สวัสดีค่ะ archi_10_001 ค่ะ ((เรียก “ช้อน” น่าจะสะดวกกว่าค่ะ))
มาเปิดเรื่องใหม่อีกแล้ว จริง ๆ ก็แต่งจบไปนานมาก ๆ แล้วค่ะ น่าจะก่อน 2010
แต่ที่เอามารีโพสต์เพราะ บอร์ดเก่าของช้อนโดนอุ้มไป ก็หายไปพักหนึ่งเหมือนกันค่ะ
ก่อนจะกลับมาปั่นฟิคอีกครั้ง ((วงใหม่เน๊าะ)) เมนเดิมก็ยังมีมาเรื่อย ๆ
เพราะบางพล็อตในหัว ก็ต้องเป็น ยูพี เท่านั้นอะค่ะ แต่ก็น่าจะนาน ๆ มาสักที
((ถ้ามีโอกาสได้ปั่นเรื่องใหม่ แกะกล่องจริง ๆ อะเน๊าะ ^^))
ปกติไม่ค่อยได้แนะนำอะไรมาก เพราะช่วงเวลานั้น เมนช้อนก็ยังไปมาหาสู่กันตามประสาเพื่อนร่วมบริษัทกันอยู่บ้าง หลัง ๆ ก็ ประมาณ 5 ปี เจอกันครั้ง เลยต้องแนะนำสักหน่อยเดี๋ยวจะไม่รู้ว่าเมนช้อนคือคนไหน ฮา...
คนแรกกันเลยค่ะ
((ไม่เกริ่นนะคะ ไปอ่านกันเลยค่ะ พล็อตไม่ซับซ้อน ๕๕๕))
Nakamaru Yuichi // ยูจัง // นากามารุ // ยูอิจิ
Yamashita Tomohisa // ยามะพี // ยามะชิตะ // โทโมฮิสะ // พีจัง
Akanishi Jin // อาคานิชิซัง // จิน // อาคานิชิ
Kamenashi Kazuza // คาเมะ // คาเมนาชิ // คาซึยะ
Nishikido Ryo // นิชิกิโด // เรียว // เรียวจัง
Uchi Hiroki // อุจี้ // ฮิโระ // ฮิโรกิ
Story :E-N-V-Y
Cast : [Nakamaru Yuichi] [Yamashita Tomohisa]
[Akanishi Jin] [Kamenashi Kazuya]
[Nishikido Ryo] [Uchi Hiroki]
By : archi_10_001
Part 000 (intro)
"นี่มันหมายความว่ายังไงฮะ อาปา โทโมะไม่เข้าใจ" ยามะพีลูกชายคนโตของบ้านยามาชิตะโวยวายขึ้นมาเมื่อรู้ข่าวจากผู้เป็นพ่อว่า คาเมะน้องชายต่างแม่กำลังจะได้แต่งงานกับ อาคานิชิ จิน ผู้ชายที่ได้ชื่อว่าน่าจับตามองที่สุดในญี่ปุ่นตอนนี้ และที่สำคัญคนๆนี้เป็นคนที่ตนคิดจะจับให้อยู่หมัดในเร็ววัน
"ก็ทางโน้นเขาระบุมาอย่างนี้ อาปาก็จนใจจริงๆโทโมะ" ผู้เป็นพ่อพยายามที่จะเอาน้ำเย็นเข้าลูบหวังว่าลูกสุดรักจะเข้าใจความจำเป็นของตน การที่ทางอาคานิชิเสนอมาอย่างนี้ตัวเองก็ยากที่จะปฏิเสธ แม้จะรู้ถึงความต้องการของยามะพีแต่คนอย่างตนก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
นายยามาชิตะจะเป็นเจ้าของกิจการใหญ่โตอยู่พอตัว แต่ถ้าจะไปเทียบชั้นกับ อาคานิชิ แล้วยังห่างไกลอยู่มากนัก และนั่นก็เป็นสาเหตุหลักที่เขาไม่สามารถทำตามความต้องการของยามะพีได้เลย
"โทโมะไม่มีทางยอมแพ้ ไอ้ลูกเมียน้อยนั่นแน่ๆ" ยามะพีตวาดลั่นจนคนภายในบ้านสะดุ้งกันเป็นแถว แม้จะไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนักหนาที่ยามะพีลูกชายของเจ้าของบ้านคนโตจะอารมณ์เสียเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่ได้ดั่งใจ แต่เรื่องคราวนี้ดูจะร้ายแรงอยู่ไม่น้อย
"ฉันไม่มีทางแพ้นายแน่ คาเมะ" ยามะพีหุนหันเดินออกมาจากห้องทำงานของบิดาของตนด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว แล้วก็สะดุดกับคู่กรณีของตนที่หน้าประตูมองอีกฝ่ายทันทีด้วยสายตาแข็งกร้าว
ก่อนที่จะเดินออกจากตัวบ้านไปยังรถของตนแล้วขับออกไปด้วยความเร็วสูงบ่งบอกได้เป็นอย่างดีของอารมณ์ของผู้ขับ
คาเมนาชิ คาซึยะ ลูกชายอีกคนที่เกิดจากคนรับใช้ภายในบ้านกับนายยามา ชิตะ ไม่บ่อยนักที่จะได้รับความเมตตาจากผู้เป็นพ่อ ไม่เหมือนพี่ชายอีกคนที่ผู้เป็นพ่อออกจะตามใจไปซะทุกอย่าง กว่ายามะพีจะยอมให้เป็นน้องก็แทบลากเลือด
ไม่มีสักวินาทีที่คนๆนี้จะได้รับการแยแสจากยามะพีผู้เป็นพี่ชาย ที่อยู่ในบ้านหลังนี้ก็เป็นเพียงแค่ลูกนอกสมรสของผู้เป็นพ่อเท่านั้น
คาเมะได้แต่หลบสายตาที่ยามะพีมองมาที่ตน แค่เห็นสายตาอย่างนี้ก็พอจะรู้ว่าเรื่องที่พี่ชายต่างมารดาของตนโมโหเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้นั้นคงไม่พ้นเรื่องของตนอีกเช่นเคย เพียงแต่ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องอะไรเท่านั้น
....
