พิมพ์ลดาจ้องมองเจ้าแท่งสีขาวที่วางอยู่บนเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าด้วยหัวใจที่เต้นระทึก เธอได้แต่ภาวนาอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าขออย่าให้เป็นอย่างที่คิดเลย แต่แล้วสวรรค์ก็ไม่เข้าข้างเพราะเจ้าแท่งนั้นปรากฎขีดสีแดงสองขีดอย่างชัดเจน เธอท้อง!!!
“จะทำยังไงดี” นั่นคือประโยคแรกที่เธอถามตัวเอง เพราะเธอยังไม่ได้แต่งงานไม่มีสามี ใช่! เธอไม่ได้แต่งงานมีสามีแต่ผู้ชายที่เธอมีความสัมพันธ์ด้วยจนเป็นที่มาของสองขีดแดงๆ นั่นคือ ภัทร พิริยะ ท่านประธานแห่งพิริยะคอนสตรัคชั่นบริษัทก่อสร้างยักษ์ใหญ่ระดับหมื่นล้าน เขาคือพ่อของเด็กอย่างไม่ต้องสงสัยเพราะชีวิตนี้เขาเป็นผู้ชายคนเดียวที่เธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งด้วย แถมเป็นความสัมพันธ์ที่เธอไม่ได้เต็มใจตั้งแต่แรกแต่ต้องพ่ายแพ้ให้แก่ความเจ้าเล่ห์ของเขาเพื่อเอาตัวรอด แล้วเธอจะทำยังไงดีเพราะตอนนี้ความสัมพันธ์ของเธอและเขาได้จบลงแล้ว และเป็นเธอที่สะบัดหน้าจากมาอย่างไม่ใยดีเมื่อล่วงรู้ถึงแผนการชั่วร้ายที่เขาวางแผนให้เธอต้องจำยอมเป็นของเล่นของเขา เธอไม่มีทางซมซนกลับไปเรียกร้องขอความรับผิดชอบให้ถูกเขาเยาะเย้ยแน่นอนว่าเธอไปไม่รอด ลูกคนเดียวเธอเลี้ยงได้ แต่พิมพ์ลดาประมาทคนอย่างภัทร พิริยะ เกินไป เขาไม่มีทางยอมปล่อยให้ทายาทคนแรกของตระกูลต้องถูกพรากไปอย่างแน่นอน เมื่อเรื่องรู้ไปถึงหูเขาพิมพ์ลดาก็ถูกพากลับเข้ากรงทองที่เธอไม่มีวันบินหนีไปไหนได้อีก
“คุณไม่มีสิทธิ์กักขังฉันไว้แบบนี้นะ”
“ผมขังคุณที่ไหน อยู่ที่นี่มีคนคอยดูแลล้อมหน้าล้อมหลัง คุณจะมีชีวิตสุขสบายราวกับเจ้าหญิง”
“แต่ฉันอยากกลับบ้าน”
“ต่อแต่นี้ไปบ้านคุณคือที่นี่”
“คุณทำแบบนี้ เพราะคุณคิดจะแย่งลูกไปจากฉันใช่ไหม”
“เปล่า”
“แล้วคุณทำแบบนี้ทำไม ทำไมไม่ปล่อยฉันไปใช้ชีวิตของฉัน ลูกคนเดียวฉันเลี้ยงได้”
“ผมไม่ได้คิดจะแย่งลูกมาจากคุณ แต่ผมจะเอาทั้งลูกทั้งเมีย เลิกฝันไปได้เลยเรื่องจะเลี้ยงลูกคนเดียวในเมื่อพ่ออย่างผมยืนหัวโด่อยู่นี่ ผมจะไม่ยอมเสียอะไรไปทั้งนั้นไม่ว่าจะลูกหรือเมีย”
“ฉันไม่ใช่เมียคุณ”
“แล้วไอ้ที่อยู่ในท้องเนี่ย เรานอนจับมือกันหรือเดินผ่านกันแล้วคุณท้องขึ้นมาได้เหรอ”
“ไอ้คนบ้า”
“งั้นก็ทำใจซะทูนหัวว่าคุณมีผัวบ้า”