ภีมภวัตอายุได้ 17 พ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตก เขาใช้ชีวิตอยู่ตัวคนเดียวโดยมี อาแท้ ๆ คอยดูแล และเป็นผู้จัดการมรดกให้ อาแท้ ๆ ของเขา ได้รับอุปการะเด็กหญิงคนหนึ่งในวัย 11 ขวบ ตอนเด็ก ๆ ภีมภวัตจะชอบแกล้งน้องอยู่เป็นประจำ ยุทธนาบอกกับภีมภวัตว่าโรสสิรินเป็นเด็กกำพร้าในมูลนิธิวิริยะพงษ์ของตระกูล ที่บิดามารดาของเขาจัดตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือเด็กกำพร้า ก่อนหน้าที่ท่านทั้งสองจะเสียชีวิตไปเพียงหนึ่งปี
ภีมภวัตขับรถยนต์กลับจากโรงเรียนและวันนั้นเป็นวันที่ เขาได้พบกับเธอเป็นครั้งแรกโดยยุทธนาพาโรสสิรินมาแนะนำตัวกับภีมภวัตในฐานะเจ้าของบ้าน ยุทธนาแนะนำโรสสิรินกับภีมภวัต เธอมองภีมภวัตด้วยสายตาอ่อนน้อมและรอยยิ้มสดใส แต่พอมองลึกเข้าไปในดวงตาของพี่ชายบุญธรรม เด็กหญิงโรสสิรินกลับเห็นแต่ความเย็นชาเคร่งขรึมและสุขุม แตกต่างกับคนที่อยู่ในวัยเดียวกัน แต่เด็กหญิงโรสสิรินรู้สึกว่าพี่ชายคนนี้น่าจะมีด้านที่ใครอาจมองไม่เห็น เธอรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเพียงแค่ได้อยู่ใกล้เขา ตั้งแต่วินาทีแรก
แม้สองพี่น้องต่างวัยจะอยู่คฤหาสน์หลังเดียวกันแต่พวกเขากลับไม่ได้เจอกันบ่อยนัก
ในขณะที่ภีมภวัตเรียนโรงเรียนชายล้วนส่วนโรสสิรินก็เรียนโรงเรียนหญิงล้วนซึ่งเป็นโรงเรียนประจำไม่ค่อยได้กลับคฤหาสน์ พบจบการศึกษามัธยมปลาย พี่ชายอย่างภีมภวัตก็ต้องไปเรียนต่อที่เมืองนอก
เวลาผ่านไปหกปี นางสาวโรสสิรินอายุครบสิบเจ็ดปีบริบูรณ์ เธอเดินทางกลับคฤหาสน์เพื่อฉลองวันเกิด และที่ตื่นเต้นไปกว่านั้นคือปีนี้เธอ ไม่ต้องฉลองวันเกิดเพียงลำพังกับเพื่อนร่วมหอพัก เพราะยุทธนาตั้งใจจะให้ทุกคนอยู่พร้อมหน้ากันในวันเกิดของเธอ วันนี้เธอตื่นเต้นและมีความสุขมากเมื่อทราบจากยุทธนาว่า ภีมภวัตที่เพิ่งจบการศึกษาจากฮาวาร์ดจะมาร่วมงานฉลองวันเกิดปีนี้ด้วย
ทันทีภีมภวัตกลับถึงคฤหาส ถึงกับตะลึงงันกับภาพที่เห็น หญิงสาวใบหน้ารูปไข่คิ้วโค้งเรียว ดวงตาสีดำกลมโตใสแป๋ว จมูกโด่งรั้นเชิดรับกับใบหน้าสวยริมฝีปากบางชมพูระเรื่อเธอมาในชุดเดรสเกาะอกสีขาวเผยให้เห็นเอวคอดกิ่วสะโพกกลมกลึงดันให้เห็นอกอวบซึ่งดูจะเกินอายุไปนิด เธอช่างสดใสน่ารัก ดั่งนางฟ้าทีเดียวในสายตาของภีมภวัต เรียวขาสวยเดินตรงไปยังที่นั่ง ที่ถูกจัดไว้ให้พร้อมกับส่งรอยยิ้มให้ภีมภวัต เขาหลงรักน้องสาวตัวเองเสียแล้วในตอนนี้