ตำนานบุหรงลายัง (The Legend of Burung Layang 布絨拉央的傳奇 )

แฟนตาซี

จบ ตำนานบุหรงลายัง  (The Legend of Burung Layang 布絨拉央的傳奇 )

ตำนานบุหรงลายัง (The Legend of Burung Layang 布絨拉央的傳奇 )

ศรีวริญ

แฟนตาซี

27
ตอน
178
เข้าชม
0
ถูกใจ
1
ความคิดเห็น
1
เพิ่มลงคลัง
คำเตือนเนื้อหา
คำเตือนเกี่ยวกับเนื้อหาในเรื่องอาจมีการสปอยล์ถึงเนื้อเรื่องหลัก
เป็นเรื่องราวชีวิตของลูกสาวกบฏ ที่้ต้องไปรักกับลูกชายศัตรูของพ่อตัวเอง ผ่านการผจญภัยต่าง ๆ ในชีวิต การกู้ชาติ กู้ราชบัลลังก์ ด้วยวิทยายุทธสุดลึกล้ำ การทะลุมิติ อิทธิปาฏิหาริย์ เค้าโครงจากกบฏ รศ.130

คำว่า "บุหรงลายัง" ท่านผู้อ่านคงจะสงสัยว่ามันคืออะไรใช่ไหมครับ 

มันมาจากคำว่า Burung Layang Layang ในภาษามาเลย์ แปลว่า นกนางแอ่น ( Swallow ) ซึ่งในที่นี้ ใช้เป็นสัญลักษณ์แทนตัวนางเอกคือโสมสุดาหรืออีกชื่อว่าเสี่ยวเยี่ยน เพราะชีวิตของเธอต้องผจญภัยจากบ้านเกิดไปต่างแดน ผ่านพบสิ่งท้าทายในชีวิตมากมาย แต่ในที่สุดก็ต้องกลับคืนถิ่นเกิด เช่นเดียวกับนกนางแอ่นที่ออกไปหากินไกล ๆ แต่ก็ยังรักบ้านเกิด 

เรื่องนี้ ผู้เขียน ได้นำเอานิยายสองภาค ที่แต่งไว้เมื่อสิบปีที่แล้ว มารวมเป็นภาคเดียวคือ 

ภาค 1 ยอดรักเลือดกบฏ ( Daughter of the rebels 叛軍的女兒)   

และภาค 2 รักแรกของโสมสุดา ( First Love of the Swallow 小燕的初恋 )   

เนื่องจาก 2 ภาคดังกล่าว มีความยาวไม่มาก และการรวมภาคครั้งนี้ ยังได้เปลี่ยนชื่อเมือง ชื่อประเทศในเรื่อง ให้มีความเป็นสากล ง่ายต่อการนำไปแปลเป็นภาษาต่างปรเทศหรือทำเป็นละครหรือภาพยนต์ต่อไป 

( อ่านคาแรคเตอร์ตัวละครได้ ท้ายเรื่องย่อนี้ เลือนลงไปดูครับ ) 

กุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 1912 ขุนพิทักษ์ทวยหาญ ( หลง ศรีตรัง ) นายแพทย์ทหารยศร้อยเอก นำพาคณะทหารก่อการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองประเทศโซวันนา ( Sovanna ) จากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ มาเป็นระบอบประชาธิปไตย แต่แผนแตก เพราะมีคนในกลุ่มทรยศนำแผนไปบอกฝ่ายราชสำนัก พวกหมอหลงถูกจับ ศาลสั่งจำคุกตลอดชีวิต ส่วนคนทรยศคือ หลวงสินาดโยธาเทพ กลับได้อวยยศเป็นพระยากำแหงหาญ มีอำนาจยิ่งใหญ่คุมกองทัพทหาร และอำนาจการเมืองในเวลาต่อมา 

ระหว่างถูกจำคุก หมอหลงให้ลูกเมียหนีไปอาศัยอยู่กับญาติที่เมืองกันตัง ในประเทศสยาม หลังจากนั้นก็มีข่าวว่าไฟไหม้คุก หมอหลงหายตัวไปจากที่นั้นและไม่มีใครได้ทราบข่าวคราวของเขาอีกเลย 

โสมสุดา หรือต่อไปในเรื่องจะเรียกหล่อนในชื่อภาษาจีนว่าเติ้งเสี่ยวเยี่ยน ลูกสาวของขุนพิทักษ์ทวยหาญ เดินทางมาเรียนมัธยมที่โรงเรียนคอนแวนต์ในเกาะปีนัง ประเทศมาลายา ( มาเลเซียปัจจุบัน ) หล่อนมีเพื่อนสนิทคือหม่อมหลวงบุญเหลือราชนิกุลจากสยาม และกาวิต้า ลูกสาวแขกขายผ้า จากประเทศโซวันนา ( Sovanna ) บ้านเกิดของเสี่ยวเยี่ยน ในขณะที่มีกลุ่มเด็กเกเรที่มีหลี่จิงจิงเป็นหัวหน้าแก๊ง คอยหาเรื่องกลั่นแกล้งเสี่ยวเยี่ยนและเพื่อนอยู่เสมอ ทั้งยังมีครูซูซี่ที่ให้ท้ายหลี่จิงจิง เนื่องจากไม่ถูกกันกับครูแอนนา เพราะครูแอนนามีผลงานโดดเด่นกว่าและเป็นตัวเก็งในการชิงตำแหน่งแม่อธิการ 

ต่อมาเสี่ยวเยี่ยนได้ไปพบซิสเตอร์จินต้าโดยบังเอิญที่ป่าช้าท้ายโรงเรียน ซึ่งเป็นที่อาศัยของคณะภคินีลับ หรือแม่ชีในคณะคาเมไลท์ อันมีวัตรปฏิบัติในการปลีกวิเวก ไม่ยุ่งเกี่ยวกับสังคมภายนอก โดยซิสเตอร์จินต้าได้ช่วยชีวิตเสี่ยวเยี่ยนไว้จากการถูกต้นไม้ใหญ่ล้มใส่ ด้วยการเคลื่อนไหวที่ว่องไวรวดเร็ว ท่านได้ถ่ายทอดวิชาปันจักสีลัตโบราณซึ่งสืบทอดมาจากบรรพบุรุษในสมัยอาณาจักรมัชปาหิตให้แก่เสี่ยวเยี่ยนเพื่อเอาไว้ใช้ป้องกันตัว และเสี่ยวเยี่ยนก็ใช้เวลาเรียนเพียงสองเดือนกว่าก็สำเร็จขั้นที่ 4 นับแต่นั้น เมื่อหลี่จิงจิงคิดจะแกล้งพวกเสี่ยวเยี่ยนคราใด ก็จะถูกตอบโต้อย่างเหนือชั้น เช่นการสะท้อนพลังที่หลี่จิงจิงแกล้งผลักถ้วยน้ำซุปบนมือของหม่อมหลวงบุญเหลือจนเกือบหก แต่เสี่ยวเยี่ยนสะท้อนพลังจนน้ำแกงกระฉอกใส่หน้าหลี่จิงจิงได้ เป็นต้น  

ซิสเตอร์แอนนาถูกใส่ร้ายว่าคบหากับครูผู้ชายอีกโรงเรียนหนึ่ง แต่เสี่ยวเยี่ยนก็ช่วยหาทางคลี่คลายจนครูแอนนาพ้นข้อกล่าวหาได้ 

เสี่ยวเยี่ยนได้พบกับหลี่หงหมิน พี่ชายของหลี่จิงจิงในงานแข่งขันกีฬาบาสเก็ตบอลที่โรงเรียนแห่งหนึ่งในปีนัง โดยที่พวกเสี่ยวเยี่ยนและเพื่อนๆ ต้องไปแสดงระบำตาลีกีปัสบนเวทีในช่วงพักครึ่งเวลา ซึ่งหลี่หงหมินก็รู้สึกต้องตาต้องใจในความสวยน่ารักของเสี่ยวเยี่ยนจนตะลึงตาค้าง และเสี่ยวเยี่ยนก็มีโอกาสช่วยหลี่หงหมินให้พ้นจากการถูกฝ่ายที่แพ้การแข่งขันทำร้าย โดยหล่อนใช้วิชาการต่อสู้ที่เรียนมาล้มคู่ต่อสู้ในพริบตา และปฐมพยาบาลให้หลี่หงหมิน ขณะเดียวกันหลี่หงหมินก็มีเว่ยถิงถิง ว่าที่คู่หมั้นติดตามเป็นเงาตามตัว 

