Rodentia : แทะกระจาย วายร้ายของไอ้เหยิน (อ่านฟรีห้าตอนแรก)
DIN THINKR : เขียน/งานเขียนลำดับที่ : 66
หมวดหมู่ : love novel / แฟนตาซี / Interstellar / Beastkin / Werebeasts
Novel Summary
กาแลกติกเคลด หลังสงครามกาแล็กติกขับไล่เซิร์คครั้งใหญ่จบลง เจ้าชายทาเมียส โรเดนเธียน จอมพลผู้บัญชาการสงครามสูงสุด ทรงได้รับบาดเจ็บสาหัสทั้งร่างกายและพลังวิญญาณจากพิษราชินีแมลง ฝ่าบาทซ่อนตัวและบาดแผล เร้นกาย จางหายจากแผ่นดิน
อีกที่หนึ่ง หลังบำเพ็ญวิญญาณยาวนานกว่า 8,000 ปีบนเทือกเขาจิตวิญญาณ เจ้าแครอทแดงแห่งอาณาจักรพืชก็ถึงกาลเก็บเกี่ยวสายฟ้าเก้าอัสนีเพื่อฝ่าวิบากทดสอบสุดท้ายเลื่อนขั้นเซียน
วันนั้นเหนือชะง่อนผาสูงเทียมฟ้า เจ็ดสายฟ้าทึ้งวิญญาณ ร่างสีแดงแตกสลาย หัวผักชีขาดสะบั้น อัสนีที่แปดหนักหมื่นชั่งฟาดฟันไม่เหลือแม้เศษวิญญาณ
หงซื่อ 红 Hóngxě xr̒
แคร์รอต (carrot) ผักจำพวกรากโดยทั่วไปมีสีส้ม แต่ก็ปรากฏพันธุ์ปลูกสีม่วง ดำ แดง ขาว และเหลือง ทั้งหมดนี้ได้รับการปรับปรุงพันธุ์มาจากแคร์รอตป่า (Daucus carota)
ทาเมียส โรเดนเธียน Tamias Rodentian
แวร์บีสต์ (Werebeasts) หรือบีสกิน (beastkin) มนุษย์ครึ่งสัตว์ ที่มีพรสวรรค์เวทมนต์และความสามารถในการแปลงร่างเป็นสัตว์สายพันธุ์ใดสายพันหนึ่งได้อย่างสมบูรณ์
ชิปมังก์ (chipmunk) กระรอกดินจำพวกหนึ่ง ลักษณะคล้ายกับกระเล็น เป็นกระรอกขนาดเล็ก และมีลายแถบเป็นริ้วสีขาวและดำคล้ำลากผ่านบริเวณใบหน้าทั้งสองด้าน หลัง และหาง สีขนตามลำตัวจะแตกต่างกันออกไปตั้งแต่สีเทาจนถึงสีน้ำตาลออกแดงต่างกันตามแต่ชนิด มีหางที่มีขนเป็นพวงฟูต่างจากกระเล็น ความยาวประมาณ 3–4 นิ้ว นอกจากนี้แล้วชิปมังก์ยังมีกระพุ้งแก้มที่ใช้สำหรับเก็บอาหารได้อีกด้วย
ชิปมังก์จะสร้างโพรงในระดับต่ำกว่าพื้นดิน ทางเข้าจะมีการปิดบังไว้ใต้ก้อนหินหรือพุ่มไม้ต่างๆ เป็นอย่างดี แม้จะอยู่ในโพรงแล้วก็ตาม ชิปมังก์ก็ยังเป็นสัตว์ที่ตื่นตัวตลอดเวลา มีการระแวดระวังภัยสูง เป็นสัตว์ที่กินอาหารได้หลากหลาย แต่ส่วนมากจะเป็นลูกไม้ชนิดต่างๆ แม้กระทั่งลูกไม้ที่มีเปลือกแข็ง, ถั่ว, เมล็ดพืช, ข้าว, ไข่นก, แมลง แม้กระทั่งเห็ดรา
