ในคุก...ไม่ได้สุขสบายนั่งแดกนอนแดกไปวันๆ แต่มันก็ไม่ได้ลำบากขนาดต้องแดกตีนแทนข้าวทุกวัน...
ไม่ไปทำตัวหมั่นส้นตีนใครก็ไม่ได้แดกตีนหรอก เป็นเด็กใหม่หัดเจียมเอาไว้บ้างก็ดี สัมมาคารวะ ความอ่อนน้อมให้มันเยอะหน่อย
คุกก็เหมือนเหมือนมหาวิทยาลัยระบบโซตัส “มาก่อนย่อมเป็นพี่ มาหลังย่อมเป็นน้อง” ต่างกันที่มหาวิทยาลัยมีไว้ดัดขดสมองแต่คุกมีไว้ดัดสันดานคน...
ภาคผนวก
ศัพท์คุกคุก
[1] กองเห็ด: การอยู่ในเรือนจำนั้นไม่ได้อยู่เฉยๆฟรีๆ ทางกรมราชทัณฑ์จะมีงานให้นักโทษทำ แล้วแต่ว่าเรือนจำไหนจะมีงานกองอะไรบ้าง เรียกกันเป็นกองๆ เช่น กองไม้ กองช่าง กองคลัง กองวินัย ในเรื่องจึงให้มีอยู่ไม่กี่กองเท่านั้น เช่น กองเกษตรกรรม กองคหกรรม กองซ่อมบำรุง และกองช่าง
[2] พ่อบ้าน : พ่อบ้าน เป็นการใช้เรียกคนที่เป็นพี่ใหญ่อยู่ในคุก เปรียบเสมือนเจ้าของบ้านที่ผู้มาเยือนหน้าใหม่ๆต้องให้ความเคารพและเกรงใจ
[3] แดนแรกรับ : เป็นแดนที่นักโทษที่เพิ่งถูกศาลพิพากษาจะมาอยู่กันในตอนแรก ใช้ชีวิตอยู่ประมาณสองสัปดาห์เพื่อดูพฤติกรรมของนักโทษก่อนจะแจกจ่ายนักโทษไปตามแดนต่างๆ ในเรื่องเป็นแดนที่ใช้รองรับนักโทษต่ำปีและพวกขาจรรอเปลี่ยนเรือนจำด้วย
[4] ตีนเปล่า : ปรกตินักโทษจะใส่รองเท้าผ้าใบสำหรับการฝึกและออกกำลังกายในตอนเช้าหรือลงงานตามกองต่างๆ เวลาที่อิสระก็ใส่รองเท้าแตะยาง แต่เมื่อมีการเยี่ยมญาติใกล้ชิด น้อยคนที่จะได้รับอนุญาตให้ใส่รองเท้า เพราะกลัวจะเกิดการส่งมอบของผิดกฎหมายซึ่งอาจหลุดรอดจากการตรวจค้นแล้วซุกในรองเท้า
[5] พบ.: พบ. ย่อมาจาก สถานพยาบาล หรือห้องพยาบาลของเรือนจำ ปรกติแล้วจะเป็นบ้านหลังเล็กๆเลยไว้รองรับนักโทษที่มีอาการป่วย แต่ในเรื่องให้เป็นห้องขนาดเล็กเท่านั้น
[6] คูปองซื้ออาหาร : การเข้าเยี่ยมนักโทษแบบใกล้ชิดไม่อนุญาตให้พกเงินเข้าไปด้วย ทางเรือนจำจะมีคูปองอาหารให้แลกไว้ก่อนเข้าเยี่ยม ใช้ได้แค่คูปองเท่านั้น
[7] ตีเยี่ยม : การเยี่ยมญาติแบบธรรมดา จะเปิดให้เยี่ยมในวันธรรมดาคือจันทร์ ถึง ศุกร์ งดเว้นวันหยุดราชการ ในการพบเจอของญาติกับผู้ต้องหาจะได้คุยกันผ่านสายโทรศัพท์ มีกระจกหนากั้นกลาง เปิดให้ญาติเข้าเยี่ยมเป็นชุดๆ ชุดละ 10-20 คน เวลาในการเยี่ยมอยู่ที่ 20-30 นาทีเท่านั้น
[8] ซอย : ซอย คือห้องขังเดี่ยว ใช้ขังนักโทษที่ก่อเหตุการณ์วิวาทหรือทำผิดกฎระเบียบ บางครั้งผู้คุมจะซ้อมนักโทษก่อนจนสะบักสะบอมและโยนเข้าซอย ถูกขังในที่แคบๆตามเวลาที่ผู้คุมกำหนด
[9] NFT : Nutrient Film Technique เป็นการปลูกพืชในน้ำโดยให้สารละลายธาตุอาหารไหลผ่านรากพืชเป็นแผ่นฟิล์มบางๆประมาณ 3 มิลลิเมตร เป็นเทคนิคไฮโดรโปนิกส์ที่นิยมปลูกกับผักสลัดชนิดต่างๆ
[10] คาบ : คาบ หมายถึงช่วงเวลาที่พืชใช้ในการออกผลิตผล มักใช้กับพืชผักที่มีอายุสั้นๆ หรือเรียกอีกอย่างว่า คาบเก็บเกี่ยว
ไม่มีใคร...อยากเป็นคนเลว
ไม่ว่าผมเอง...หรือคุณ
บทนำ...