ต่อมาเสี่ยวเยี่ยนสามารถสืบทราบการทุจริตของครูซูซี่ในการจัดซื้อวัสดุโรงเรียน จนเรื่องรู้ไปถึงคณะบริหารโรงเรียนและตั้งกรรมสอบผู้เกี่ยวข้อง ในขณะที่ผลการพิจารณายังไม่ทราบผล ทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมเข้าค่ายแรลลี่ที่เชิงเขาปีนังฮิลล์ พวกนักเรียนหญิงไปกางเต็นท์ เดินป่า และมีกลุ่มชายฉกรรจ์จับพวกเสี่ยวเยี่ยนและหลี่จิงจิงไปกักขังไว้ในบ้านหลังหนึ่ง และพยายามจะข่มขืนหลี่จิงจิง แต่เสี่ยวเยี่ยนใช้อุบายล่อให้พาเธอเข้าไปในห้อง แล้วเสี่ยวเยี่ยนก็ทำให้คนร้ายสลบไปทีละคน ๆ จนหมดแก๊งและช่วยปล่อยเพื่อน ๆ ให้รอดพ้น จนแจ้งตำรวจจับกุมคนร้ายได้ยกแก๊ง คนร้ายซัดทอดว่าคนบงการคือครูซูซี่ ทำให้ครูซูซี่ถูกจับดำเนินคดีข้อหาจ้างวานฆ่าไปด้วย นับแต่นั้น หลี่จิงจิงก็หันมาเป็นเพื่อนรักกับเสี่ยวเยี่ยน 

ย่าหยก ย่าของหลี่หงหมิน ต้องการให้หลานชายแต่งงานกับเว่ยถิงถิง ลูกสาวเจ้าสัวเว่ยเชียน แต่หลี่หงหมินบ่ายเบี่ยงว่ายังไม่พร้อม อยากจะทำงานไปก่อน ในขณะที่หลี่จื้อซาน น้องชายของหลี่หงหมินก็แอบหลงรักเว่ยถิงถิง แต่ถิงถิงไม่เล่นด้วย  

เสี่ยวเยี่ยนมีโอกาสได้พบหลี่หงหมินโดยบังเอิญอีกหลายครั้ง ซึ่งการได้เห็นความเสียสละเพื่อทำงานอาสาสงเคราะห์กู้ภัยของหลี่หงหมินก็ทำให้เสี่ยวเยี่ยนประทับใจในตัวเขา จากที่เคยคิดว่าเขาเป็นคนเจ้าชู้ ความรู้สึกของหล่อนก็เริ่มเปลี่ยนไป 

ช่วงปิดเทอม หลี่จิงจิงชวนพวกเสี่ยวเยี่ยนไปเที่ยวบ้านของเธอที่สิงคโปร์ และนั่นทำให้หลี่หงหมินมีโอกาสได้ใกล้ชิดเสี่ยวเยี่ยนมากขึ้น ด้วยการพากลุ่มสาว ๆ พวกนี้ไปเที่ยวชมสวนพฤกษศาสตร์สิงคโปร์ ที่มีสวนกล้วยไม้นานาชนิดอันสวยงามตระการตา นั่นยิ่งทำให้เมล็ดพันธุ์แห่งรักในหัวใจน้อยๆ ของเสี่ยวเยี่ยนที่มีต่อหลี่หงหมินเริ่มจะเติบโตขึ้นโดยไม่รู้ตัว 

ย่าของหลี่หงหมินซักถามถึงชื่อแซ่ปู่ย่าตายาย จนทำให้รู้ว่าที่แท้ ปู่ของเสี่ยวเยี่ยนคือคนรักเก่าของย่าหยกที่ไปแต่งงานกับย่าของเสี่ยวเยี่ยน ทอดทิ้งให้ย่าหยกต้องอกหักเสียใจ แต่ย่าหยกเก็บความลับนี้ไว้ไม่บอกใคร เพียงหาโอกาสแก้แค้นกับเสี่ยวเยี่ยนอยู่คนเดียวเงียบ ๆ และยังคงเร่งรัดให้หลี่หงหมินแต่งงานกับเว่ยถิงถิง 

หลี่จื้อโหย่ว พ่อของหลี่หงหมิน ไม่ค่อยชอบลูกชายคนนี้เพราะหงหมินไม่สนใจกิจการของทางบ้าน กลับไปสนใจงานพัฒนาสังคม ซึ่งจื้อโหย่วเห็นว่าไร้สาระ จึงโปรดปรานหลี่จื้อซาน ลูกชายคนรองที่เกิดจากคุณนายรองมากกว่า เพราะจื้อซานช่วยดูแลกิจการของพ่อได้เป็นอย่างดี จนคุณนายใหญ่แม่ของหลี่หงหมินก็ไม่สบายใจ ได้ตักเตือนลูกชายให้เอาใจใส่กิจการของพ่อบ้าง 

เสี่ยวเยี่ยนมีโอกาสได้ช่วยชีวิตกุ้ยซิม ลูกสาวของอาเตียง สาวใช้ในบ้านตระกูลหลี่ให้รอดพ้นจากน้ำมือพวกมาเฟียที่จะจับกุ้ยซิมไปค้าประเวณี และเจ้าสัวหลี่ก็อนุญาตให้กุ้ยซิมทำงานรับใช้ในบ้านกับแม่ของหล่อน 

หวงหู่ลิส่งคนมาตามเก็บพวกเสี่ยวเยี่ยนขณะไปเที่ยวไชน่าทาวน์ในสิงคโปร์ เพื่อแก้แค้นที่หล่อนสอดเข้ามาขัดขวางการจับตัวกุ้ยซิม แต่ลูกน้องหวงหู่ลิกลับถูกพวกเสี่ยวเยี่ยนซ้อนแผนรุมสกรัมแทบปางตาย หวงหู่ลิแค้นมาก 

เสี่ยวเยี่ยนได้อ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์เมอไลอ้อนเดลี่ ซึ่งมากาเร็ต บราวน์ นักหนังสือพิมพ์และนักต่อสู้เพื่อสิทธิสตรีและเด็ก ทำให้เสี่ยวเยี่ยนเกิดแรงบันดาลใจอยากจะเป็นนักข่าวสาวเหมือนมากาเร็๖ เผื่อว่าสักวันเธอจากสามารถสืบหาข่าวของขุนพิทักษ์ทวยหาญผู้เป็นบิดาได้บ้าง 

เมื่อเปิดเทอม เสี่ยวเยี่ยนกลับไปเรียนที่ปีนัง ก็ได้ฝึกปันจักสีลัตจากแม่ชีจินต้าต่ออีกจนสำเร็จขั้นที่ 5 

หลี่จื้อซานใช้ความใกล้ชิดเริ่มจะจับเนื้อต้องตัวกุ้ยซิม ในขณะที่หล่อนขึ้นไปเสริฟของว่างบนห้อง แต่ยังไม่ถึงขั่นเกินเลยไปนัก หล่อนเองก็พึงพอใจในตัวเขาเช่นกัน 

หลี่หงหมินส่งจดหมายรักไปหาเสี่ยวเยี่ยน หล่อนเปิดอ่านแล้วก็โดนเพื่อนแซว จนหล่อนเอียงอาย 

เสี่ยวเยี่ยนกับเพื่อน ๆ สอบเทอมสุดท้ายเสร็จ เป็นอันสำเร็จการศึกษาชั้นมัธยม เป้าหมายต่อไปของพวกหล่อนคือเรียนต่อมหาวิทยาลัย เสี่ยวเยี่ยนและหลี่จิงจิงไปเรียนต่อที่สิงคโปร์ หม่อมหลวงบุญเหลือกลับสยาม กาวิต้ากลับไปช่วยพ่อแม่ขายผ้าที่โซวันนา ( Sovanna ) โดยไม่ได้เรียนต่อ 