ภายในคลับมีชื่อของคนตระกูลใหญ่อย่างอาคานิชิ ที่ๆเป็นคล้ายรังที่แสนจะปลอดภัยของเหล่าคุณหนูกระเป๋าหนักทั้งหลาย หนึ่งในนั้นก็แน่นอนว่าจะต้องมียามะพีเป็นสมาชิกระดับ VIP เชียว
"หึ เรื่องนี้นายรู้มาก่อนสินะ ฮิโรกิ จินเป็นพี่นายหนิ" ยามะพีโวยเพื่อนรักคนสนิทของตัวเองเล็กๆ ทันทีที่โวยลั่นทั้งบ้านเมื่อตอนบ่ายแก่ๆเมื่อสักครู่นั้น ร่างบางก็ตรงดิ่งมาที่นี่ เพราะรู้ดีว่าตนจะเจอกับ อาคานิชิ จิน ได้ที่นี่เท่านั้น
"ฮิโระก็ไม่เข้าใจนักหรอก ว่าคุณชายรองของอาคานิชิต้องการอะไร เพิ่งรู้พร้อมๆกับนายนั่นแหละ เมื่อวันก่อนยังเห็นควงกันอยู่เลยไม่ใช่รึไง นายต่างหากที่รู้เรื่องของจินมากที่สุด" ฮิโรกิโวยเล็กๆ รู้จักนิสัยของเพื่อนตัวเล็กคนนี้ดี ถ้าไม่ได้ดั่งใจ
ละก็ พังกันไปข้างโน้นแหละกว่าที่ ยามาชิตะจะยอมรามือจากคนที่ทำให้เจ้าตัวไม่ได้
ดั่งใจ ซึ่งตอนนี้คงไม่พ้น คาเมนาชิ หรอก ท่าทางครั้งนี้เจ้านั่นคงจะโดนหนักอยู่
ฮิโรกิเพื่อนรักคนสนิทของยามะพี เป็นน้องชายคนเล็กของตระกูลใหญ่ในญี่ปุ่น พี่ชายคนรองคือ อาคานิชิ จิน ส่วนพี่ชายคนโตนั้น น้อยคนนักที่จะรู้จัก แม้แต่คนที่คบกันมากกว่า 10 ปี อย่างยามะพียังแทบจะไม่เคยเห็นหน้าสักครั้งเลยด้วยซ้ำ สำหรับพี่ชายคนโตที่ว่านั่นรึไม่ก็อาจจะเคยเจอกันเมื่อนานมากแล้ว นานเสียจน เจ้าตัวไม่สามารถจดจำเอาไว้ได้เสียแล้ว
"แล้วนายจะเอายังไง คงไม่ได้ไปโวยเอาวันที่เข้าพิธีหรอกนะ ฮิโระไม่คิดว่า
โทโมะจะเข้าไปขวางงานของจินได้หรอกนะ มันไม่คุ้มเลย....โทโมะ" ฮิโรกิเริ่มหวั่นใจกับความคิดของเพื่อนรัก ถ้าคนๆนี้คิดจะทำอย่างที่ตนคิดจริงๆละก็ ยังไงก็คงต้องรั้งไว้ให้ได้นั่นแหละ
"ว่าแต่วันนี้พี่ชายของนายไม่มาหรอกเหรอ อยากคุยด้วยสักหน่อย อย่างน้อยก็ไม่คิดว่าจินจะหักหลังโทโมะ" ยามะพีเงยหน้าขึ้นจากแก้วทรงสวย ภายในแก้วบรรจุไปด้วยของเหลวสีอำพันสว่างตา แต่ฤทธิ์ร้อนของมันนั้นก็ร้ายแรงอยู่ไม่น้อย ถึงอย่างนั้นคนร้อนแรงก็ไม่ได้นึกระคายกับรสร้อนที่ว่านั่นเลยสักนิด
"วันนี้อาจจะไม่เข้านะ เห็นว่ากำลังจัดการปิดบัญชีกลาง ถ้าจะเข้ามานี่ก็คงดึกๆนั่นแหละ" ฮิโรกิส่ายหน้าไปมา ช่วงนี้ที่บ้านมีเรื่องหนักอยู่เหมือนกัน ถึงได้ไม่เข้าใจไงว่าเพราะอะไรพี่ชายรองถึงได้นึกจะแต่งงานเป็นฝั่งเป็นฝาเอาเวลาอย่างนี้
"อ่าว แล้วกันนี่มาเสียเที่ยวหรอกเหรอ โทโมฮิสะเอ๋ย" ยามะพีบ่นในลำคอ ตอนนี้มันหงุดหงิดซะจนไม่อยากจะทำอะไรเลยจริงๆ จินนะจิน ถ้าเจอเมื่อไหร่จะซักให้สะอาดเลยคอยดูสิ
"เหอๆ นั่งอยู่นี่ไปก่อนละกัน อย่าดื่มมากด้วย นายยิ่งร้อนแรงอยู่ จินไม่อยู่ด้วยเกิดอะไรขึ้นมา ฮิโระรับผิดชอบไม่ไหวนะ ขอตัวไปทางโน้นหน่อย ท่าทางคนที่รอจะมาแล้ว" ฮิโระบอกกับเพื่อนรัก ก่อนที่เจ้าตัวจะขอตัวออกไปยังที่ๆบอกเอาไว้เมื่อครู่
"บางทีนายอาจจะได้เจอจินเพราะคนนั้นก็ได้นะ โทโมะ" ฮิโรกิพึมพัมกับตัวเองอย่างนึกสนุก แขกคนที่กำลังจะมาเท่านั้นแหละที่จะทำให้จินยอมยกเลิกเรื่องทั้งหมดนั้นได้
....
