หลังจากอาบน้ำเสร็จแล้ว กุลนารีที่ยังไม่คุ้นชินกับบ้านหลังนี้เธอไม่กล้านุ่งกระโจมอกออกจากห้องน้ำ รวมถึงยังไม่ได้เตรียมชุดคลุมอาบน้ำมาจึงเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องน้ำให้เรียบร้อยก่อนจะเดินออกมา
ในตอนนั้นเองเธอก็พบว่าธเนศยืนพิงผนังตรงข้ามกับประตูห้องน้ำกอดอกมองเธอในชุดนอนตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับถอนหายใจแสดงความเสียดายออกมา
“เฮ้อ นึกว่าจะนุ่งผ้าขนหนู จะได้ขอดูคืน”
“แค่แก้มเห็นหนอนน้อยของพี่ต๊ะ ถึงขั้นจะมาดูกาบหอยยักษ์คืนเลยเหรอคะ” เธอถามกลับด้วยท่าทางยียวนไม่เกรงกลัวท่าทางคุกคามของเขาสักนิด
“อยากเห็นตอนหนอนขยายตัวไหมล่ะ คืนนี้ไปดูในห้องผมได้นะ”
“จะชวนไปดูหนอน หรือว่าจริงๆแล้วนอนไม่หลับแล้วอยากดูดนมของน้าแก้มนอนค่ะ เด็กดี” เธอตอบโต้ไปอย่างไม่มีท่าทีเกรงกลัวเขาเลยสักนิดจนธเนศหมดมุกที่จะแกล้งให้เธอกลัวเขา
“นี่เธอ!” เขาเริ่มตบะแตก ทำให้กุลนารียิ้มออกที่อีกฝ่ายเป็นฝ่ายแพ้ในศึกปะทะคารมยั่วยวนกวนประสาทกันในครั้งนี้
“พูดกับน้าแก้มดีๆนะครับ เดี๋ยวคืนนี้จะเข้าไปป้อนนมนอน” เธอจีบปากจีบคอพูดยั่วประสาทเขาด้วยการแทนตัวเองว่าน้า
“ให้เก่งจริงอย่างที่ปากพูดเถอะ ผู้หญิงอะไรไม่รู้จักกลัวผู้ชาย” เขาต่อว่าเธอแต่ในใจนั้นรู้สึกมีความสุขที่ได้ต่อปากต่อคำกับเธอแบบนี้
“ทำมาเป็นโวยวายกลบเกลื่อน รู้หรอกว่าชอบให้พูดแทะโลมแบบนี้” เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนธเนศต้องเป็นฝ่ายขยับออกห่างที่อีกฝ่ายเหมือนจะเอาจริง
“ฝากไว้ก่อนเถอะ คืนนี้ล็อกประตูดีๆก็แล้วกัน” เขาพูดขู่เธอ หน้าที่แดงก่ำนั้นไม่ใช่เพราะความโกรธ แต่เป็นเพราะเขากำลังใจเต้นกับผู้หญิงปากเก่งตรงหน้า
“หลานต๊ะก็อย่าล็อกห้องนะครับ เดี๋ยวคืนนี้น้าแก้มจะเข้าไปป้อนนม” เธอพูดแล้วก็เดินผ่านหน้าเขาเข้าห้องไป แอบยิ้มด้วยความสะใจที่ทำให้อีกฝ่ายหน้าแดงได้