เมื่อเข้ามหาวิทยาลัย หลี่จิงจิงถูกนักศึกษาหญิงที่เป็นทอมพยายามจะลวนลาม แต่เสี่ยวเยี่ยนใช้วิชาการต่อสู้เข้าขัดขวางไว้ได้ หลังจากนั้นกลุ่มสาวทอมก็ผูกใจเจ็บ หาเรื่องกลั่นแกล้ง หลี่จิงจิงเสมอ เธอจึงขอให้เสี่ยวเยี่ยนสอนวิชาการต่อสู้ให้เธอ แต่เสี่ยวเยี่ยนบอกว่า วิชานี้แม่ชีจินต้าบอกให้ถ่ายทอดได้เฉพาะจากแม่สู่ลูกหรือลูกบุญธรรมเท่านั้น เธอจึงจนใจไม่รู้จะสอนเพื่อนอย่างไร หลี่จิงจิงก็ตัดพ้อว่าคงเป็นเวรกรรมที่เธอเคยแกล้งคนอื่น บัดนี้กรรมตามสนอง 

ไม่กี่วันหลังจากนั้น สองสาวก็ได้ไปพบสามีภรรยาคู่หนึ่ง เป็นนักแสดงปาหี่ขายยาจากเมืองจีน และมีพวกมาเฟียเจ้าถิ่นมาเรียกค่าคุ้มครองจากสองสามีภรรยานั้น และทำท่าจะพังข้าวของที่ใช้ในการแสดง พวกหลี่จิงจิงและเสี่ยวเยี่ยนก็พยายามจะเข้าไปช่วย แต่สองนักแสดงปาหี่ก็ยอมควักเงินที่มีติดตัวเพียงน้อยนิดเพื่อไม่อยากสร้างศัตรูกับใคร ทั้งที่ฝีมือของพวกเขาสามารถล้มพวกนั้นได้อย่างสบาย แล้วหลี่จิงจิงก็พาสองคนนั้นไปฝากเข้าทำงานกับญาติที่โรงงานผลิตยาหม่องตราแมว สองสามีภรรยาจึงตอบแทนบุญคุณด้วยการถ่ายทอดวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวให้หลี่จิงจิงและเสี่ยวเยี่ยน โดยเสี่ยวเยี่ยนได้เรียนมวยหย่งชุนจากอาจารย์หญิง และหลี่จิงจิงเรียนมวยเส้าหลินจากอาจารย์ชาย 

ทางมหาวิทยาลัยจัดทัวร์ทัศนศึกษาไปเยี่ยมชมหมู่บ้านชาวฮินดูบนเกาะใกล้สิงคโปร์ ซึ่งหลี่หงหมินและเสี่ยวเยี่ยนก็ไปด้วย ทำให้ทั้งสองมีโอกาสทำความรู้จักใกล้ชิดมากขึ้นไปอีก แต่วันรุ่งขึ้นเมื่อคณะเดินทางโดยสารเรือไปอีกเกาะหนึ่ง เกิดอุบัติเหตุเรือชนกัน ทำให้เสี่ยวเยี่ยนจมน้ำหมดสติ หลี่หงหมินช่วยหล่อนขึ้นจากน้ำและช่วยผายปอด เสี่ยวเยี่ยนฟื้นขึ้นนึกว่าหลี่หงหมินจะลวนลาม จึงตบแก้มเขา เมื่อเพื่อน ๆ บอกว่าชายหนุ่มเป็นคนช่วยชีวิตหล่อน เสี่ยวเยี่ยนจึงรู้สึกผิดและขอโทษเขา เหตุการณ์นี้ทำให้เสี่ยวเยี่ยนค่อย ๆ มีความรู้สึกดี ๆ กับหลี่หงหมินโดยไม่รู้ว่านั่นคือ รัก 

หลี่จิงจิงและเสี่ยวเยี่ยนร่ำเรียนวิชาการต่อสู้จากอาจารย์ปึงและอาจารย์เล็ก จนหมดวิชาที่จะสอน นับแต่นั้นก็ไม่มีใครจะกล้ามาลวนลามหลี่จิงจิงอีก 

เสี่ยวเยี่ยนและหลี่หงหมินได้ไปพบเด็กชายคนหนึ่ง ขณะไปเที่ยวแถวสะพานเควานอฟ แม่น้ำสิงคโปร์ เด็กคนนั้นชื่อหลีก่วงเหยา เป็นลูกกรรมกรยากจนที่อาศัยเรือเป็นบ้าน ส่วนแม่ของเด็กก็เป็นแม่ต้าขายบุหรี่และขนมอยู่ใกล้ๆ สะพานนั้น 

เมื่อหลี่หงหมินเอาเวลาไปขลุกอยู่กับเสี่ยวเยี่ยนบ่อยๆ จนห่างเหินไปจากเว่ยถิงถิง คุณหนูเว่ยจึงส่งคนไปสืบข่าวของเสี่ยวเยี่ยน และส่งคนไปลอบสาดน้ำกรดใส่หล่อน ขณะที่เสี่ยวเยี่ยนไปสมัครเข้าฝึกงานที่สำนักหนังสือพิมพ์ของมากาเร็ต แต่ก็รอดมาได้หวุดหวิด 

หลี่หงหมินยังคงตามติดเสี่ยวเยี่ยน และพากันไปเยี่ยมครองครัวของหลีก่วงเหยา ในขณะที่เว่ยถิงถิงก็ไปปรึกษาย่าหยก ๆ จึงออกอุบายให้เว่ยถิงถิงใช้มารยาหญิง หลอกเสี่ยวเยี่ยนว่าหล่อนมีอะไรกับหลี่หงหมินแล้ว แต่เขาไม่รับผิดชอบ เพื่อให้เสี่ยวเยี่ยนตีตัวออกห่าง เว่ยถิงถิงก็ทำตามแผน และได้ผล เสี่ยวเยี่ยนเห็นถิงถิงบีบน้ำตาอ้อนวอนแล้วก็ใจอ่อน จึงรับปากจากเลิกติดต่อกับหลี่หงหมิน 

เสี่ยวเยี่ยนไปเมืองมะละกา เพื่อหนีความช้ำใจ ก็ได้พบกับเดวิด จาง พี่ชายของโซเฟีย เพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย เดวิดเป็นนักศึกษาวิทยาลัยแพทย์คิงส์เอ็ดเวิร์ดที่เจ็ด เมืองสิงคโปร์ เสี่ยวเยี่ยนได้พบความจริงว่า อากงของโซเฟีย ก็เคยแอบรักอาม่าของเสี่ยวเยี่ยนเช่นกัน และรู้จักประวัติของย่าหยกเป็นอย่างดี หลังจากนั้นเดวิดกับเสี่ยวเยี่ยนก็เริ่มคบกัน จนหลี่หงหมินมาเห็นทั้งสองคน ก็เข้าใจไปเองว่า สาเหตุที่เสี่ยวเยี่ยนตัดสัมพันธ์กับตนเพราะเดวิดนี่เอง จึงพูดประชดว่าเสี่ยวเยี่ยนคงอยากเป็นเมียหมอจะได้มีเงินใช้มาก ๆ ทำให้หล่อนรู้สึกเจ็บร้าวในใจ แต่ก็เก็บความรู้สึกไว้ และปฏิเสธเขาไปอย่างเย็นชาว่าที่ผ่านมาไม่เคยตกลงจะเป็นคนรักกันสักหน่อย 

กุ้ยซิมตกเป็นเมียหลี่จื้อซาน แต่เขาบอกให้หล่อนเก็บความลับนี้ไว้ ไม่ให้ใครรู้ 

หลี่หงหมินยังคงหาทางตามตื๊อเสี่ยวเยี่ยน แต่หล่อนปฏิบัติต่อเขาอย่างเย็นชา และบอกว่ารักเดวิด ทั้งที่ในใจหาได้รักไม่ 

