'เด็กชายภานุกรแอบมองเด็กหญิงสาวที่กำลังวิ่งเล่นอยู่ในสวน เด็ก คนนั้นที่เพิ่งจะย้ายเข้ามาอยู่ในบ้านได้เพียงไม่กี่วัน และดูเหมือนว่าใครๆก็เอ็นดูเธอเป็นพิเศษ โดยเฉพาะคุณปู่คุณย่าของเขา ซึ้งเป็นคนที่รับเด็กหญิงสาวเข้ามาอยู่ภายในบ้านภายในบ้านหลังนี้
อโรชา นั้นคือชื่อของเด็กหญิงสาว ก่อนหน้านี้เด็กหญิงสาววัยสามขวบเขาได้สูญเสียผู้เป็นบิดาและมารดาโดยกระทันหันด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เธอจึงได้อาศัยอยู่กับตาเพียงสองคนจนเธออายุได้ห้าขวบ แต่บัดนี้ผู้เป็นตาได้จากเธอไปด้วยโรคชรา และคุณปู่คุณย่าของภาณุภรซึ่งเป็นเพื่อนรักกับคุณตาของอโรชา จึงได้ไปรับตัวเด็กหญิงสาวมา อุปการะเลี้ยงดูเหมือนหลานแท้ๆ เมื่อไม่กี่วันก่อน
เด็กหญิง อโรชากำลังวิ่งเล่นกับแมวอยู่ภายในสวนซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับแปลงดอกกุหลาบ แล้วๆจู่ๆ ก็หยุดชะงักลงแล้วหันไปให้ความสนใจกับดอกกุหลาบที่มีสีสันสวยงามที่กำลังผลิบาน เต็มแปลง เด็กหญิงยื่นมือไปประคองดอกกุหลาบช่องหนึ่งไว้ แล้วกำลังจะล้มหน้าลงสูดดมกลิ่นของมัน
และแล้วก็ทำท่าจะเด็ด…
“ห้ามเด็ดนะ!!!”
เด็กชายรีบวิ่งออกจากหลังประตูที่แอบซ่อนอยู่ เด็กหญิงผงะด้วยความตกใจ รีบปล่อยมือออกจากช่อกุหลาบ ทว่าด้วยความไม่ทันระวัง นิ้วเล็กจึงเกี่ยวเข้ากับหนามกุหลาบเต็มๆ
“โอ๊ย!!!” อโรชารีบหงายนิ้วขึ้นมาดู เห็นรอยเลือดพากป็นทางยาว เมื่อเห็นเลือดบวกกับความรู้สึกเจ็บน้ำตาของเด็กหญิงจึงเอ่อคลอ
“ก็ บอกแล้วไงอย่าเด็ด” ภานุกรใจคอไม่ดีเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายบาดเจ็บ แต่เขาก็ยังไม่มีท่าที่ว่าจะเข้าไปดูด้วยความห่วงใย เนื่องจากก่อนหน้านี้พวกเขาไม่เคยคุยกันมาก่อน
“หนูไม่ได้เด็ดค่ะ หนูแค่อยากจับมันดูเฉยๆ”เด็กหญิงโต้ด้วยน้ำเสียงสั่น ทันใดนั้นน้ำตาหยดเล็กๆก็ร่วงเผาะอาบลงบนแก้ว
“ฮือๆ”
เด็กชายกำลังคิดจะเดินเข้าไปดูแผลที่มือของอีกฝ่าย แต่แล้วก็กลับมีร่างของใครคนนึงที่สูงกว่าเขาวิ่งตัดหน้าเข้ามาเสียก่อน
“น้องมายด์”
ไตรฉัตร เด็กชายร่างสูงที่จะกลายเป็นหนุ่นในอีกไม่นานรีบตรงเข้าไปดูเด็กหญิงซึ้งกำลังร้องไห้ ฝ่ายนั้นคุกเข่าลงและคว้ามือเล็กไปสำรวจ
“น้องมายด์เลือกออก” พูดพลางหันไปมองภานุกรที่ยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง
“ฝีมือของนายใช่ไหม ชอบแกล้งน้อง”
“อะไร! คราวนี้ฉันเปล่าทำนะ”
ทำไม ใครๆ ก็มันโยนความผิดให้เขาเป็นอันดับแรกเสมอ ทั้งที่เขายังไม่ได้ทำอะไรเลย เด็กนั่นแค่ตกใจแล้วปล่อยให้หนามตำนิ้วมือตัวเอง มันไม่ใช่ความผิดของเขาเสียหน่อย