เสียงเพลงภายในผับหรูเริ่มขยับเป็นเพลงเร้าร้อนมากขึ้นเรื่อยๆ ตามอารมณ์ของลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ยิ่งดึกก็ยิ่งร้อนแรง
"หึๆ จินรู้จักโทโมะน้อยไปแล้วนะฮะ งานบ้าๆนั่นไม่มีทางจะได้จัดหรอก
โทโมะไม่มีทางให้งานนั้นเกิดขึ้นง่ายๆแน่" อาจเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่เริ่มส่งผลต่อระบบหลายๆอย่างของร่างกายก็เป็นได้ ยามะพีได้แต่บอกกับตัวเองว่าอย่างนั้น
เจ้าตัวรู้ดีว่า อาคานิชิ มีอิทธิพลมากแค่ไหน แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาที่จะเอามาคิด ไม่ว่ายังไงก็ต้องแย่งจินคืนมาให้ได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม
"ได้ยินมาจากฮิโรกิว่าคุณต้องการล้มงานของจิน งั้นเหรอ" เสียงทุ้มห้าวฟังดูแข็งกระด้างจากชายไม่รู้จักดังขึ้น ก่อนที่เจ้าของเสียงจะหย่อนกายลงนั่งข้างๆเจ้าของโต๊ะโดยที่ไม่ได้มีคำเอ่ยอนุญาตเจ้าของโต๊ะที่นั่งดื่มอยู่ก่อนแล้วนั่นเลยสักนิด
"คุณเป็นใคร...... เสียมารยาทที่สุด" ยามะพีเอ่ยเค้นเคืองท่าทางของอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก เรื่องอะไรอยู่ดีๆก็เข้ามาตีสนิท คนอย่างฮิโรกิไม่น่ารู้จักกับคนไร้มารยาทอย่างนี้ได้เลยจริงๆ
"ก็เป็นคนที่สามารถช่วยคุณล้มงานของ อาคานิชิ จิน ได้ก็แล้วกัน ไม่สนใจคนเสียมารยาทอย่างอย่างผมสักหน่อยเหรอครับคุณคนสวย" ชายแปลกหน้าเริ่มยื่นข้อเสนอของตน ตัวเองเคยเห็นรูปคนตรงหน้านี้มาบ้าง ไม่อยากเชื่อว่าจะเป็นเด็กคนนั้น คนที่เคยวิ่งตามตัวเองเมื่อก่อน
"คุณมีความสามารถขนาดนั้นเลยเหรอเนี้ย บอกตามตรงอิมเมทคุณไม่ให้เลยสักนิด ให้ตายเถอะ!!!" อาจเพราะด้วยความมึนเมาที่เจ้าตัวเองก็นั่งตัวไม่ตรงเอาเสียแล้วก็เป็นได้ที่ทำให้ยามะพีพูดจาไม่ให้เกียรติคู่สนทนาของตนเลยสักนิด
"เหอๆ ช่างเถอะเดี๋ยวคุณก็จะรู้ว่าคนอย่างผม ไม่ได้ดูแค่อิมเมทหรอกนะ
นากามารุ ยูอิจิ ยินดีที่ได้รู้จักครับ ยามาชิตะ โทโมฮิสะ คุณสวยกว่ารูปที่ผมเคยได้ดูเยอะเลย" ยูอิจิแนะนำตนเองกับคู่สนทนาบ้าง ถึงจะไม่ค่อยถูกใจกับคำสบประมาทของร่างบางตรงหน้าของตนสักเท่าไหร่ก็ตาม เดี๋ยวอีกไม่นายคนๆนี้ก็จะได้รู้เองว่าอิมเมทที่แท้จริงของ นากามารุ ยูอิจิ คนนี้นี่เป็นอย่างไรกันแน่
....
"ดึกป่านนี้ โทโมะยังไม่กลับมาอีกรึไงกัน" นายยามาชิตะถามลูกชายคนเล็กที่นั่งรอพี่ชายอยู่ข้างล่าง ตั่งแต่ช่วงเย็นแล้ว โดยมีเพื่อนสนิทนั่งรออยู่ไม่ห่าง
"ยังเลยฮะคุณ ไม่รู้ว่าป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างไม่รู้ โมโหออกไปอย่างนั้นด้วย" คาเมะตอบกลับไป การที่เจ้าตัวไม่เรียกอีกฝ่ายว่าพ่อนั้นเป็นเพราะความต้องการของคนขี้โมโหนั่นเช่นกัน แต่มันก็ไม่ได้ลำบากอะไรนักสำหรับคนอย่างเขา
"โทโมะคงไม่กลับมาแล้วหละ ท่าทางอย่างเมื่อเย็นคงไปดื่มกับคุณหนูฮิโรกิ เช้าโน้นแหละกว่าจะกลับ ยังไงเราก็ไปนอนได้แล้วคาซึ คุณเป็นห่วงพรุ่งนี้ทางโน้นจะมารับไปวัดตัวไม่ใช่รึไง" นายยามาชิตะบอกกับลูกชายคนเล็ก ก่อนที่จะเดินขึ้นห้องของตนไป
"ก็บอกแล้วว่าให้ไปนอน เราจะได้ไปนอนบ้าง เนี่ย ง่วงจะแย่แล้ว ขับรถอีกนะคาเมะ ให้เรียวค้างด้วยคนนะ คนสวยใจดี" คนที่เป็นเพื่อนออดอ้อนเพื่อนตัวบางของตนอย่างออกนอกหน้า ทั้งที่คิดว่าจะรออยู่เป็นเพื่อนแค่ไม่นาน ดันเผลอหลับลงไปได้ ไอ้เพื่อนที่รักนี่ก็ดีเสียเหลือเกิน รอพี่ชายจนไม่ยอมปลุก ให้เพื่อนตัวเองนอนรอข้างๆซะจนดึกดื่นอย่างนี้ มันน่านักเชียว
"ก็กะเอาไว้ว่าจะชวนเรียวจังนอนด้วยกันอยู่พอดี พรุ่งนี้จะได้ให้ไปส่งที่ร้านเลย ขอบคุณนะ อีกอย่างขับรถกลับดึกๆอย่างนี้อันตรายจะตายไป เดี๋ยวคุณป้าจะมาโวยคาเมะอีก ขึ้นนอนกันเถอะ ท่าทางคุณโทโมะจะไม่กลับอย่างที่คุณว่านั่นแหละ"
คาเมะบอกกับเพื่อนซะยาวยืด ก่อนที่จะช่วยกนจัดของที่ห้องนั่งเล่นให้เรียบร้อย แล้วขึ้นข้างบนห้องตามเจ้าบ้านไป
....