เดวิด จาง เสี่ยวเยี่ยน ได้พบกับหลี่หงหมินที่ไปช่วยก่อสร้างอาคารเรียนให้บนเกาะแห่งหนึ่ง ตามโครงการอาสาพัฒนาของมหาวิทยาลัย ในกิจกรรมรอบกองไฟ หลี่หงหมินก็ยิ่งช้ำใจ เมื่อเห็นเสี่ยวเยี่ยนใกล้ชิดกับเดวิด 

ในงานวันเกิดของย่าหยก หญิงขรายังคงคะยั้นคะยอให้หลี่หงหมินแต่งกับถิงถิง แต่เขายังคงบ่ายเบี่ยง หลี่จื้อโหย่วจึงกำหนดให้เขาแต่งกับถิงถิงเมื่อเรียนจบปริญญาตรีในอีกหนึ่งปีข้างหน้า 

มากาเร็ตบอกเสี่ยวเยี่ยนว่ามีคดีฆาตกรรมนักร้องสาวชื่อจูดี้ แห่งไซซีไนต์คลับของเว่ยเชียน และมอบภารกิจให้เสี่ยวเยี่ยนไปสืบ เนื่องจากแม่ของจูดี้ไม่เชื่อว่าลูกสาวจะฆ่าตัวตายอย่างที่ตำรวจสรุปคดี เสี่ยวเยี่ยนจึงปลอมตัวเปลี่ยนชื่อเป็น หงลี่ เข้าไปสมัครงานเป็นคนทำความสะอาดในคลับแห่งนั้น จนสืบทราบว่า จูดี้เคยคบหากับตำรวจชื่อสตีเฟน เลา และเสี่ยวเยี่ยนยังได้อาศัยสิ่งประดิษฐ์ของเดวิด จาง เข้าไปแอบติดตั้งไว้ในห้องทำงานของเว่ยเชียนเพื่อบันทึกเสียงการสนทนาของงพวกนั้น  

กุ้ยซิมตั้งท้องกับหลี่จื้อซาน แต่เขาไม่รับผิดชอบ แม่ของกุ้ยซิมโกรธมาก ไล่ตีลูกสาว จนย่าหยกมาพบจึงเรียกมาถาม แต่แกล้งทำเป็นเห็นใจ แล้ววางแผนให้เว่ยถิงถิงพากุ้ยซิมไปกินจับซาไท้เป้า คือน้ำซุปรังนกผสมสมุนไพรที่มีส่วนผสมของตังกุยมากเกินไป จนภายหลังกุ้ยซิมแท้งลูก และตกเลือดอย่างรุนแรง หลี่หงหมินพาส่งโรงพยาบาล แล้วซักถามแม่ของกุ้ยซิม จึงรู้ว่าเว่ยถิงถิงมีส่วนรู้เห็น เขาจึงโทรไปคาดคั้นให้ถิงถิงตอบ แต่หล่อนปฏิเสธ เขาจึงไปถามย่าหยก ยายแก่ก็แกล้งทำเป็นเสียใจ และมอบเงินจำนวนหนึ่งให้แม่ของกุ้ยซิมเป็นค่ารักษา 

เสี่ยวเยี่ยนกับเดวิดสืบรู้ความลับของเว่ยเชียนจากอุปกรณ์บันทึกเสียง และนำไปให้มากาเร็ตฟัง แล้ววางแผนจับกุมตัวสตีเฟน โดยให้นายตำรวจชั้นสูง สั่งสตีเฟนไปคุ้มกันนักการทูตที่เข้าพักในโรงแรมแห่งหนึ่ง แล้วเสี่ยวเยี่ยนปลอมตัวเป็นผีจูดี้ไปหลอกเขาที่โรงแรมนั้น จนสตีเฟนเผลอพูดออกมาว่าถูกเว่ยเชียนบังคับให้ฆ่าจูดี้ ในการนี้ ผู้การเจิ้ง นายตำรวจระดับผู้กำกับมีส่วนช่วยเหลือมากาเร็ตและเสี่ยวเยี่ยนในการทำแผนจับสตีเฟน แต่ไม่กี่วันหลังจากนั้น ก็มีข่าวว่าสตีเฟนกินยาตายในห้องขังแล้ว และผู้การเจิ้งก็โดนสั่งย้ายไปประจำการที่ปีนัง 

เสี่ยวเยี่ยนกับเดวิดไปเยี่ยมป้าหวัง แม่บ้านของไซซีไนต์คลับ ซึ่งเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล และได้พบว่ากุ้ยซิมก็มารักษาอาการแท้งลูกที่นี่ด้วย เสี่ยวเยี่ยนจึงอาสาไปสืบหาความจริงร่วมกับเดวิด โดยเสี่ยวเยี่ยนวางแผนไปล่อซื้อน้ำซุปแบบเดียวกับที่ถิงถิงสั่งให้กุ้ยซิมกิน จากร้านเดียวกัน แล้วเดวิดนำตัวอย่างน้ำซุปไปให้ห้องแลปวิเคราะห์หาสารประกอบจนรู้ว่ามีปริมาณตังกุยมากเกินไป จนมีฤทธิ์ในการขับเลือดทำให้แท้งบุตรได้ 

ต่อหน้าหลี่หงหมิน เสี่ยวเยี่ยนก็แกล้งทำเป็นสนิทสนมใกล้ชิดกับเดวิด แต่เมื่อลับตาหลี่หงหมิน หล่อนก็ทำตัวธรรมดา เพราะในใจยังมีหลี่หงหมินอยู่ 

ฯลฯ 

โสมสุดา กลับมาหลังจากจบการศึกษาที่ประเทศสิงคโปร์ ก็ได้ไปเที่ยวกับเพื่อนแล้วได้ช่วยชีวิตไมตรี พระเอกของเรื่องโดยบังเอิญ ด้วยการถีบให้เขาพ้นจากอันตราย และเพื่อต้องการตามหาบิดา หล่อนจึงไปสมัครเป็นนักข่าวของสำนักหนังสือพิมพ์เกาหัวเยอะเป้า ซึ่งที่แท้เป็นสาขาของสำนักข่าวกรองสหรัฐอโรมา แล้วปลอมตนเป็นสายลับไปสืบข่าวการทุจริตของพระยากำแหงหาญ และเธอก็ได้รู้ความจริงว่า ที่แท้แล้ว ไมตรี ราชนาวีหนุ่ม ก็คือลูกของพระยากำแหง ผู้ทำให้พ่อของหล่อนติดคุกนั่นเอง 

พระยากำแหงหาญก่อการปฏิวัติเปลี่ยนแปลงการปกครองได้สำเร็จ และได้รับพระราชทานรัฐธรรมนูญจากพระเจ้าหมื่นฟ้าปาดี กษัตริย์แห่งโซวันนา ( Sovanna ) พระยากำแหงแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีขึ้นเป็นหุ่นเชิดแทนเขา 

เกิดเหตุโจรสลัดชุกชุมในน่านน้ำอันดามัน ทางกองทัพเรือ มอบหมายให้ไมตรี เป็นแม่ทัพไปปราบโจรสลัดผู้สวมหน้ากากงิ้วในเวลาออกปล้น นามว่า จางไห่จู ทายาทรุ่นที่ 4 ของ จางเป๋าจ่าย ขุนโจรชื่อดังในสมัยสงครามฝิ่น และไมตรีก็ใช้กลยุทธทำให้จางไห่จูมาติดกับ เกิดการต่อสู้กันบนเรือ ปลายดาบของไมตรีไปสะกิดหน้ากากของจางไห่จูหลุดออก จึงพบว่าที่แท้ จางไห่จู เป็นสาวน้อยสุดสวย ขณะที่ไมตรีกำลังตะลึง นางโจรก็แทงดาบสวนเข้าที่หัวไหล่ของไมตรีบาดเจ็บ พอดีว่าลูกเรือของไมตรีเผลอทำคบไฟตกใส่ถังดินปืน ไมตรีจึงพาจางไห่จูโดดลงจากเรือก่อนจะระเบิด แล้วไปพักค้างบนเกาะหัวกะโหลก จนทั้งคู่ได้เสียกัน แต่จางไห่จูตีจากไปหลังจากนั้น 

