หัวใจเจ้ากรรมราวกับร่วงหล่นจากอกซ้ายลงไปกองอยู่ที่ปลายเท้า ก่อนจะกระเด้งกระดอนเตลิดไปไกลเมื่อถูกริมฝีปากอุ่นร้อนแนบชิด
“อื้อ...”
เหลียงหลินฮวาพยายามจะร้องประท้วงทว่าการทำเช่นนั้นกลับเป็นการเปิดโอกาสให้สามีดันปลายลิ้นร้อนเข้ามาในโพรงปากรสหวาน และนั่นทำให้หญิงสาวถึงกับระทวยอ่อนไปทั้งร่าง
หัวสมองขาวโพลนราวกับถูกเมฆหมอกสีขาวกดทับ ภายในท้องดั่งมีผีเสื้อนับร้อยพันกระพือปีกหมุนวนจนหน่วงหนึบ เรือนกายสั่นเทิ้มอ่อนแรง ลมหายใจขาดห้วงเมื่อเขาปล้นปลิดมันไปอย่างฉกฉวย
แต่ทันทีที่หญิงสาวได้สตินางก็ดิ้นรนขัดขืน พยายามใช้ฟันหมายจะกัดลิ้นสามีแต่คนตัวโตรู้ทันจึงได้ปล่อยริมฝีปากให้เป็นอิสระ รักษาลิ้นของตนไม่ให้ถูกกัดได้อย่างเฉียดฉิว
“ท่านโหว!”
ความโกรธทำให้หลินฮวาเงื้อมือหมายจะทำร้ายเขา ทว่าจางเซียวหยางกลับคว้ามือเล็กบอบบางแล้วตรึงมันไว้เหนือศีรษะก่อนจะกดเบียดริมฝีปากลงไปอีกครา แน่นอนว่าครานี้เขาไม่ได้สอดลิ้นเข้าไป แต่จงใจเบียดชิดขบเม้มริมฝีปากอวบอิ่มอย่างเหย้าแย่
หูอื้อ ตาลาย หัวใจสั่น
เหลียงหลินฮวารู้สึกราวกับพื้นห้องโคลงเคลงจนแทบหยัดกายยืนไม่ไหว มึนเมาไปกับรสจูบช่ำชองของสามีจนอ่อนระทวยไปทั้งสรรพางค์กาย
ดังนั้นทันทีที่เขาถอนริมฝีปากและปล่อยนางออกจากอ้อมแขน ร่างเล็กบอบบางก็ถึงกับทรุดฮวบลงไปกองกับพื้นราวกับไร้เรี่ยวแรงที่จะหยัดยืน
“เป็นจริงดังเจ้าว่า ภรรยาข้าหาใช่สตรีตายด้าน...”
หญิงสาวอ้าปากค้าง ด้วยไม่คิดว่าที่สามีจูบนางเป็นเพราะคำพูดของตนเอง ตะ...แต่ไม่จำเป็นต้องพิสูจน์เลยสักนิด นั่นมันจูบแรกของข้านะ
จูบแรกของข้า!
“ข้าจะหย่ากับท่าน!”
ความโกรธทำให้นางตะคอกออกไปเสียงดัง และนั่นทำให้โหวหนุ่มยอบกายลงมาแล้วจับปลายคางของภรรยาสาวเอาไว้ ก่อนจะเอื้อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แววตากร้าวจริงจังจนคนตัวเล็กรู้สึกหวาดหวั่น
“ข้าไม่หย่า...”
“...”
เหลียงหลินฮวาอ้าปากค้างพูดอะไรไม่ออก นิ้วมือสากที่จับปลายคางของนางค่อยๆ ถูไล้จากปลายคางไปยังนวลแก้มแผ่วเบา และนั่นทำให้หัวใจของคนตัวเล็กเต้นผิดจังหวะไปกับสัมผัสของผู้เป็นสามี
+++++++
“ท่านโหวอะไรกัน น้องหญิงควรเรียกข้าว่าท่านพี่มิใช่หรือ”
ชายหนุ่มทวงถามอย่างหน้าไม่อาย มิหนำซ้ำยังยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ จนลมหายใจร้อนเป่ารดพวงแก้มของหญิงสาว
หลินฮวาไม่ได้ก้าวถอยหนีแต่กลับยื่นนิ่งตัวแข็งราวกับทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อตั้งสติได้นางจึงเชิดหน้าขึ้นน้อยๆ ก่อนจะเอ่ยออกไปว่า
“ข้าเห็นว่าไม่สมควรที่จะเรียกอย่างสนิมสนมเช่นนั้น เพราะถึงอย่างไรข้าก็จะหย่ากับท่านโหว”
“ยังไม่ล้มเลิกความคิดนี้อีกหรือ”
ชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูง เขามองหญิงสาวราวกับเห็นลูกแมวสีขาวปุกปุยกำลังทำท่าขู่ฟ่อๆ ดั่งตัวเองเป็นราชสีห์ ซึ่งยิ่งนางทำหน้าบึ้งและขู่ว่าจะหย่ามากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งอยากแกล้ง อยากหยอกเย้า และอยากบีบแก้มพองๆ นั่นเสียเหลือเกิน
ไวกว่าความคิด ชายหนุ่มยื่นสองมือไปบีบแก้มทั้งสองข้างของหญิงสาว
“อื้อ...”
หลินฮวาส่งเสียงร้องประท้วง ก้าวถอยหลังแล้วปัดมือเขาออก ก่อนจะยกมือลูบแก้มตัวเองที่แดงระเรื่อจากการถูกบีบ
“นี่แก้มนะเจ้าคะไม่ใช้ก้อนแป้งที่ท่านจะบีบจะขยำโดยไม่ถนอมเช่นนี้”
หญิงสาวตวาดแหว ทว่าผู้เป็นสามีกลับยังลอยหน้าไม่สำนึกผิด อีกทั้งยังสาวเท้าก้าวเข้าหา
“ต้องถนอมแบบนี้หรือ”
ไวโดยที่ฮูหยินสาวยังไม่ทันตั้งตัวสามีก็โน้มใบหน้าลงมาแล้วใช้ปลายจมูกโด่งฝังลงบนแก้มนุ่มๆ ฟอดใหญ่
“ท่านโหว!”
หญิงสาวพูดไม่ออกได้แต่อ้าปากค้างที่จู่ๆ ก็ถูกขโมยหอมแก้มไปอย่างหน้าไม่อายถู
“นี่คือวิธีสัมผัสแก้มสตรีที่ถูกต้องใช้หรือไม่ ไม่ควรบีบ แต่ควรหอมอย่างทะนุถนอม”
เขาเอ่ยถามโดยใช้คำพูดของนางมาพลิกลิ้นอย่างยียวน และนั่นทำให้เหลียงหลินฮวาถึงกับพูดไม่ออก ท้ายที่สุดจึงหมุนตัวแล้วเดินหนีไปเสียดื้อๆ
“เดินหนีอีกแล้ว คราวก่อนก็เดินหนีแบบนี้”
โหวจางเซียวหยางมองตามไล่หลังพลางยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ โดยลืมไปว่าพ่อบ้านกงและผู้ช่วยเหอยังคงยืนอยู่ด้านหลัง ทั้งสองมีสีหน้ากระอักกระอ่วนไม่น้อยด้วยไม่เคยเห็นมุมนี้ของเจ้านายมาก่อน
ท่านโหวหยอกเย้าฮูหยินงั้นหรือ! สงสัยพรุ่งนี้พระอาทิตย์คงจะขึ้นทางทิศตะวันตกเสียแล้ว