"คาเมะ นายไม่คิดโกรธพี่นายบ้างเลยรึไงกัน ปากร้ายซะขนาดนั้น" เรียวถามเพื่อนรักของตัวเอง เมื่อเจ้าตัวลงไปนอนก่อนบนเตียงหนานุ่มของเจ้าของห้องเป็นที่เรียบร้อย
"ก็ไม่มีเรื่องอะไรที่น่าโกรธหนิ เพราะถ้าเป็นคาเมะ.... คาเมะก็คงแสดงท่าทีออกมาไม่ต่างจากที่คุณโทโมะแสดงออกมาสักเท่าไหร่นักหรอก" คาเมะว่าอย่างนั้น ก่อนที่จะพยายามฉุดลากเอาตัวเพื่อนคนสนิทออกจากเตียงของตัวเอง
"ไปอาบน้ำเลยนะ ไม่งั้นก็นอนข้างล่าง" เสียงหวานๆเมื่อสักครู่ถูกปรับให้เป็นเสียงแว๊ด โวยวายไม่พอใจสุดฤทธิ์ คนอะไรสกปรกชะมัดเลย
"ไม่อาบไม่ได้เหรอ คาเมะเนี้ยใจร้ายชะมัด ดึกแล้วยังให้อาบน้ำอีก คนง่วงจะตายอยู่แล้วเนี้ย" ทางด้านเรียวก็โวยวายไม่แพ้กัน ตาจะปิดอยู่แล้วยังให้อาบน้ำอีก คุณนายรักสะอาด!!!
"มันเหม็นนะ ไม่ให้นอนบนเตียงเด็ดขาด ถ้ายังไม่อาบน้ำ" คาเมะก็ไม่ยอมเช่นกัน จมูกโด่งสวยได้รูปเชิดรั้นขึ้นมาทันตาเห็น เล่นเอาอีกฝ่ายหลุดขำขึ้นมาเมื่อเห็นท่าทางอย่างนั้นของเพื่อนตัวบาง
"คราบบบบบ รับทราบครับ คุณนายอาคานิชิ คุณนายรักสะอาด" เรียวแซวเข้าให้ ก่อนจะรีบวิ่งปรู๊ดเข้าเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว เพราะรู้ดีว่าอีกไม่นานนักหมอนใบโตที่อยู่ไม่ห่างไปจากมือเรียวเล็กคู่นั้นสักเท่าไหร่คงได้ลอยละล่องมาตกที่หัวอันล้ำค่าของตนเป็นแน่แท้
แล้วมันก็เป็นอย่างที่เรียวคิดจริงๆ เพราะคาเมะเหวี่ยงหมอนใบที่ว่านั่นให้มาตกอยู่แถบๆแถวๆหน้าห้องน้ำที่เรียวเพิ่งวิ่งเข้าไปเมื่อสักครู่นั่นเอง
....
"นี่..... นี่.... นี่..... จะพาไปไหน ปล่อยนะ ไอ้เฒ่าหัวงู ปล่อยยยยยย..... ปล่อยนะโว้ยยยย" เสียงงัวเงียของคนเมาหน้าหวานโวยวายตลอดระยะทางที่โดนอุ้มออกมาจากโต๊ะ
"ถ้ายังโวยวายอีกหละก็ พ่อจะเหวี่ยงทิ้งตรงนี้เลย โวยวายไม่เปลี่ยนเลย ให้ตายสิ ทำไมจินไม่จัดการเองให้รู้แล้วรู้รอดไปเลยวะ" คนอุ้มสบถออกมา ขณะที่พาเอาตัวคนขี้โวยวายขึ้นมาชั้นบนของคลับหรูโน้น พอจะรู้ว่าเด็กคนนี้ร้ายกาจพอตัวอยู่ ถึงได้อาสาอยากลองปราบสักตั้ง แต่ไม่คิดว่าจะขี้โวยวายขนาดนี้
ถ้าไม่ใช่เพราะฮิโรกิช่วยเอาไว้อีกแรงหละก็ ไม่มีทางรอดจากสายตาคนในคลับแหงเลย คนอะไรเสียงชวนปวดหัวดีชะมัดเลยแฮะ
"ปล่อยสิ.....ปล่อยน้า..... จินนนนนน....จินช่วยโทโมะด้วย ฮิโร......" เสียงที่ว่าน่ารำคาญนั้นยังโวยต่อไปหยุด ก่อนที่จะขาดหายไปเพราะว่าเจ้าของเสียงโดนเหวี่ยงลงไปจากแขนของคนที่อุ้มมานั้นจริงๆ ดีที่ว่าตรงที่ตกลงไปนั้นเป็นเตียงนุ่มนิ่มที่ซึ่งไม่ใช่พื้นปูนแข็งๆอย่างที่ควรจะเป็น
"ตอนนี้หน้าที่ของแกคือรั้งเจ้าเด็กนี่เอาไว้ ท่องไว้ยูอิจิ ท่องเอาไว้ให้ขึ้นใจ"
ยูอิจิบอกกับตัวเองเบาๆเมื่อความอดทนของตัวเองเริ่มใกล้ที่จะถึงที่สิ้นสุดเต็มที
"ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นเรื่องของครอบครัวหละก็ พ่อไม่ถ่อกลับมาจัดการหรอกนะ แมร่งฤทธิ์มากชะมัด ไอ้เด็กปากเสียนี่" ยูอิจิมองไปที่ร่างบางๆของคนตัวเล็กที่นอนหลับไม่ได้สติไปเสียแล้ว
ยูอิจิมานั่งมอมเหล้าให้เด็กน้อยบนเตียงนี่ตั้งแต่ที่เข้ามาในคลับ แล้วก็เป็นหน้าที่ของพี่ชายคนโตอีกครั้งที่ต้องเป็นผู้จัดการกับสภาพของเด็กน้อยคนนี้ เลยต้องอุ้มเข้ามาที่ห้องส่วนตัวของตัวเองอย่างที่เป็นอยู่ตอนนี้
ขณะที่ยูอิจิกำลังหงุดหงิดกับท่าทางหลับสบายของคนตรงหน้านั้นก็มีเสียงโทรศัพท์ของเจ้าตัวดังขึ้น เรียกให้เจ้าของๆมันรับ
"อืม ยูอิจิพูด ว่ายังไง เรื่องนั้นหนะ" ยูอิจิกรอกเสียงไปบอกกับปลายสาย เสียงที่กรอกไปตามสายนั้นทำเอาคู่สนทนาขนลุกเอาง่ายๆเลยที่เดียวหละ
