไม่ถูกจึงก้มหน้าจนกว่าหลี่ซานซานจะสงบสติแต่คนพ่ายแพ้จะสงบสติได้เช่นไรเมื่อนางได้เห็นว่าใบหน้าอันงดงามของหวังเยว่อิงกำลังยิ้มเยาะเย้ยราวกับผู้ชนะที่แท้จริง