ต่อมา ไมตรีได้พบกับโสมสุดาซึ่งปลอมตัวมาในชื่อ ไมล่า นักร้องชนะเลิศการประกวด เธอได้บรรจุเข้ารับราชการเป็นนักร้องประจำวงดนตรีของกรมการบันเทิง ไมตรีจึงอาศัยฐานะลูกชายของท่านผู้นำ ขอตัวไมล่าไปร้องเพลงในงานเลี้ยงของกองทัพเรือบนเรือสำราญ ทั้งคู่ก็เริ่มสนิทสนมกัน จนกระทั่งได้ไปล่องเรือเที่ยวที่ชายทะเล ไมตรีกับไมล่าก็ร้องเพลงบนเรือ พร้อมดื่มด่ำไปกับบรรยากาศ จนไมตรีหลงรักไมล่าหัวปักหัวปำ แต่ยังไม่ทันมีความสัมพันธ์ใด ๆ ต่อกัน 

ความลับของไมล่าว่าที่แท้เป็นโสมสุดา ถูกเปิดเผยโดย ชะอม หรือต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรส หลังจากเธอได้เป็นนางงามจากเวทีประกวดและได้เป็นนางเอกภาพยนตร์ โดยโรสวางแผนกับพันเอกสดมภ์ ลูกน้องคนสนิทของพระยากำแหงให้โสมสุดาหลุดปากพูดเองในโปโลคลับว่าที่แท้ไมล่า คือโสมสุดา 

แม้จะรู้ว่าที่แท้ไมล่าคือโสมสุดา ลูกสาวหมอหลง แต่ไมตรีก็ยังรักและตามตื๊อเธออยู่เรื่อยมา ในขณะที่มีนายตำรวจหนุ่มเข้ามาติดพันโสมสุดาเช่นกัน ไมตรีก็ควงบุหงา น้องสาวของพันเอกสดมภ์ ซึ่งเธอเคยเรียนหนังสือโรงเรียนเดียวกับไมตรีมาตั้งแต่ชั้นประถม มาประชดโสมสุดา  

 

เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง มีการลอบยิงพระยากำแหงถึงสองครั้ง และในครั้งที่สองนั้น ไมตรีเป็นผู้ได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์ทั้งหมด ฝ่ายพระยากำแหงมองว่า เกิดจากน้ำมือของพวกโสมสุดานั่นเอง ซึ่งไมตรีก็เชื่อตามบิดา จนพูดกระทบกระเทียบใส่โสมสุดา ขณะที่หล่อนไปเยี่ยมเขาที่โรงพยาบาลว่าต้องการมาดูว่าเขาตายหรือไร แม้โสมสุดาจะอธิบายอย่างไรเขาก็ไม่ฟัง โสมสุดาจึงโกรธไมตรี และหนีไปปีนัง  

พระยากำแหงให้คนไปจับกุมเจ้าชายดูรี ผู้ให้การสนับสนุนสำนักข่าวเกาหัวไปจำคุก ถอดฐานันดรศักดิ์ให้เป็นนักโทษชาย แต่หลังจากนั้น พลเอกสดมภ์ก็ยึดอำนาจของพระยากำแหง แล้วจับไปขังคุกที่เดียวกับเจ้าชายดูรี และพระจ้าหมื่นฟ้าปาดีกับราชินีฟาติมาก็สวรรคตในเวลาต่อมา 

เจ้าค้ำฟ้า กษัตริย์หนุ่มผู้สืบทอดราชบัลลังก์จากพระบิดา เสด็จกลับจากประเทศอังกฤษ ได้พบรักกับ กาวิต้าขณะไปไหว้เทพเจ้า ไมตรีได้รู้ความจริงจากปากพ่อว่า สดมภ์อยู่เบื้องหลังก่อสถานการณ์วุ่นวายในบ้านเมือง หาใช่โสมสุดา เขาสำนึกผิด จึงคิดจะไปตามง้อโสมสุดาที่ปีนัง แต่ทางการสั่งห้ามเข้าออกประเทศ ฝ่ายบุหงาก็บอกให้ไมตรีรู้ว่าหล่อนหลงรักเขามานานแล้ว แต่ไมตรีบอกว่าเขารักเธอเหมือนน้องสาวเท่านั้น 

เมื่อรัฐบาลอนุญาตให้เข้าออกแล้ว เขาก็ไปตามหาโสมสุดาตามจดหมายที่มอบภารกิจให้เขาไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในเกาะปีนัง และแต่ละจุดที่ไปก็จะมีจดหมายอีกฉบับบอกภารกิจของจุดต่อไป จนกระทั่งเขาได้พบโสมสุดา นั่นเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าไมตรีมีความจริงจังจริงใจต่อโสมสุดาเพียงใด แล้วเขาและเธอก็เดินทางกลับประเทศ 

เมื่อกลับไปถึง ไมตรีก็พบว่าพ่อของตนป่วยหนัก ถูกย้ายออกจากคุกไปโรงพยาบาล พระยากำแหงได้ขออโหสิกรรมต่อโสมสุดาก่อนตนจะสิ้นใจตาย สำนักข่าวเกาหัวถูกเผา บรรณาธิการดม ฝากจดหมายไว้ว่าจะมีหัวหน้าคนใหม่มา ชื่อว่าดร.บุญดี จะนำขบวนการเสรีสีมา ต่อต้านพวกพระยากำแหง และอาณาจักรไดเกียวขณะที่สดมภ์จับเจ้าค้ำฟ้าไปขังไว้ ทั้งไมตรีและโสมสุดายังหาทางเข้าไปไม่ได้ กาวิต้าได้รับของวิเศษจากเทพเจ้าเพื่อนำไปช่วยเจ้าค้ำฟ้าออกมา แล้วไมตรีกับโสมสุดาก็พาเจ้าค้ำฟ้าออกเดินทางไปตามหาดร.บุญดี จนพบแล้วยังได้ปลดปล่อยขุนหลวงมะลังคะ หัวหน้าเผ่าลัวะสมัยพระนางจามเทวี ให้พ้นออกจากดินแดนบังบด ผ่านทางประตูมิติในปราสาทขอม โดยเจ้าค้ำฟ้าใช้แท่งผลึกศิวลึงค์ที่กาวิต้าให้มาเป็นกุญแจเปิดมิติ  

หลังจากนั้นพวกเขาก็นำทัพเดินทางไกล ได้ผจญภัยต่อไปโดยจะได้พบความมหัศจรรย์มากขึ้นเรื่อย ๆ มะลังคะได้เจอสาวชาวป่าชื่อม่านทิพย์ ภายหลังมีลูกด้วยกันชื่อ นาคินมณี ผู้เรืองฤทธิ์ ( มีต่ออีกเยอะ ฉากอลังการระดับฮอลลีวู้ด CG เพียบ น้อง ๆ อะเวนเจอ ) 

คาแรกเตอร์ตัวละคร ตำนานบุหรงลายัง 

  

ร.อ.ขุนพิทักษ์ทวยหาญ (หมอหลง ศรีตรัง) นายแพทย์ทหารหนุ่มนักเรียนนอก เชื้อสายจีนฮกเกี้ยน ซึ่งต้นตระกูลมาจากเมืองตรัง ประเทศสยาม เป็นบุคคลเด็ดขาด เข้มแข็ง สุภาพอ่อนโยน และเป็นบุคคลที่มีความซื่อสัตย์ โอบอ้อมอารี อันเป็นนิสัยของแพทย์ทั่วไป เป็นผู้นำขบวนการเรียกร้องประชาธิปไตย เตรียมก่อการขอพระราชทานรัฐธรรมนูญ เปลี่ยนแปลงการปกครองโซวันน่าให้เป็นประชาธิปไตย แต่แผนแตกถูกจับได้ ภายหลังได้รับพระราชทานอภัยโทษ เป็นบิดาของโสมสุดา 

โสมสุดา ศรีตรัง 鄧小燕 Xiǎo yàn ( เติ้งเสี่ยวเยี่ยน แปลว่านกนางแอ่นน้อยแซ่เติ้ง ) เป็นลูกสาวของขุนพิทักษ์ทวยหาญ หรือหมอหลง เพื่อนบางคนเรียกว่า ซูด้า นักเรียนหญิงโรงเรียนคอนแวนต์ อายุราว 18 ปี ตาโต ผมเปีย ใบหน้ากลมรูปไข่ ผมสีน้ำตาล นัยน์ตาสีน้ำตาล ผิวขาวเหลืองเพราะมีเชื้อสายจีนฮกเกี้ยนจากพ่อ และตากลมโต จมูกโด่งแบบแขกขาวเพราะมีเชื้อสายชาวโซวันนาจากแม่ เป็นนักเรียนนอก จบการศึกษาจากโรงเรียนคอนแวนต์ในปีนัง และมหาวิทยาลัยในสิงคโปร์ หน้าตาสวยหวานน่ารัก ตกหลุมรักและคบหากับหลี่หงหมินตั้งแต่อยู่มัธยมปลายจนเรียนจบมหาวิทยาลัย  ฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย ทั้งย่าของหลี่หงหมินที่ไม่ชอบโสมสุดา จนผ่านพ้นอุปสรรคแล้ว กำลังจะแต่งงานกัน   แต่... 