ในวันแรกที่เจอกันกับเด็กหญิงก็เช่นกัน เขาแค่แอบไปยืนอยู่ด้านหลังของเด็กหญิงแล้วกระตุกผมเปียยาวๆ นั่นเป็นการทักทาย แต่เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเธอถึงต้องร้องให้ จนไตรฉัตรซึ้งบังเอิญมาเห็นเข้าถึงกับตำหนิเขาและเอาเรื่องนั้นไปฟ้องคุณย่า ทำให้เขาโดนคุณย่าดุเบาๆ แต่เขาไม่คิดว่ามันเป็นความผิดร้ายแรงอะไรนะ ก็แค่อยากจะเล่นด้วยและทำความรู้จักกับอีกฝ่ายเท่านั้นเอง
“หนูโดนหนามกุหลาบตำค่ะ” อโรชาพูกพร้อมกับสะอื้นเบาๆ
ไตรฉัตรเบือนหน้ากลับมาดูแผลให้เด็กหญิง
“อย่าร้องนะน้องมายด์ แผลนิดเดียวเอง เดียวพี่พาไปทำแผลนะ” เขาลูบศรีษะของอโรชาอย่างปลอบใจ
“ส่วนนาย…”ไตรฉัตรหันไปพูดกับภานุกร “ทีหลังก็อยู่ห่างๆ น้องมายด์เอาไว้ น้องอยู่กับนายทีไร เป็นอันต้องร้องไห้ทุกที”
“เออ! ไม่ยุ่งด้วยหรอก” เด็กชายวัยสิบขวบโต้กลับ “ใครเขาอยากยุ่งด้วยวะ ยายเด็กขี้แย น่ารำคาญ”
เขาทำท่าเป็นยักษ์แยกเขี้ยวใส่อโรชา เด็กหญิงมองหน้าเขาแล้วทำท่าจะร้องไห้อีกครั้ง แต่ครามนี้ไตรฉัตรห้ามเอาไว้ก่อน
“อย่าไปสนใจเด็กเกเรเลย ต่อไปนี้น้องมายด์มาเล่นกับพี่นะ พี่จะพาไปเที่ยว แล้วก็พาไปกินขนมอร่อยๆ”
“จริงหรอคะพี่ไตร” เด็กหญิงใช้หลังมือปาดน้ำตาทิ้ง
“จริงสิครับ”
ภานุกร ยืนกอดอกมองภาพของทั้งคู่ที่กำลังคุยกันอย่างไม่ชอบใจนัก เด็กหญิงเงยหน้ามองเขาแวบหนึ่งแล้วรีบก้มหน้างุดต่อ แต่เด็กชายก็เห็นว่าบนดวงตากลมแป้นของอีกฝ่ายมีรอยยิ้มบางๆ เป็นเพราะว่ามีคนปลอบใจเธอ
อย่างที่บอกว่าใครๆในบ้านต่างก็รักและเอ็นดูเธอมากกว่าเขา หรือจะพูดให้ถูก อาจจะไม่มีใครเลยก็ได้ที่รักเขา ก่อนหน้านี้คุณย่าก็พูดว่ารักเขามากกว่าใคร แต่ตอนนี้ดูเหมือนคุณย่าจะปันใจไปให้เด็กผู้หญิงตรงหน้าเขาเสียแล้ว
เด็กชายเผลกำมือแน่นโดยไม่รู้ตัว
“เราไปกันเถอะ”
ไตรฉัตรจูงมือเล็กของอโชราออกไปจากตรงนี้ ทิ้งให้ภานุกรยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ราวกับคนนี่ไม่มีใครให้ความสำคัญ
ดอกกุหลาบที่กำลังบานสะพรั่งเป็นสิ่งเดียวที่เรียกร้องให้เขาเดินเข้าไปหา เด็กชายคุกเข่าลงตรงหน้ามัน มองช่อดอกที่ใหญ่ที่สุดด้วยความรู้สึกโหยหา แปลงกุหลาบแห่งนี้ เป็นสิ่งที่มารดาของเขาผู้ล่วงลับไปแล้วริเริ่มปลูก ตอนนี้มันเป็นเพียงตัวแทนที่ทำให้เขานึกถึงผู้เป็นมารดา
ภานุกรยังคงยืนอยู่ตรงนั้นอีกนาน แม้จะรู้ว่าไม่มีสิ่งใดในบริเวณนั้นรับรู้ถึงความรู้สึกของเขาในตอนนี้ได้เลยก็ตาม