“ขยันผิดที่สิบปีก็ไม่รวย เหนื่อยฉิบ!”
“บ่นอีกแล้วบ่นทุกวัน”
“ก็มันเหนื่อยนี่พี่ มีผัวรวยให้รู้แล้วรู้รอดไปซะดีมั้ง”
“รวยเองไม่ดีกว่าเหรอ”
“รวยเองก็ดีแต่มีผัวรวยดีกว่า ทำงานทั้งเดือนได้หมื่นแปดนอนให้เสี่ยเลีย...ได้แปดหมื่น”
“ฮ่า ๆ คิดได้เนอะ”
“คิดได้สิพี่หนูต้องใช้เงิน”
“เฮ้อ... เห็นแล้วเหนื่อยแทน หาเงินอย่างกับมีหนี้ร้อยล้าน”
“แน่สิ! โลกเดี๋ยวนี้มันหมุนด้วยเงิน”
ชีวิตฉันมีแต่เงิน เงิน และเงิน ... ชีวิตที่ดีคือชีวิตที่มีเงินแม่สอนฉันแบบนั้น อะไรที่ได้เงินฉันทำหมดแหละยกเว้นขายตัว
อนาคตของเรา ชีวิตของเรา มีแค่ตัวเราเท่านั้นที่รับผิดชอบได้ ฉันคิดแบบนี้เสมอ
“มีงานดี ๆ ให้ทำไหม”
“งานเหรอ? ไม่แน่ใจว่าจะเรียกว่างานได้ไหม”
“ไม่ขายตัวอย่างเดียวเป็นใช้ได้”
“ย่ะ! แต่งานที่แกทำมันก็ดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจะเปลี่ยนงานทำไม”
“รายจ่ายเยอะกว่ารายรับหนูจะอยู่ได้ยังไงล่ะพี่”
“เออ เดี๋ยวจะถามลุกซ์ให้นะว่าเขาหาคนได้หรือยัง”
“ลุกซ์? เด็กในสังกัดพี่เหรอ”
“ไม่ใช่! ฉันต่างหากเด็กในสังกัดเขา เรื่องนั้นไม่ต้องสนใจหรอกสนใจงานของแกดีกว่า สบายใจได้งานที่ฉันหาให้แกทำได้แน่นอน ถนัดมากด้วย”
“อะไร?”
“พี่เลี้ยงเด็ก”
“หนูลาออกจากงานประจำเพื่อมาเป็นพี่เลี้ยงเด็กเนี่ยนะพี่จะบ้าเหรอ มีงานอื่นที่มั่นคงกว่านี้ไหม เด็กเลี้ยงไม่เกินสองสามปีเขาก็เลิกจ้างแล้วนะพี่”
“เดือนละห้าหมื่น”
“ตกลง!”
You are mine มาเฟียคลับ
“ลุกซ์ เรื่องที่ฉันให้ทำไปถึงไหนแล้ว”
“หาคนใหม่ได้แล้วครับคุณธัญ”
“เป็นใคร ชื่ออะไร อายุเท่าไหร่?”
“นี่ครับประวัติของเธอ”
เอกสารฉบับหนึ่งถูกวางลงตรงหน้า ดวงตาคู่คมจ้องมองและอ่านมันอย่างละเอียดก่อนจะพูดประโยคไม่ค่อยพอใจออกมา
“เพิ่งอายุยี่สิบแปดเอง มีที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้ไหม”
“ตอนแรกก็มีครับ แต่พอรู้ว่าต้องเป็นพี่เลี้ยงของลูกคุณธัญพวกเขาก็เปลี่ยนใจกันหมด”
“อะไรนักหนากับเด็กแค่สองขวบ”
“เขาไม่ได้อะไรกับเด็กครับ เกรงว่าเขาอะไรกับพ่อของเด็กมากกว่า”
“ฉันทำไม?”
“พูดได้เหรอครับ”
“งั้นก็ไม่ต้องพูด” มือหนากุมขมับด้วยความเหนื่อยหน่ายไหนจะเรื่องงานและยังเรื่องส่วนตัวอีก “แล้วคนนี้หามาจากไหน”
“คุณบัวงามครับ”
“…”
“ไม่ต้องห่วงครับคุณธัญ เธอคนนี้ไม่ใช่เด็กในสังกัดเรา เธอเป็นพนักงานบริษัทเอกชนและเป็นคนรู้จักของคุณบัวงาม มีประสบการณ์การดูแลเด็กถึงสิบปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี มีลูกสาวหนึ่งคน แม่เสียชีวิตพ่อติดคุกคดียาเสพติดครับ” ลุกซ์อธิบายตามข้อมูลที่ได้รับมา
“อืม ติดต่อกลับไปอีกสามวันให้มาพบฉัน”
“ครับ”
สามวันถัดมา
“สวัสดีค่ะ มาพบคุณธัญค่ะ”
“นัดไว้หรือเปล่าคะ”
“นัดไว้ค่ะ คุณลุกซ์แจ้งไว้ถ้ามาถึงแล้วให้บอกว่ามาพบคุณธัญ”
“เชิญรอด้านนี้ค่ะ นานหน่อยนะคะวันนี้คุณธัญมีประชุมด่วน”
“ค่ะ” น้ำเสียงหวานตอบกลับอย่างเข้าใจก่อนจะเดินนวยนาดเข้าไปในห้องรับรอง
ดวงตากลมโตสำรวจไปทั่วบริเวณ เธอไม่เคยเห็นสถานที่แบบนี้มาก่อน ทุกอย่างเรียบง่ายแต่หรูหรามาก สมแล้วที่เป็นคลับชื่อดัง