ฤดูผสมพันธุ์ในช่วงต้นฤดูใบไม้ผลิของทุกปี ตัวเมียออกลูกครอกละ 2–8 ตัว ลูกชิปมังก์จะอยู่กับพ่อแม่เป็นเวลา 2 เดือนและหลังจากนั้นจะจากไปหาอาหารด้วยตนเอง หลังจากผ่านไป 5 เดือน ชิปมังก์วัยอ่อนจะเจริญเติบโตจนมีขนาดตัวโตเต็มวัย ในช่วงฤดูหนาวที่อากาศหนาว อาหารหายาก จะเข้าสู่การจำศีลด้วยการนอนอยู่นิ่งๆ ในโพรงของตัวเอง จนกว่าจะถึงฤดูร้อน
สัตว์ฟันแทะ (Rodent) หนึ่งในอันดับของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม สัตว์ฟันแทะมีถิ่นอาศัยอยู่หลายทวีปยกเว้นทวีปแอนตาร์กติกา วิธีการอยู่อาศัยของสัตว์ฟันแทะมีความหลากหลาย เช่นอาศัยบนต้นไม้ ขุดรูอาศัยใต้ดิน หรืออาศัยแบบครึ่งบกครึ่งน้ำ ชนิดของสัตว์ฟันแทะที่มนุษย์รู้จักกันเป็นอย่างดีได้แก่ หนู กระรอก แพรรีด็อก เม่น ชิปมังก์ เม่น บีเวอร์ หนูตะเภา แฮมสเตอร์ เจอร์บิล แคพิบารา เป็นต้น
ในขณะที่กระต่าย กระต่ายแจ็ก กระแต ไพกา ตุ่น และชูการ์ไกลเดอร์ไม่ถูกนับว่าเป็นสัตว์ฟันแทะถึงแม้จะมีรูปลักษณะภายนอกที่คล้ายคลึงกัน และกระต่าย กระต่ายแจ็ก และไพกามีฟันดัดหน้าที่สามารถเติบโตได้เรื่อยๆ แต่มีจำนวนฟันที่ไม่เท่ากัน และมีพฤติกรรมการเคี้ยวที่ต่างจากสัตว์ฟันแทะ อีกทั้งสัตว์เหล่านี้มีประวัติการวิวัฒนาการที่แตกต่างจากสัตว์ฟันแทะที่แท้จริง จึงได้ถูกจัดให้อยู่ในอันดับกระต่าย โดยอันดับกระต่ายและอันดับสัตว์ฟันแทะเป็น "พี่น้อง" ซึ่งมีบรรพบุรุษร่วมกันที่ฐานและสร้างเคลดที่มีชื่อกลิเรส (Glires)
สัตว์ฟันแทะส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก ร่างกายแข็งแรง ขาสั้น หางยาว มีฟันตัดหน้าที่คมเหมาะสมสำหรับการแทะอาหาร ขุด และป้องกันตัวเอง โดยส่วนมากจะกินเมล็ดหรือวัสดุจากพืช สัตว์ฟันแทะเป็นสัตว์สังคมซึ่งอยู่เป็นกลุ่มและมีวิธีการสื่อสารที่ซับซ้อน นอกจากนี้การผสมพันธุ์ระหว่างสัตว์ในอันดับนี้มีตั้งแต่แบบผัวเดียวเมียเดียว ผัวเดียวหลายเมีย และสำส่อน ซากฟอสซิลที่เก่าแก่ที่สุดของสัตว์ฟันแทะมีอายุตั้งแต่สมัยพาลีโอซีนบนมหาทวีปลอเรเชีย ความหลากหลายทางชนิดพันธุ์ของสัตว์ฟันแทะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงสมัยอีโอซีน
ถูกใจใช้เหรียญ! ไขกุญแจอ่านฟรี! เหมาๆผ่านอีบุ๊ก!
*เหตุการณ์ สถานที่ เนื้อเรื่อง คือจินตนาการของผู้แต่ง โปรดใช้วิจารณญาณในการเสพสื่อ วรรณกรรมในมือท่านเป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้นเพื่อความบันเทิงเท่านั้น