แนวคิดทางการเมือง เชื่อมั่นศรัทธาในระบอบประชาธิปไตย เสรีนิยม มีทัศนะต่อธาตุแท้ของมนุษย์ว่าบริสุทธิ์ ดีงาม แต่ต้องกลายเป็นชั่ว เพราะสิ่งแวดล้อมทางสังคม อาชีพเป็นนักหนังสือพิมพ์ นักเขียนคอลัมน์ลงหนังสือต่าง ๆ มักเขียนวิจารณ์ผู้มีอำนาจในบ้านเมืองหลายครั้ง จนเกือบสังเวยชีวิตเพื่อปลายปากกาอยู่บ่อย ๆ เมื่อแรกพบไมตรี ก็ไม่ถูกชะตา ยิ่งรู้ว่าเป็นลูกชายของคนที่ทำให้พ่อของเธอเกือบถูกประหาร ก็ยิ่งเกลียดชัง แต่เพราะความช่วยเหลือคุ้มครองของไมตรีจึงพ้นภัยมาได้หลายครั้ง จากชังกลายเป็นรัก...

หลี่หงหมิน 李黉民 ( Lihóngmín คำว่าหงหมิน แปลว่า รักคนจีน ) ชื่อเล่นว่า ลีอง (Leónในภาษาสเปน แปลว่า สิงห์ ) ชายหนุ่มเชื้อสายเปอรานากัน สัญชาติอังกฤษ (เพราะตอนนั้นสิงคโปร์ยังเป็นอาณานิคมของอังกฤษ) รูปหล่อสูง 180 ซม. อายุราว 23 คนรักคนแรกของโสมสุดา เป็นนักกีฬาบาสเกตบอล นักศึกษามหาวิทยาลัย เป็นหัวหน้าชมรมอาสากู้ภัย ลูกชายคนโตของหลี่จื้อโหย่วกับคุณนายใหญ่   

ร.ต. ไมตรี ยงอยู่ ร.น. นายทหารเรือหนุ่ม คนรักคนที่สองและคนสุดท้ายของโสมสุดา เป็นบุตรชายของหลวงสินาดโยธาเทพ ไมตรีมีแนวคิดแบบนิตินิยม มีทัศนคติว่า ธาตุแท้ของมนุษย์นั้นชั่วร้าย ต้องใช้กฎหมายและระเบียบที่เข้มงวดเข้าควบคุม จึงจะทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย แต่ก็รักความยุติธรรม ต่อต้านการใช้อำนาจเพื่อกอบโกยของบิดาและพวกพ้อง   

 

 ขุนโจรจางไห่จูหรือมุกทะเล 

 สาวหัวหน้าโจรสลัดเชื้อสายของจางเป๋าจ่าย อดีตจอมโจรน่านน้ำกวางตุ้งสมัยสงครามฝิ่น อาศัยบนเกาะหัวกะโหลกในทะเลอันดามัน ออกปล้นเรือสินค้าแถบช่องแคบมะละกาเพื่อเอาทรัพย์สินมาช่วยเหลือคนยากจน ปกติมักสวมหน้ากากงิ้วปกปิดใบหน้าที่แท้จริง ไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นหญิง  

ร.อ.เยี่ยม ยงอยู่ ( หลวงสินาดโยธาเทพ ) หนึ่งในผู้ร่วมก่อการ เป็นคนที่ไม่น่าไว้วางใจ นิสัยโลเล พูดจาไม่แน่นอน ไม่จริงใจ เป็นคนน่ากลัว ชอบให้ร้ายป้ายสี ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้จับกุมเจ้าเหนือหัว แต่เกิดกลัวความผิด นำเรื่องไปฟ้องฝ่ายเจ้านาย ภายหลังได้เลื่อนยศปูนบำเหน็จความดีความชอบเป็นใหญ่ในแผ่นดิน เป็นบิดาของร.ต.ไมตรี 

หลี่ จิง จิง 李精精 (Li jīng jīng คำว่า จิง แปลว่า ดี ประณีต) เด็กสาวญอนยา ลูกสาวคนเล็กของหลี่จื้อโหย่วกับคุณนายรอง อายุราว 17 ผมบ๊อบ มีรสนิยมแบบหญิงรักหญิง (เป็นเลสเบี้ยน) นิสัยนักเลง ชอบเป็นหัวโจก เป็นคู่กัดกับโสมสุดา แต่ภายหลังเป็นเพื่อนรักกัน    จบวิชาการต่อสู้สำนักเดียวกับโสมสุดา ต่อมากลายเป็นสาวนักฆ่ามืออาชีพ และเป็นบอดี้การ์ดให้มหันต์  คู่กันกับเนเลม่า นักฆ่าเผ่าไปย่า มนุษย์กินคนจากหมู่เกาะปาปัวนิวกินี 

หลี่จื้อซาน  李紫山 ( Li zǐshān ) ลูกชายคนรองของหลี่จื้อโหย่ว อันเกิดจากคุณนายรอง ถูกแม่ยุแหย่ให้ช่วงชิงการครอบครองกิจการจากพ่อ เขาหลงรักเว่ยถิงถิงข้างเดียว 

หลี่จื้อโหย่ว 李志友 (Lizhìyou คำว่าจื้อโหย่ว แปลว่า เครื่องหมายแห่งมิตรภาพ) คหบดีชาวเปอรานากัน  ( บ้าบ๋า ย่าหยา ) ในสิงคโปร์ เป็นคนมีน้ำใจกว้างขวาง รักเพื่อนฝูง มีคฤหาสน์สไตล์เปอรานากัน ที่เชิงเขา เอ็มเมอรัลฮิลล์ ( The Emerald Hill 翡翠山) ใกล้ถนนออชาร์ด และยังมีกิจการค้าเครื่องเทศ ยาสมุนไพร โรงงานผลิตยาหม่อง โรงงานแป้งมัน โรงผลิตเบียร์ บริษัทรับจ้างขนส่งสินค้า ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ฯลฯ   

เว่ย ถิง ถิง 魏婷婷 (Wèitíngtíng คำว่าถิง แปลว่า สง่างาม) ลูกสาวของ เว่ยเชียน อายุราว 21 นักศึกษามหาวิทยาลัย ( เปิดตัวตอนที่โสมสุดาเข้ามหาวิทยาลัยแล้ว ) นิสัยเอาแต่ใจตัว เป็นคุณหนูไฮโซ ตกหลุมรักหลี่หงหมินมานานแล้ว คอยขัดขวางความรักของโสมสุดากับหงหมิน   

เว่ยเชียน 魏千 (Wèi qiān คำว่าเชียน แปลว่า จำนวนพัน ในที่นี้หมายถึงพันหน้า ) หุ้นส่วนทางการค้า ของหลี่จื้อโหย่ว นิสัยเจ้าเล่ห์ หน้าไหว้หลังหลอก หน้ายิ้มใจเชือดคอ มีธุรกิจมืด โยงใยกับเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองที่ทุจริต   