/นายครับ เรื่องของคนเราเตรียมมาให้พร้อมแล้วนะครับ เท่าที่นายต้องการ จะให้พวกมันขึ้นไปเลยรึเปล่าครับ\ คนที่เป็นคู่สนทนารายงานความคืบหน้าของงานที่ตนได้รับมอบหมายจากเจ้านาย
"ให้ขึ้นมาเลย เรื่องอุปกรณ์เตรียมพร้อมแล้วเหรอ" ยูอิจิบอกกับคนในสาย ปรายตามองคนบนเตียงเล็กน้อย แล้วค่อยกลับไปให้ความสนใจกับคู่สนทนาทางโทรศัพท์ของตนอีกครั้ง
/ครับนาย รับรองนางนั่นไม่กล้าไปโวยงานแต่งของคุณจินแน่ครับ\ ลูกน้องที่โทรรีบรายงาน เพราะรู้นิสัยเจ้านายคนนี้ดี ถ้าชื่นชมยินดีหละก็ดีจนน่าใจหาย แต่ถ้าร้าย ก็คงไม่ต่างอะไรกับซาตานนักหรอก ตระกูลนี้มีแต่คนน่ากลัวๆทั้งนั้นเลยสิหน่า ตั้งแต่คุณหนูเล็กมาจนถึงเจ้านายใหญ่ของตน
"รีบๆขึ้นมาก็ดีนะ ชักอยากจะกกผู้หญิงข้างล่างขึ้นมาตงิดๆแล้ว" ยูอิจิบอกออกไปตามสายเมื่อร่างกายของตนเริ่มตื่นตัวขึ้นมาทีละนิด
"เธอคงไม่มีหน้าไปเจอ ไอ้จินน้องชายคนรองของ อาคานิชิเสียแล้วหละแม่คนสวย" ยูอิจิบอกกับร่างบอบบางที่นอนหลับไม่ได้สติอยู่บนเตียง ถึงจะแปลกใจกับท่าทางน่าสบายของเด็กหน้าหวานนั่นอยู่สักหน่อยก็เถอะ
"ยาที่ว่านี่ออกฤทธิ์ช้าชะมัดเลยแฮะ!!!" ยูอิจิบอกกับตัวเองก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป ร่างกายของตัวเองในตอนนี้ชักจะยังไงก็ไม่รู้แล้วเนี้ย เกิดอาการอยากอะไรขึ้นมาตอนนี้วะ กำลังเข้าได้เข้าเข็มเลยเชียว อีกอย่างเรื่องตากล้องต้องเป็นคนรับหน้าที่เองด้วย อย่าเพิ่งตื่นนะลูกรัก
มือถือคู่ใจที่ถูกเจ้าของเครื่องเหวี่ยงทิ้งไปอย่างไม่ใส่ใจหลังจากที่เพิ่งจบบทสนทนาเมื่อครู่ ก็แผดเสียงร้องดังจนคนที่เข้าห้องน้ำอยู่อย่างสบายใจนั้นต้องวิ่งออกมารับ เพราะรู้ดีว่าคนที่โทรมาคนมีเรื่องสำคัญเป็นแน่ อีกอย่างเบอร์นี้คงจะมีไม่กี่คนที่รู้จัก
"ว่าไงฮิโระ ยาที่ผสมมาเป็นยาปลอมรึเปล่า ท่าทางเด็กนั่นไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิด" เมื่อเห็นหน้าจอคนรับสายก็โวยน้องชายคนเล็กของตนทันที
"อ้าว!!! แล้วยูจังหละฮะเป็นไงบ้าง รู้สึกรู้สาอะไรรึเปล่า ยาตัวนี้ใหม่สุดๆเลยนะ จินเอามาให้หละ" ฮิโรกิก็ตอบกลับไปตามที่ตัวเองได้รับสารมาจากพี่ชายคนโต
"มันหมายความว่ายังไง พูดยังกับว่า ฮิโระให้พี่ทดลองยาตัวนั้นอย่างงั้นแหละ" ยูอิจิถามไปตามสายด้วยความสงสัย ไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการที่จะสื่ออะไรกับตน ทั้งที่ตกลงกันไว้ว่าแก้วของเด็กหน้าหวานนั่นต่างหากที่ต้องผสมยา
"ก็ฮิโระสงสารโทโมะหนิฮะ โดนอย่างนั้นน่ากลัวจะตาย แต่เปลี่ยนเป็นยูจังแทนก็พอรับได้นะฮะ แค่นี้นะฮะ ขอให้สนุกกับเพื่อนรักของฮิโระนะฮะยูจัง..." ฮิโรกิทิ้งท้ายไว้เพียงเท่านั้น ก็ตัดสายไป เอาเป็นว่างานนี้ยูอิจิก็อึ้งจนพูดไม่ออกได้เหมือนกัน
ใครจะไปรู้ว่าคนที่เรียกได้ว่า หัวหน้าใหญ่ของ มารุ ซึ่งเป็นผู้ดูแลอาณาบริเวณเกือบทั้งหมดของเขตคันโตอย่าง นากามารุ ยูอิจิ คนนี้จะแพ้ทางน้องชายแสนน่ารักของตัวเองได้อย่างง่ายดายขนาดนี้
....
"ปัทโธ่โว้ย นี่ต้องมาลงเอยกับยัยเด็กปากจัด นิสัยเสียอย่างยัยนี่จริงๆรึไงวะ" ยูอิจิโวยวายอีกระรอกเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองโดนขังไว้ภายในห้องปิดตายบ้าๆนี่เสียแล้ว
"เพราะเธอคนเดียว แส่หาเรื่องใส่ตัวนักเชียว!!!" ยูอิจิกรนด่าร่างบางบนเตียงอย่างไม่พอใจสุดๆ ก็เจ้าเด็กนี่ไม่ใช่สเป็คเลยสักนิดให้ตายเถอะ
"อย่าให้พ่อออกไปได้เชียว ไอ้จิน แกตายแน่!!!" ยูอิจิคำรามเสียงก้อง เพราะรู้ดีว่าชะตากรรมต่อไปของตัวเองจะเป็นอย่างไร
....