แค่เพียงไม่นานบานประตูก็ถูกเปิดเข้ามาพร้อมกับร่างสูงที่มีใบหน้าหล่อเหลา ผิวพรรณขาวผ่องยิ่งกว่าเธอที่เป็นผู้หญิงเสียอีก
“สวัสดีค่ะ” เธอยกมือไหว้กล่าวคำทักทายอย่างมีมารยาท แม้จะไม่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นใครแต่ก็มั่นใจว่าเขาอายุมากกว่าเธอแน่นอน
“นัดไว้ใช่ไหม” น้ำเสียงเรียบนิ่งเอ่ยพลางมองสำรวจคนตรงหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า
“ใช่ค่ะ” น้ำเสียงหวานยังคงตอบพร้อมรอยยิ้มแม้ว่าคนตรงหน้าจะเย็นชาดังก้อนหินก็ตาม
“เชิญ...” เอ่ยบอกก่อนจะเดินนำไปอีกห้องหนึ่ง
บรรยากาศในห้องปกคลุมไปด้วยความเงียบ มีเพียงตาคู่คมที่เอาแต่จ้องมองหญิงสาวก่อนที่เขาจะเป็นฝ่ายพูดก่อน
“สิริโสภา ชื่อเพราะดีนะ”
“ขอบคุณค่ะ”
“ทำไมถึงอยากลาออกจากงานประจำ”
“อยากได้เงินเดือนที่มากกว่าค่ะ”
“ไม่พ้นเรื่องเงินสินะ”
“ใช่ค่ะ เงินเป็นเรื่องสำคัญ”
“ประสบการณ์เลี้ยงเด็กสิบปี นี่เธอมีลูกตั้งแต่อายุสิบแปดเองเหรอ” น้ำเสียงเรียบนิ่งยังคงตั้งคำถามออกมาเรื่อย ๆ พร้อมกับดูประวัติในเอกสารที่ลุกซ์นำมาให้ก่อนหน้านี้ “เลี้ยงคนเดียวเหรอ”
“ใช่ค่ะ”
“พ่อเด็ก?”
“ไม่มี”
“...” เขาเงียบพลางคิดอะไรบางอย่างแล้วตั้งคำถามกำกวมออกมา “คิดดี ๆ งานประจำเงินเดือนน้อยก็จริงแต่ได้ทุกเดือนยันเธอเกษียณอายุงาน แต่พี่เลี้ยงนี่ฉันให้เธอเลี้ยงแค่สองปีเองนะ”
“ทราบค่ะ หนึ่งปีมีสิบสองเดือน ทำงานทั้งปีได้แค่สองแสนกว่าบาท สองปียังไม่ได้ครึ่งล้าน แต่เป็นพี่เลี้ยงสองปีหนูมีเงินล้านในบัญชีเลยนะ หลังจากหมดสัญญาว่าจ้างแล้ว หนูสามารถหางานที่ดีและเหมาะกับตัวเองได้แน่นอนค่ะ ทั้งประสบการณ์และการศึกษามั่นใจว่ามีดีไม่แพ้ใคร” เธอพรีเซนต์ตัวเองด้วยความมั่นใจ ตลอดการสนทนาไม่แม้แต่จะหลบตาเขาสักวินาที นี่เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่เธอไม่รู้ตัว ...
“เป็นยังไงครับคุณธัญ” ลุกซ์เอ่ยหลังจากหญิงสาวกลับไป
“กิริยามารยาทดี” เขาเอ่ยชมออกมาตามความรู้สึก “เตรียมห้องไว้ด้วยนะ อาทิตย์หน้าเธอจะเริ่มงาน”
“ห้องไหนครับ”
“ห้องใหญ่ชั้นบน”
“หืม...”
“อย่าถามมากทำตามที่บอกก็พอ”
“ครับ”
“ทำไมคุณปล่อยลูกแบบนี้ล่ะคะ”
“ทำไม? ฉันก็โตมาแบบนี้”
“นั่นมันคุณ นี่มันสมัยไหนแล้ว เด็กแค่สองสามขวบจะดูแลตัวเองได้ยังไง คุณนี่ไม่ได้เรื่องเลย”
“ฉันจ้างเธอมาเป็นพี่เลี้ยงนะไม่ได้จ้างให้มาด่าฉัน”
“ใครจะกล้าด่าหนูแค่บ่น”
“เป็นเมียหรือไง?”
“ใครอยากจะเป็นเมียคุณไม่ทราบ หลงตัวเอง”
“น้ำแข็ง!”
“ไม่ต้องมาขึ้นเสียง! ปืนก็เหมือนกันไม่ต้องซื้อมาให้ลูกเล่น ฟันดาบอะไรพวกนั้นก็ด้วย ตอนนี้เวลานี้ต้องฝึกให้ลูกเลิกติดจอก่อนค่ะ”
“...”
“แล้วอีกเรื่องหนึ่งลูกคุณโมโหร้ายมาก ขว้างของเล่นใส่แม่บ้านไม่รู้กี่ครั้ง และทุกคนก็หัวเราะบอกว่าเด็กเล่นไปตามประสา ประสาอะไร? ทำผิดต้องสอนไม่ใช่มองเป็นเรื่องตลก ทำผิดต้องรู้จักขอโทษ คุณอย่าเลี้ยงลูกไว้รักคนเดียวสิ”
“ขี้บ่น! ฉันจะหักเงินเดือนเธอ”
“สงสัยต้องสอนคุณด้วย”
“สอนแบบไหน สอนบนเตียงได้หรือเปล่า”
“ทะลึ่ง!”