เสียงฝีเท้าบวกเสียงลมหายใจหอบกระชั้นเพราะความเหนื่อย รองเท้าคู่เก่าซอมซ่อย่ำลงบนความชื้นแฉะโสมมของพื้นที่ในตรอกซอยแคบๆ แต่กลิ่นขยะเน่าเหม็นบูดชวนอ้วกนั่นก็ไม่ได้ทำให้คนที่ออกแรงวิ่งอยู่สนใจมากกว่าต้องพาตัวเองหนีให้ได้
รองเท้าหนังมันวาว ที่ส้นเสริมด้วยโลหะที่คิดว่าถ้าเตะเสยปลายคางสักทีคงร่วงพับ แม่งมาทำติดต่อขอซื้อยาทั้งที่ใส่คอมแบทมา ตำรวจเดี๋ยวนี้แม่งโง่หรือไม่มีสมองกันแน่
ภาคินนึกเยาะผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ในใจ เลี้ยวซอยข้างหน้าจะมีทางทะลุไปร้านขายของชำที่อยู่อีกซอย เป็นทางที่คนในพื้นที่เท่านั้นที่จะรู้ว่ามีอยู่ และ ภาคินเองก็ใช้ทางนี้ในการหลบหนีตำรวจมาหลายครั้งแล้วเช่นกัน
...ก็หวังว่าคราวนี้จะรอดเหมือนทุกครั้งล่ะนะ
ภาคินเลี้ยวขวาตามที่ตั้งใจ มีช่องเล็กๆอยู่ตรงกำแพงสังกะสีผุพัง
...ทางหมา
ไอ้ทางที่ว่าคือทางหมา นั่นแหล่ะ...แตกต่างอะไรเมื่อเวลาภาคินวิ่งหนีตำรวจสภาพก็คล้ายหมาวิ่งหนีประทัดหรือพลุนั่นแหล่ะ
มันลนลาน หาทางรอด หาที่ซุกซ่อน...
ไม่ต่างอะไรกันหรอก...
ไม่ต้องตริตรองอะไร ภาคินก้มตัวมุดเข้าช่องหมาลอดนั่นอย่างง่ายดายเพราะความเคยชิน แว๊บเดียวทั้งตัวก็ไปโผล่อีกซอยได้อย่างง่ายดาย หลังร้านของชำยังเกลื่อนด้วยขยะและน้ำเน่าเหมือนเดิม ชายหนุ่มลุกขึ้นปัดเสื้อผ้า มองซ้ายขวาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจก่อนยกหมวกฮู้ดขึ้นสวมหัว เดินเนียนๆออกทางหน้าร้านคล้ายคนมาซื้อของธรรมดา
รอยยิ้มของผู้ชนะปรากฏที่มุมปาก...ท้ายที่สุดก็รอดอีกตามเคยสินะ...
ทว่าเพียงก้าวออกจากร้านของชำไม่กี่ก้าวทั้งตัวก็ต้องล้มพับไปกองกับพื้น แรงหวดหนักๆปะทะลงที่ท้ายทอย ภาคินร้องโอ้ยดังลั่น ยกมือกุมท้ายท้อยอัตโนมัติ รู้สึกแสบที่คิ้ว คงไปถูพื้นซีเมนต์เอาตอนล้ม
“มึงคิดว่าทางหนีเดิมๆจะช่วยมึงได้หรือไงไอ้สัดภาคิน”เสียงกัมปนาทเหมือนดังอยู่ข้างหู คงเพราะสมองมันมึนจากการโดนกระแทกอย่างจัง คอเสื้อของภาคินถูกกระชากขึ้นเขย่า ปรือตามองเห็นใบหน้าที่คุ้นเคย
...ไอ้เหี้ยผู้กองไผ่
ยิ้มเยาะให้ตัวเอง...
ตำรวจแม่งก็ไม่ได้โง่ตลอดนี่หว่า...
“โบกมือลาคำนำหน้าชื่อว่านายได้เลยมึง ภาคิน...เตรียมใช้คำว่า ‘นักโทษชาย’ แทนได้แล้ว”
สวัสดีค่า ไรท์เตอร์จี่เอง เรื่องนี้แปลงมาจากฟิคชั่นให้คนที่ไม่อ่านฟิคชั่น นิยมเสพแต่วายไทยได้ลองอ่านกัน ถ้ามีข้อความไหนที่ถูกแปลงไม่หมดสามารถชี้บอกได้นะคะ ^^
เรื่องนี้ลงในเล้าไปหลายตอนมากแล้ว แต่เพิ่งมาลงที่นี่ค่ะ เอ็นดูกันด้วยนาจาาาาา ^^ จะอัพเดตทุกวันถ้าทำได้ค่ะเพราะเรื่องเขียนจบแล้ว
สามารถติดตามการอัพเดตต่างๆได้ในเฟสบุ้คเลยจ้าาาาา
แมลงจี่
แมลงจี่