"ว่าไง ฮิโระ เรื่องโทโมะ โอเครึเปล่า" เสียงของพี่ชายคนรองในตระกูลเอ่ยถามน้องชายตัวเล็กที่เพิ่งย่างเท้าเข้ามาภายในห้องรับแขกคฤหาสน์หลังใหญ่นี้
"ก็ดีฮะ ท่าทางคืนนี้ยูจังจะสนุกน่าดูเลย ฮิๆ....." น้องคนสุดท้องหน้าหวานหัวเราะรวน ไม่ได้นึกอยากแกล้งพี่ชายนักหรอก เพียงแต่เพื่อนรักของตนน่ารักดีถึงจะเอาแต่ใจไปนิด ปากร้ายไปหน่อยก็ตามที
"เหอๆ ถ้ามันไม่มีความสุข พรุ่งนี้จินคงไม่มีความสุขกว่าแน่ๆ เหอๆ" จินเห็นท่าทางของน้องชายก็ยิ้มแหย่ๆ รู้ดีว่าพรุ่งนี้ตัวเองคงโดนพายุก้อนมหึมาเชียว ก็พี่ใหญ่อย่างยูอิจิเคยว่าเคยตีฮิโระที่ไหน โอ๋กันเข้าไป ทีกับน้องชายคนรองอย่างตัวเองเนี้ย เหอๆ ปากว่ามือถึง ตีนถึงเลยหละ
"ไม่หรอกฮะ เพราะวันนี้ฮิโระชงสูตรใหม่ให้โทโมะเลยนะ รับรองเด็ดดวงยูจัง ให้ลืม แม่มิจิโระ อะไรนั่นเลยหละ" ฮิโรกิอวดสรรพคุณสูตรเครื่องดื่มตัวใหม่ที่เจ้าตัวเพิ่งคิดค้นขึ้นมาได้เมื่อไม่นานมานี้
-เมาเร็วหนะใช่ แต่มันก็สร่างเร็วไม่ต่างกัน-
-รับรองว่าพี่ชายคนโตต้องอดกลั้นอารมณ์ไว้ไม่ไหวเป็นแน่แท้-
"เรานี่น้า.... ไปอาบน้ำนอนได้แล้ว ท่าทางข้างบนคงเตรียมเอาไว้เรียบร้อยแล้วหละ พรุ่งนี้พี่ต้องพาเจ้าสาวไปวัดตัวด้วย จะไปด้วยกันรึเปล่าหละ" จินเอ่ยปากชวนน้องชายอันเป็นที่รัก
"ไปฮะไป ฮิโระอยากเจอพี่สะใภ้ อิอิ เคยเห็นแต่ในรูป แล้วก็ตอนที่อยู่ในสภาพที่ดูไม่ได้เพราะโดนโทโมะแกล้ง อืม.... ฮิโระไปด้วยนะฮะ" ฮิโรกิตรงเข้าไปกอดแขนพี่ชายคนรองของตนอย่างออดอ้อน ยิ้มแป้นเมื่อนึกถึงเรื่องสนุกที่กำลังจะเกิดขึ้นเพราะฝีมือของตัวเอง
"งั้น เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่ไปปลุก คงจะแวะไปรับยู มันด้วย ท่าทางคงเซ็งกับชีวิต
น่าดูเลยหละ" จินยิ้มให้กับน้องชาย ก่อนจะจูงมือนิ่มของคนตัวให้ไปที่ห้องส่วนตัวของเจ้าตัว
"ฮะ รักจินที่สุดเลย อิอิ" ฮิโระกิเขย่งเท้าหอมแก้มผู้เป็นพี่ชายอย่างน่ารัก แล้วก็ยิ้มหวานให้กับคนที่มาส่งอีกครั้ง ทั้งสองคนทำเรื่องอย่างนี้เสียจนเป็นเรื่องปกติไปเสียแล้วระหว่างพี่น้อง
จินส่ายหน้าให้กับความช่างอ้อนของน้องชาย แล้วก็หวนกลับไปคิดถึงพี่ชายคนโต คงเจ็บปวดน่าดูเลยสินะโดนคนที่เจ้าตัวแอบรักยัดเยียดให้คนอื่น น่าสงสารชะมัด
จินรู้ทุกอย่างดี
รู้ว่า....ยูอิจิคิดอย่างไรกับน้องชายคนเล็กของตระกูล
รู้ทั้งรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้….
แต่สำหรับคนหัวรั้นอย่างยูอิจิ
ใครจะว่ายังไงเจ้าตัวก็คงไม่สนใจอะไรนักหรอก
‘ก็คนมันรักหนินะ’
แต่ที่ยูอิจิไม่พูด...
คงเพราะเป็นห่วงเรื่องความรู้สึกของเจ้าตัวเล็กนี่มากกว่า
....