 หวง หู่ ลิ 黄虎力 ( Huánghǔlì คำว่า หู่ แปลว่า เสือ ลิ แปลว่า แรง รวมกันคือ แรงเหมือนเสือ ) ลูกน้องมือขวาของเว่ยเชียน หลงรักเว่ยถิงถิงข้างเดียว ภายหลังถูกถิงถิงหลอกให้ไปฆ่าโสมสุดา 

กาวิต้า ปรีวาล ( Kavita Prewal ) เด็กสาวชาวอินเดียฮินดู ลูกสาวแขกขายผ้าในกรุงเจมทาวน์ มาเรียนคอนแวนต์ที่โรงเรียนเซนต์มารีอา ห้องเดียวกับโสมสุดา เป็นเพื่อนรักกับโสมสุดา ชอบเรียกโสมสุดาว่า ซูด้า 

หม่อมหลวงบุญเหลือ อุทัยวงศ์ ราชสกุลจากสยาม เพื่อนร่วมชั้นของโสมสุดา กำพร้าแม่ตั้งแต่เด็ก บิดามีภรรยาหลายคน นิสัยเรียบร้อยน่ารัก 

ซิสเตอร์แอนนา ครูประจำชั้นของโสมสุดา นิสัยโอบอ้อมอารี 

ซิสเตอร์ซูซี่ ครูประจำชั้นของหลี่จิงจิง นิสัยขี้อิจฉา ขี้โกง 

ซิสเตอร์จินต้า หัวหน้าสำนักแม่ชีลับ ในป่าช้าท้ายโรงเรียน ชอบทำตัวลึกลับ 

 เป็นอาจารย์คนแรกที่สอนวิชาการต่อสู้ป้องกันตัวแบบปันจักสีลัตให้แก่โสมสุดา 

ปึงซีหงอ方世悟 หรือ ฟางซื่ออู่ ครูมวย คณะปาหี่ที่สอนวิชากังฟูให้หลี่จิงจิง 

เล็กกิมหงษ์陸金鳳 ภรรยาปึงซีหงอ เป็นครูสอนมวยหย่งชุนให้เสียวเยี่ยน 

ผู้การเจิ้ง หรือ พันตำรวจเอก เจิ้งเทา鄭濤 ผู้กำกับการตำรวจตงฉิน ภายนอกเป็นที่เคารพศรัทธาของประชาชนและเสี่ยวเยี่ยน แต่เบื้องหลังของเขาคือ... 

มากาเร็ต บราวน์ นักข่าวสาวชาวอังกฤษ แห่งหนังสือพิมพ์เมอไลอ้อนเดลี่ ผู้ต่อสู้เพื่อสิทธิของแรงงานสตรี จนถูกพวกนายทุนสังหาร เป็นแรงบันดาลใจให้โสมสุดา เลือกเรียนวิชาเอกทางด้านหนังสือพิมพ์ 

หลิวอาซ่าน 劉阿善 ทอมบอย นักเรียนรุ่นพี่ของโสมสุดาและหลี่จิงจิง หลี่จิงจิงหลงรักเขา แต่เขาชอบมาติดพันโสมสุดา  

เดวิด จาง     張大衛    นักศึกษาแพทย์ วิทยาลัยการแพทย์คิงเอ็ดเวิร์ดที่เจ็ด the King Edward VII College of Medicine เป็นพื่ชายของเพื่อนโสมสุดา หลงรักโสมสุดา คบหากับโสมสุดาช่วงที่หล่อนตีตัวออกห่างหลีหงหมินเพื่อเปิดทางให้เว่ยถิงถิง 

หลีก่วงเหยา  ( 李廣夭 Li guǎng yāo ) เด็กชายอายุประมาณ 13 ปี ลูกของกุลียากจนที่อาศัยเรือเป็นบ้าน ริมแม่น้ำสิงคโปร์ ใกล้สะพานเคเวอนัฟ บิดาถีบสามล้อ และรับจ้างขนส่งสินค้าระหว่างเรือไปยังรถบรรทุกหรือสถานที่ใกล้ ๆ แถวนั้น ส่วนมารดาขายบุหรี่ ขนม และหนังสือพิมพ์ที่แผงใกล้ ๆ กันนั้นภายหลังเมื่อเติบใหญ่ได้เป็นผู้นำคนสำคัญของประเทศสิงคโปร์ 

  

เจ้าร่มฟ้ามหาราชัน พระราชาธิบดีแห่งพระราชอาณาจักรโซวันน่า ทรงปกครองด้วยพระราชหฤทัยเมตตา แต่ไม่เด็ดขาด โอนอ่อนผ่อนตามพระราชโอรสคือเจ้าแสนฟ้า จนบ้านเมืองวุ่นวาย  

เจ้าแสนฟ้าดาหงัน โอรสของเจ้าร่มฟ้า มีนิสัยเสเพล เอาแต่ใจตัวเอง ชอบคนประจบประแจง แต่ก็เกรงใจพระญาติคือ เจ้าชายดูรี  

เจ้าชายดูรี บากาซาตู กรมพระยาเฉลิมเมือง พระอนุชาต่างพระมารดาของเจ้าร่มฟ้า ทรงสำเร็จวิชากฎหมายจากยุโรป เฉลียวฉลาด รักความยุติธรรม มีเมตตาต่อพสกนิกร แต่ไม่มักใหญ่ใฝ่สูง มักปลอมพระองค์เป็นสามัญชนไปเที่ยวในชนบท  

เจ้าหมื่นฟ้าปาดี อนุชาต่างพระมารดาของเจ้าแสนฟ้า ครองราชย์ต่อจากเจ้าแสนฟ้า 

 

เจ้าค้ำฟ้ากระยาหงัน โอรสของเจ้าหมื่นฟ้า กษัตริย์หนุ่มผู้ทรงมีความคิดก้าวหน้า รักประชาชนมากยิ่งกว่าพระองค์เอง 

จอมพลสดมภ์ พิฆาตศัตรู ( ชม การะบุหนิง ) บุคลิก เจ้าเล่ห์ ขี้ระแวง อดีตทหารคนสนิทของหลวงสินาดโยธาเทพ รับใช้ใกล้ชิดจนเจ้านายไว้วางใจ ได้เลื่อนยศตำแหน่งตามลำดับ แต่เพราะความไม่รู้จักพอ จึงทรยศได้แม้นายตนเอง แล้วกุมอำนาจทางการทหารและการเมืองไว้ทั้งหมด แต่งตั้งตัวเองเป็นนายกรัฐมนตรี  

พันตรี น.พ.จูรัง ฮัสตาสการ์ (หมอฮัจย์ )สหายเก่าของขุนพิทักษ์สมัยเรียนโรงเรียนนายร้อย มีอุดมการณ์สูง เป็นผู้นำ เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนฝูง จึงเป็นกำลังสำคัญในการรวบรวมสมาชิกก่อการปฏิวัติได้มากมาย 

บุหงา การะบุหนิง น้องสาวของจอมพลสดมภ์ จิตใจดี อ่อนโยน อาชีพพยาบาล เติบโตมาพร้อมกับไมตรี แอบรักไมตรีอย่างคนรัก แต่ไมตรีรักเธอเหมือนน้องสาว 

มหันต์ มณีจักรแก้ว ชายวัย 30 ต้น ๆ มือขวาของจอมพลสดมภ์ เป็นคนทะเยอทะยาน ใจเย็นพอ ๆ กับเลือดเย็น เป็นตัวร้ายที่สุดของนิยายเรื่องนี้ ถ้าเทียบกับพระยากำแหงหาญและ จอมพลสดมภ์ เพราะมหันต์แต่เดิมเป็นพ่อพระในสายตาประชาชน เป็นนักไกล่เกลี่ยความขัดแย้งตัวยง เป็นนักสังคมสงเคราะห์ที่สื่อมวลชนยกย่อง และเป็นโฆษกรัฐบาลหน้าหยก จนได้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี   

เนเลม่า นักรบมนุษย์กินคนจากเผ่าไปย่า บนเกาะปาปัวนิวกินี มีวิชาไสยศาสตร์ เก่งทางยิงธนู ใช้หอกและลูกดอกอาบยาพิษ เมื่อล่าศัตรูได้ก็จะกินสมองและตับไตไส้พุงของเหยื่อเพื่อครอบงำวิญญาณ เป็นบอดี้การ์ดของมหันต์ 

