"อุ้ย!"
นวลอุทานออกมาเบาๆเมื่อพบร่างหนาอันคุ้นเคยยืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ สายตาคู่นั้นจับจ้องมายังเรือนร่างของตนที่ยังสวมเสื้อผ้าไม่เสร็จ เอื้อนเหมือนรู้ใจ รีบผละออกไปจากห้องนั้นทันที
ร่างสูงใหญ่ก้าวย่างเข้ามาใกล้ นวลกระชับเสื้อไว้แน่น มือน้อยสาละวนกลัดกระดุมให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ พลันมือใหญ่ก็ยกขึ้นเกาะกุมทาบทับ เสียงหวานทักท้วง
“ขะ.. ข้ายังสวมเสื้อผ้าไม่เสร็จ”
พระเพลิงหัวเราะเบา ๆ ก่อนจะขยับเข้ามาแนบชิดพลางก้มลงมากระซิบแนบใบหู
“ข้าชอบเวลาที่เจ้าไม่สวมเสื้อผ้า”
นวลหน้าแดงขืนตัวไว้ พยายามหลีกหนีจากของอ้อมแขนแข็งแรง แต่ยิ่งหนีเหมือนยิ่งโดนรัดแนบแน่น จมูกโด่งเริ่มเลื้อยไล้ซุกไซร้ไปทั่วซอกคอระหง เสียงทุ้มครวญกระเส่าสั่น
“ยอดรักของข้า ข้ามิเคยหักห้ามใจได้สักครายามได้อยู่ใกล้เจ้า เจ้าหอม เจ้าหวาน ข้าอยากจะกลืนกินเจ้าเสียเหลือเกิน”
พูดพลางขยับไล้ไต่ต่ำลงมายังกลีบปากอวบอิ่มที่ไหวระริกคู่นั้น มันสั่นเทาเบา ๆ เนื่องด้วยความขลาดกลัวส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนเกิดจากความหวามไหวในเรือนกายที่สาวเจ้ามิเคยพานพบ
ปากหนาขยับมาหมายจะประทับลงบนกลีบกุหลาบงาม หากแต่นางเบือนหน้าหนีก่อนเอ่ยทักท้วง
“ท่านรอหญิงที่เคยเป็นเมียท่านมิใช่หรือ”
“ใช่ ข้ารอเพียงหญิงที่เคยเป็นเมียข้า ข้ารักนางเหลือเกิน หากข้าได้พานพบนางอีกครา ข้าจักรัก จักสัมผัส จักกลืนกินคราแล้วคราเล่าให้สาแก่ใจ”