"อืออออ......" ยามะพีครางอือ....อา......ไม่ได้สรรพ เมื่อเจ้าตัวเริ่มรู้สึกตัวขึ้นมาบ้าง ดวงตากลมโตกระพริบถี่เพื่อปรับโฟกัสของแสงให้พอเหมาะกับสายตา
"หึ ตื่นมาได้สักทีนะ เพราะไม่ค่อยชอบทำเรื่องอย่างว่ากับคนที่หลับสักเท่าไหร่ หมดอารมณ์" ยูอิจิเปรยกับคนบนเตียง พลางค่อยๆขยับเข้าไปใกล้อีกร่างขั้นเรื่อยๆ
ตอนนี้สติสัมปชัญญะของตัวก็เริ่มเหลือน้อยลงทุกที ตอนนี้ไม่ว่าอะไรเข้ามาคนอย่างยูอิจิก็คงจะไขว่คว้าเอาไว้ทั้งหมด
ทั้งความโกรธ น้อยใจ เสียใจ ถาโถมเข้ามา ฮิโระบอกว่าเป็นยูจังดีกว่าอย่างนั้นเหรอ พี่ชายคนนี้คงต้องทำอย่างที่นายต้องการอย่างทุกครั้งสินะ เหอๆ น่าสมเพชชะมัด คนอย่าง นากามารุ ยูอิจิ
"อย่าเข้ามานะ จะทำอะไรหนะ นายเป็นใคร ออกไปนะ อย่าเข้า......." ยามะพีตั้งท่าจะวิ่งหนี แต่มือเรียวเล็กข้างหนึ่งนั้นโดนอีกฝ่ายยึดกุมเอาไว้เสียแล้ว จะสะบัดอย่างไรก็ดูว่ามันจะไร้ซึ่งผลซะจริง
เสียงร้องเมื่อครู่ผลุบหายไปพร้อมกับแรงกระแทก เมื่อเจ้าของร่างหนาโถมตัวเข้าไปหาคนบนเตียงเต็มแรง ร่างทั้งสองก่ายเกยทาบทับกับได้ระยะใกล้ชิดพอดิบพอดีเลยทีเดียวหละ
"โวยวายนักนะ ยัยตัวดี" ยูอิจิสบถลั่น ก่อนจะทิ้งน้ำหนักตัวทั้งหมดลงกับร่างบางข้างล่างอย่างโมโห กดริมฝีปากแนบชิดลงไปกับเรียวปากบางๆช่างโวยวายนั่น มือหนาบีบเค้นคางของคนข้างล่างจนร่างบางนั้นยอมเผยอปากรับลิ้นร้อนของตนเอง
"อือออออ....." ยามะพีครางประท้วง เมื่อรู้สึกได้ถึงลิ้นร้อนๆที่เข้ามาตวัดซุกไซร้แทบจะทั่วทั้งบริเวณช่องปากของตน มันไม่ใช่อย่างที่เจ้าตัวหวังเอาไว้เลยสักนิด ทั้งที่คิดว่าครั้งแรกของตนนั้นควรจะอ่อนหวาน อ่อนโยนกว่านี้สิ รึอย่างน้อยก็ไม่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เกิดจากคนที่เพิ่งเคยเห็นหน้ากันเพียงครั้งอย่างนี้
น้ำตาเหลวใสกำลังกลั่นตัวรอการหลั่งรินออกมาจากกระปอกตาคู่สวย แต่ดูท่าเจ้าของนั้นจะไม่ยอมให้เป็นอย่างนั้นโดยง่าย
อย่าร้องนะโทโมะ....
ห้ามร้อง....ห้ามให้ใครเห็นน้ำตา
นายต้องเข้มแข็ง....จะอ่อนแอเหมือนแม่ไม่ได้
จะให้ใครมาสมเพชนายไม่ได้นะโทโมะ
ยามะพีทำได้เพียงแค่ร้องบอกกับตัวเองในใจเท่านั้น ยอมปล่อยให้อีกฝ่ายลองลิ้มชิมรสหวานจากโพลงปากร้อนของตน แต่ไม่ยอมปล่อยให้คนนั้นได้เห็นน้ำตาแม้เพียงหยด
"หึ....ทำยังกับไม่เคยไปได้ กับไอ้จิน มันคงได้จนเบื่อแล้วสิถึงได้เขี่ยนายทิ้ง หึๆ หน้าหวานขนาดนี้แท้ๆ" ยูอิจิสมคำเหยียดหยามทันทีที่เจ้าตัวละริมฝีปากออกมาจากอีกคน ถึงจะอดคิดไม่ได้ว่าร่างบางตรงหน้านี้อาจจะยังไม่เคยคุ้นกับเรื่องทำนองนี้สักเท่าไหร่นัก แต่โอกาสที่จะเป็นไปได้มันไม่มีหรอก ก็คนเป็นพี่ย่อมรู้ซึ้งถึงนิสัยของน้องชายของตนเป็นอย่างดี
"ถุย!!!! ปากพล่อย.... จินไม่ทำเรื่องทรามๆอย่างแกหรอก...." ยามะพีทนไม่ไหวกับคำสบประมาทของร่างหนา ถ่มน้ำลายของตนเข้าเต็มหน้าอีกฝ่ายทันที
"หึ...แล้วจะสอนให้ว่าคนทรามๆ มันทำยังไงกัน จะได้ทรามมันทั้งคู่เลยไง"
ยูอิจิปาดน้ำลายนั่นทิ้ง ก่อนจะตวัดมือฟาดลงบนแก้มนิ่มของร่างบาง
"โอ้ย....ฮึกๆ.....ฮึก...." ยามะพีร้องออกมาด้วยความเจ็บชาไปทั่วทั้งแก้ม รอยมือเริ่มนูนเด่นเป็นสีแดงขึ้นเรื่อยๆ มันยิ่งเรียกอารมณ์ใฝ่ต่ำของยูอิจิให้ลุกโชนขึ้นไปกว่าเก่าอีก
อีกมือก็กระชากเอาเครื่องปกคลุมร่างกายของคนปากร้ายนั้นออกอย่างไม่ใยดี เสื้อตัวสวยราคาแพงของยามะพีฉีกขาดติดมืออีกฝ่ายไปอย่างไม่มีชิ้นดี เผยให้เห็นผิวเนื้อสีน้ำผึ้งนวลเนียนน่าสัมผัส น่าหลงใหล
"หึ...สดอย่างนาย ไอ้จินไม่น่ารีบทิ้ง....ไปคว้าคาเมะจังเลยนะเนี้ย แต่ก็อย่างว่า คนอย่างนายใครจะไปจริงจังด้วย!!!" ยูอิจิตะคอกใส่ ราวกับจะตอกย้ำปมด้อยของร่างเล็กให้เจ็บช้ำเข้าไปอีก แต่มันก็สมควร รังควานคาเมะจังซะจน จินต้องรบกวนให้มาจัดการขนาดนี้
"อย่างนี้ค่อยน่าสนุกหน่อย อย่างน้อยก็น่าจะดีกว่า ผู้หญิงข้างล่างอย่างที่
ฮิโระบอกจริงๆหละสินะ" ยูอิจิกระซิบเย้ยคนตัวเล็ก เห็นท่าทางหวาดๆอย่างนี้แล้วมัน
ก็ยิ่งน่ารังแก
