หฤทัยเลอมาน
Haruthai Leman
เมืองเหมันต์คีรี
เมืองที่ปกคลุมด้วยม่านหมอกหนาทึบ อากาศเหน็บหนาวตลอดทั้งปี ประชาชนในเมืองประกอบอาชีพรับจ้างทำงานในเหมืองเพชร เป็นเมืองที่ร่ำรวย อยู่ในการปกครองของเจ้าหลวงเลอมาน เจ้าหลวงที่มีพระชนมายุเพียง 29 ปี เมืองเหมันต์คีรีนั้นมีข่าวลือมากมาย ถึงเจ้าหลวงว่า รูปโฉมสง่างาม เก่งกาจ โหดเหี้ยม โหดร้าย มักมากในกามารมณ์ ถ้าทรงโปรดปาน....ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิงพระองค์รับขอเสนอได้หมด แค่พอพระทัย
เมืองสุคนธชาติ
เมืองที่มีพื้นที่อุดมสมบูรณ์อากาศแจ่มใส มีแสงแดด และ สายลม อบอุ่นทั้งปี ประชาชนในเมืองประกอบอาชีพผลิตภัณฑ์แปรรูปจากดอกไม้นานาพันธุ์ อยู่ในการปกครองของเจ้าหลวงดิเรก และเจ้านางหลวงรสสินา(เมียเอก) ทั้งสองคนมีบุตรธิดา 2 คน คือ เจ้าชายฌาน และ เจ้าหญิงเรนิตา และบุตรที่เกิดจาก เจ้านางภัทรศรา (เมียรอง) ของเจ้าหลวงดิเรก มีนามว่า เจ้าชายฤทัยภัทร
-xxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxxx-
คำโปรย
เจ้าหลวงเลอมาน ประทับอยู่บนหลังม้า ด้านหลังพระปฤษฏางค์มีองครักษ์สองนายคอยดูแลความปลอดภัย พระองค์ทอดพระเนตรมองเหตุการณ์ข้างหน้า มองพระวรองค์เล็กที่ยืนเจรจากับหัวหน้าหมู่บ้าน
พระวรองค์เล็กนิดเดียว แต่ช่างกล้าหาญ ความคิด ความอ่านก็ฉลาดหลักแหลม กล้าที่จะปกป้องคนที่ตัวเองไม่ได้รู้จัก ไม่มีความสัมพันธ์ทางไหนเลย ทำแค่เพราะสงสาร
“ว่าอย่างไร....เราขอชดใช้ค่ายาแทนเขาได้หรือไม่....”
“ไม่ได้หรอกท่าน....ที่นี่มีกฏ ที่ชาวเมืองต้องปฏิบัติตามมาชั่วลูกชั่วหลาน....”
เจ้าชายฤทัยภัทร มีสีพระพักตร์ ที่กังวลออกมา....
“ท่านบอกว่า.....จะให้เจ้าหลวงมาตัดสินใช่หรือไม่.....งั้นเราขอเจรจากับเจ้าหลวงก่อน....ตอนนี้พวกท่านเอาเขาลงมาได้หรือไม่” เจ้าชายฤทัยภัทรพยายามต่อรอง เพราะตอนนี้อากาศเริ่มหนาวแล้ว ตัวของพระองค์เองก็ทนกับอากาศหนาวจัดไม่ไหว ร่างข้างบนก็ดูจะไม่ไหว
“ท่านเป็นใคร....ทำไมพวกเราต้องเชื่อท่าน....ท่านคิดว่าท่านจะเจรจากับเจ้าหลวงของพวกเราได้หรือ”
ชาวบ้านคนหนึ่งพูดขึ้น พร้อมกับเดินเขาหาเจ้าชายฤทัยภัทร พร้อมกับพูดออกมา
“ท่านน่ะออกไป อย่ามาทำให้วุ่นวาย ได้หรือไม่...”
“อย่าเข้ามาใกล้....เจ้า..” นมพิไรพูดยังไม่ทันจบประโยค ก็มีน้ำเสียงหนึ่งพูดออกมาจากด้านหลังของชาวเมือง
“เจ้าหลวงเสด็จ......” ชาวเมืองขยับถอยหลังให้เจ้าหลวงที่ประทับอยู่บนหลังม้า ทหารองครักษ์ลงจากม้า และจับม้าให้เจ้าหลวงเสด็จลง
“ฝ่าบาท.....เสด็จมาถึง....ก็จะเปลี่ยนกฏบ้าน กฏเมืองของหม่อมฉันซ่ะแล้ว” เจ้าหลวงเลอมานตรัส ทีเล่นทีจริง แต่ท่าทางของพระองค์ ไม่ได้แสดงออกมาแบบนั้น
เจ้าชายฤทัยภัทร ทอดพระเนตรมอง พระวรองค์ ตรงหน้าพระพักตร์ เจ้าหลวงเลอมาน พระวรองค์สูงใหญ่ ถ้าเทียบกับตัวเอง แล้วเทียบกันไม่ติด
“ถวายบังคม....เจ้าหลวงเลอมาน....” เจ้าชายฤทัยภัทรโค้ง เหล่าทหารที่ติดตามทำความเครารพตาม พร้อมกับคุกเข่าลงกับพื้นด้วยความกลัว
“หม่อมฉัน ไม่ได้ต้องการจะเปลี่ยน กฏ ของพระองค์ แต่หม่อมฉันอยากให้พระองค์ทรงฟังเหตุผลของพวกเขาก่อน”
เจ้าหลวงเลอมานทอดพระเนตรมองเจ้าชายฤทัยภัทรด้วยความถูกพระทัย ถ้าเป็นคนอื่น พอเห็นพระองค์คงกลัวกันไปแล้ว แต่เจ้าชายฤทัยภัทรกลับไม่กลัว ดูอย่างทหารที่ติดตาม พากันนั่งคุกเข่าตัวสั่น