สวัสดีค่ะ คุณผู้อ่านที่รักของบานบุรีสีชมพูทุกท่าน ฝากนิยายเรื่องใหม่ด้วยนะคะ "ฟื้นครั้งนี้ฉันมีคู่หมั้นเป็นขุนนางจอมเย่อหยิ่ง" เรื่องราวของสาวโสดอาชีพครูสอนภาษาจีน ที่โชคชะตาฟ้าลิขิตให้ชีวิตต้องหลงยุค ทะลุมิติไปเป็นสาวชาวสวน มีคู่หมั้นเป็นขุนนางทั้งทีก็หยิ่งใช่เล่น ไหนจะแม่ของคู่หมั้นอีก มีเรื่องราวให้ปวดหัวเต็มไปหมด อยากรู้ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรและจบอย่างไร ต้องติดตามค่ะ
- เนื้อเรื่องทุกตัวอักษรแต่งขึ้นมาเพื่อเน้นความสนุกสนานที่มีเนื้อหาในสไตล์จีนโบราณเท่านั้น เป็นอีกหนึ่งในรูปแบบของนิยายรักที่ผู้เขียนอยากถ่ายทอด
- สำนวนภาษาไม่ได้จีนเป๊ะ ไม่ได้มีการอ้างอิงบุคคลและเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ชาติจีนใดๆ ทั้งสิ้น
-ก่อนอ่านวางความจริงจังความสมเหตุสมผลทิ้งไป มาเสพความบันเทิงแบบไม่คิดอะไรมากดีกว่าค่ะ อ่านแล้วอาจจะมีทั้งถูกใจและไม่ถูกใจ หากไม่ถูกใจรบกวนเลื่อนผ่าน และแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำสุภาพ
- ขอบพระคุณที่สนับสนุนผลงานค่ะ
..........................................
“ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว เจ้ากลับไปนั่งที่เดิมเถิด”
ชินเจินพูดพร้อมกับคลายอ้อมกอดที่รัดร่างเล็กออกด้วย จารินเห็นแล้วก็นึกหมั่นไส้ นี่เขาจะรังเกียจคู่หมั้นของตัวเองไปถึงไหน อ้อ นึกถึงเรื่องที่คุยกับน้องชายของจางจิ้งจารินก็ถึงบางอ้อ สองคนนี้หมั้นหมายกันตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่นี่นา เรื่องความรักความพิศวาสไม่ต้องพูดถึง คงไม่มีเลยแม้แต่น้อย แม่นางจางจิ้นไม่ได้อยู่ในสารระบบของคู่หมั้นแสนรัก แต่เป็นคู่หมั้นแสนชังสินะ
“เจ้าค่ะ”
จารินในร่างของจางจิ้ง ละกายออกมาจากอเอมแขนอบอุ่นมานั่งอยู่ที่เดิม แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีกเลย ส่วนชินเจินก็นั่งนิ่งเช่นกัน กายนิ่งแต่ใจกลับร้อนรุ่มอย่างประหลาด เพราะเพียงเขาหลับตาลงหัวสมองก็ดันจินตนาการเตลิดไปไกล สาเหตุก็มาจากการสัมผัสระหว่างเขาและคู่หมั้นสาวในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งมันไม่น่าเกิดขึ้นได้
ภาพในห้วงความคิดของผู้ตรวจการณ์รูปหล่อก็คือเมื่อร่างนุ่มนิ่มของจางจิ้งเจ้ามาอยู่ในอ้อมแขนแล้ว เขาก็รัดนางไว้แน่นจนร่างกายแนบชิดกันไปทุกส่วนสัด ปากหนาหยักของเขาก้มลงไปจุมพิตปากจิ้มลิ้มของคู่หมั้นสาวด้วยความรวดเร็ว มือใหญ่ที่โอบรัดร่างอรชรก็เคลื่อนไปทั่วแผ่นหลัง ในขณะที่ปากก็ยังทำหน้าที่อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ชินเจินเฝ้าเพียรจูบที่กลีบปากของจางจิ้งจนนางอ่อนระทวย