"อ๊ะ....อย่านะ....จะทำอะไรหนะ ไม่นะ...อย่า...............า" ยามะพีผวาร้องจนเสียงหลงเมื่ออีกฝ่ายกระชากรั้งเอากางเกงเข้ารูปของตนจนถอยล่นลงไปอยู่ที่ข้อเท้า ต่อจากนี้ก็แทบจะไม่มีอะไรที่จะปกปิดเรือนร่างบางๆนี้เอาไว้ได้เสียแล้ว เท่าที่มีก็คงเป็นแค่ปราการชิ้นน้อยที่พร้อมจะหล่นร่วงหลุดออกจากเอวคอดของร่างบางนั้นเมื่อไหร่ก็ได้ตามที่ยูอิจิต้องการ
ยามะพีกลัวจนตัวสั่น ไม่รู้ว่าตนเองต้องทำอย่างไรในเวลาอย่างนี้สองมือเล็กๆนั่นพยายามจะปกปิดปัดป้องด้วยไม่อยากให้อีกฝ่ายเข้ามาสัมผัส
"อืออ........อ๊ะ...อย่า..................." ยามะพีกรีดร้องขึ้นมาสุดเสียง เมื่อปราการด่านสุดท้ายที่ว่านั้นโดนร่างหนานั้นฉุดกระชากออกไปเสียแล้ว
"จะร้องให้มันได้อะไรขึ้นมา รำคาญ" ยูอิจิตะคอกใส่ร่างบางอีกครั้ง ก่อนที่จะยัดเอานิ้วของตนลงไปกระแทกกับปากบอบบางของอีกฝ่าย แล้วก็กระแทกแกนกายของตนเข้ากับช่องทางหลังนั้นอย่างไม่ปราณี
"อือออออ.........." ยามะพีไม่มีสิทธิ์แม้จะร้องขอความเมตตาจากคนๆนี้ ร่างบางรู้สึกได้เลยถึงเสียงฉีกปริของช่องทางด้านหลังของตัวเอง น้ำตาที่อุตส่าห์เก็บกลั้นเอาไว้เป็นนานนั้นปริ่มออกมาเล็กน้อย แต่มันก็ไร้ซึ่งเสียงสะอื้นไห้ของเจ้าของน้ำตานั้น
"อย่าคิดจะกัดนิ้วเชียวนะ นายตายไม่สวยเหมือนหน้านายแน่ ยามาชิตะ
โทโมฮิสะ" ยูอิจิขู่คำขาดสองนิ้วใหญ่เกร็งยังคงค้างคาอยู่ในโพลงปากร้อนๆ
"อือออออ......ดีกว่าที่คิดเอาไว้เยอะเลยแฮะ" ยูอิจิครางเสียงต่ำขณะที่เจ้าตัวกำลังกระแทกแกนกายแข็งเกร็งสอดแทรกเข้าไปในช่องทางหลังด้วยความรู้สึกดีอย่างที่เจ้าตัวยังไม่เคยได้ลิ้มรสมาก่อน
"อือออออออ......." ร่างบางข้างใต้ไร้ซึ่งเรี่ยวแรงที่จะขัดขืนต่อสู้ ได้แต่ปล่อยให้เรื่องต่างๆดำเนินไปตามความต้องการของอีกฝ่ายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ค่ำคืนอันแสนยาวนานและโหดร้ายนั้นผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสียเหลือเกินในความคิดของยามะพี ร่างทั้งร่างยังคงสั่นคลอนโยกไปมาด้วยแรงกระแทกกายของร่างหนา ยามะพีไม่รับรู้ด้วยซ้ำว่ากี่ครั้งที่ตนได้ปลดปล่อยน้ำเมือกขุ่นข้นเหนี่ยวสีขาวนั้น รู้เพียงแต่ว่ามันเป็นความต้องการของคนๆนั้น
ไม่รับรู้ว่าร่างกายของตนต้องทนรองรับเอาของเหลวอุ่นร้อนของคนๆนั้นมามากแค่ไหน รู้เพียงแต่ว่ารังเกียจร่างกายของตัวเองเสียเหลือเกิน มันไม่ดีพอที่ใครจะ
ให้ความสำคัญอีกต่อไป ไม่บริสุทธิ์เพียงพออีกต่อไปแล้ว
ยูอิจิปลดปล่อยความต้องการของตนเองไม่เท่าไหร่เจ้าตัวไม่ได้สนใจ รับรู้เพียงแต่ว่าเรือนร่างบอบบางตรงหน้านี้ทำเอาตัวเองแทบคลั่ง อยากจะกินให้หมดทุกส่วน อยากจะเก็บเอาไว้หมดทุกอย่าง แต่ก็ดูเหมือนกับว่าเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอ เท่าไหร่
ก็ไม่เต็มอิ่ม ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆว่าเด็กคนนี้จะทำให้เกิดความลุ่มหลงได้มากมายขนาดนี้
ค่ำคืนอันสุขสมของยูอิจิผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียนี่กระไร
แต่ในทางตรงกันข้ามค่ำคืนที่แสนโหดร้ายของยามะพี...
นั้นมันสิ้นสุดเชื่องช้าเสียเหลือเกินจริงๆ
....
"วันนี้เราจะไปรับยูจังที่คลับเลยเหรอฮะจิน" เสียงหวานแหววของน้องชายคนเล็กของบ้าง อาคานิชิ เอ่ยถามขึ้นมาหน้าตาแป๋ว
"คิดว่าไง รึคิดว่ายูมันจะฟัดเพื่อนรักเราทั้งคืนจนไม่ได้นอนเลยรึไงกัน เจ้านั่นไม่ได้มีนิสัยอย่างนั้นสักหน่อย แก่แดดเกินไปแล้วนะฮิโรกิ" จินถามความเห็นกลับไปยังน้องชายของตัวเอง บีบจมูกรั้นด้วยความรักใคร่เอ็นดู
ท่าทางอย่างนี้สิ เจ้ายูถึงได้รัก ถึงได้หลงซะจนโงหัวไม่ขึ้นซะขนาดนั้น
"ก็รึว่าไม่จริงหละฮะ ฮิโระว่า โทโมะต้องดีกว่า ยัยมิจิโกะนั่นแน่ๆ อย่างน้อยก็ไม่ได้หวังมาเกาะเรากินหรอก" ฮิโรกิยืนยันคำเดิม ตามสัญชาตญาณของตนเอง เชื่อนักหนาว่ายูอิจิกับยามะพีจะลงเอยกันได้โดยง่ายดาย
"งั้นแวะไปดูสักหน่อยแล้วกัน ถ้ามันยังนอนไม่ตื่นหละก็ เราก็จะไม่เข้าไปกวน โอเคตามนี้" จินบอกคนขับอย่างนั้นทันที เพราะถ้ารอให้น้องชายตกลงเอง ท่าทางคงต้องรอเป็นชาติแน่ๆเลยทีเดียว
To be con…