 

ดร.บุญดี บันลือทรัพย์สกุล ชายวัย50ต้น ๆ มีที่มาลึกลับ เป็นผู้นำขบวนใต้ดินที่เรียกตัวเองว่า ปลดปล่อยโซวันน่า ( Free Sovanna Movement FSM ) เพื่อปฏิบัติการต่อต้านกองทัพจักรวรรดิไดเกียวที่ยกพลเข้ามาใช้ประเทศโซวันน่าเป็นฐานสร้างความร่วมมือกับนาซีเพื่อยึดครองโลก ภายหลังเปิดเผยความจริงว่า ตนคือ ขุนพิทักษ์ทวยหาญที่หายตัวไปจากคุก ไปผ่าตัดแปลงโฉมที่เกาหลี แล้วไปฝึกหลักสูตรการรบแบบโจรยุทธจากสหภาพโซเวียต จีน และญี่ปุ่น 

ขุนหลวงมะลังคะ เป็นหัวหน้าเผ่าในยุคที่พระนางจามเทวีเพิ่งจะเสด็จมาจากละโว้ ขึ้นมาปกครองเมืองหริภุญชัย เขาเกิดหลงรักพระนางจามเทวี แต่เมื่อไม่สมหวัง ก็ยกทัพมาตีเมืองหริภุญชัย แต่พระนางจามเทวีใช้ช้างศึกและกองทัพไล่ชาวลัวะจนแตกพ่าย  หนีไปในป่าลึกด้านเหนือของดอยสุเทพแถบลุ่มน้ำแม่สา แม่ริม  แล้วหลงเข้าไปในดินแดนลับแลบังบด ที่อยู่เหนือกาลเวลา ซึ่งเป็นสถานที่อันฤาษีวาสุเทพสร้างไว้กักขังพวกลัวะ จนเมื่อเจ้าค้ำฟ้าใช้ศิวลึงค์ผลึกแก้วปักลงบนฐานโยนีในปราสาทขอม เขาจึงพ้นคำสาปของฤาษีวาสุเทพ ได้วิชาอาคมกลับคืน จึงออกมาช่วยเจ้าค้ำฟ้าพวก ดร.บุญดี โสมสุดา และไมตรี ทำการรบกับพวกจอมพลสดมภ์ เพื่อกอบกู้ราชบัลลังก์คืน จุดเด่นของพวกนี้คือ มีวิชาอยู่ยงคงกระพันมีอาคมล่องหนหายตัวได้ เก่งมวยโบราณ ดาบเจิง 

ม่านทิพย์ สาวชาวป่าเชื้อสายไทดำผสมไทลื้อ ซึ่งมะลังคะไปพบในป่า หลังจากพ่อแม่ของเธอถูกชาวบ้านบูชายัญ หลังจากกล่าวหาว่าเป็นปอบ และม่านทิพย์หนีจากการไล่ล่าจนได้รับการช่วยเหลือจากมะลังคะ แล้วร่วมเดินทางมากับขบวนการปลดปล่อยโซวันน่า ( Free Sovanna Movement FSM )จนไปถึงหุบเขาปีศาจ ม่านทิพย์มีจุดเด่นที่ขับลำเพลงพื้นเมือง และฟ้อนรำได้ ทำอาหารเก่ง มะลังคะรักหล่อนมาก และในการศึกครั้งใหญ่ที่หุบเขาปีศาจ ม่านทิพย์ก็เสียชีวิตจากระเบิด ทั้งที่มะลังคะได้ห้ามแล้วไม่ให้เธอออกจากที่กำบัง แต่เนื่องจากเธอต้องการจะไปขุดหาหน่อไม้มาเตรียมปรุงอาหารที่มะลังคะชอบกิน เป็นเหตุให้เสียชีวิต มะลังคะจึงเสียใจมาก และสละชีพตายตามหล่อนไปด้วยการพุ่งตัวไประเบิดเรือบรรทุกเครื่องบินรบของโซวาเซีย แล้วกายทิพย์ของเขาและเธอก็ล่องลอยไปสู่วิมานแก้ว เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาของชาวปลดปล่อยโซวันน่า ( Free Sovanna Movement FSM )ทุกคนบนยอดเขาปีศาจนั้น 

นาคินมณี บุตรชายของมะลังคะและนางม่านทิพย์ เมื่อปฏิสนธิมีพญานาคมาเข้าฝันของนางม่านทิพย์และมอบแก้วสว่างใสให้ดวงหนึ่ง จึงตั้งชื่อลูกคนนี้ว่า นาคินมณี แปลว่า แก้วของนาค เด็กคนนี้มีฤทธิ์มาแต่กำเนิดมีอาวุธคู่กายที่รับจากฤาษีคือ คทาทองหัวเพชร และสัตว์พาหนะคือ นพสีห์ ที่ปกติจะแปลงร่างเป็นกระจง 

เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยปราบพวกฝรั่งโซวาเซีย 

ดม เด่นดัง บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เกาหัว ลูกครึ่งมอญอินเดีย เป็นคนสองบุคลิก บางครั้งเป็นนักวางแผนอย่างฉลาดขั้นเทพ บางครั้งก็ทำอะไรเพี๊ยน ๆ ติงต๊อง หลุดโลก 

 

 ชบา สายลับสาวประเภทสองที่สวยยิ่งกว่าผู้หญิงแท้ ได้รับหน้าที่เข้าไปเป็นเมียน้อยของจอมพลสดมภ์ ทำให้สดมภ์หลงใหลจนหน้ามืดตามัว 

ตาแย้ม ชายพื้นเมืองชาวโซวาเนียน นับถือศาสนาพุทธ หัวล้าน พุงพลุ้ย ชอบนุ่งโสร่ง ห้อยพระเครื่องเต็มคอ อาชีพถีบสามล้อ สถานที่ชอบสิงสถิตคือร้านกาแฟฮกกี่ ชอบอ่านหนังสือพิมพ์แม้จะอ่านไม่ค่อยออกเพราะเรียนน้อย  

บังยวน ชายพื้นเมืองชาวโซวาเนียนเชื้อสายมาเลย์ นับถือศาสนาอิสลาม ไว้เครา สวมหมวกกะปิเยาะห์ อาชีพทำสวนมะพร้าวและเลี้ยงวัวนม ส่งน้ำนมโคสดขายให้ร้านกาแฟฮกกี่ ชอบวิเคราะห์วิจารณ์ข่าวจากหนังสือพิมพ์ เป็นคู่หูของตาแย้ม ซึ่งสองคนนี้มีฉายาสองสิงห์ขี้โม้ประจำสภากาแฟ 

แป๊ะหลี ชายวัยกลางคน เชื้อสายจีน เจ้าของร้านกาแฟฮกกี่ อาชีพรองคือเจ้ามือหวยจับยี่กี และปล่อยเงินกู้ ไม่สนใจเรื่องอื่นนอกจากเงิน   

 ยายมะ หญิงพื้นเมืองชาวโซวาเนียน แม่ค้าข้าวแกงหน้าสำนักงานหนังสือพิมพ์เกาหัว เป็นคู่ปรับของ บ.ก.ดม เพราะดมชอบกินแล้วแปะ แต่รักโสมสุดาเหมือนลูกสาวแท้ ๆ เป็นที่ปรึกษาและปรับทุกข์ของโสมสุดาเป็นประจำ 

ชะอม เด็กสาวรุ่นดรุณี อายุประมาณ 18 หลานสาวคนโตของยายมะ เป็นคนรสนิยมสูง สวนทางกับฐานะการเงิน ชอบแต่งตัวสวยงามตามสมัยนิยม ไม่ชอบให้ใครเรียกชื่อชะอม ชอบให้เรียกแมรี่ เป็นขวัญใจของ บ.ก.ดม 

น้องเหมี่ยว เด็กหญิงอายุประมาณ 6 ขวบ หลานสาวคนเล็กของยายมะ ที่โสมสุดารับเป็นบุตรบุญธรรม เป็นสื่อรักระหว่างไมตรีกับโสมสุดาให้คืนดีกัน 

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว