"เพราะภรรยาของคุณ เริ่มแก่ เริ่มเหี่ยว
เริ่มไม่สวยอย่างเดิมแล้วใช่มั้ยครับ
คุณถึงเริ่มมองว่าคนอื่นน่าสนใจ
อยากลองอะไรใหม่ๆ เพราะเบื่อน้ำพริกถ้วยเก่า
...จากเมียคนเดิม...."
“แกคิดจะใช้คุณภิญเป็นสะพานทอดไปหาคุณศิลาใช่หรือเปล่า”
“ฮึ ตอนเด็กๆ ได้เรียนหนังสือกันมาหรือเปล่าครับ ถ้าแอบส่องผมมาตั้งแต่แรกก็น่าจะมีสมองคิดได้นะ ข้อหนึ่งผมทำงานอยู่ในร้านของผม ข้อสองคุณภิญเป็นฝ่ายเดินเข้ามาหาผมเอง ข้อสามเราคุยงานกันตามลำดับขั้นตอนในพื้นที่อันเหมาะสม ข้อสี่เราออกไปทานข้าวในร้านอาหารญี่ปุ่น ไม่ใช่โรงแรมม่านรูดลับตาคน ถ้าพวกคุณมากันสี่คน แต่ไม่สามารถรวบรวมสมองที่มีอยู่น้อยนิดคิดเรื่องง่ายๆ แค่นี้ได้ก็สมควรแล้วที่จะเป็นได้แค่ เมียทดลอง”
“นิลลดา มันจะมากเกินไปแล้วนะ”
“ตกลงว่าแกยอมรับใช่มั้ยว่าแกก็หวังจะเป็นเมียของคุณศิลาเหมือนกัน...ถึงได้พยายามเอาอกเอาใจ ทำตัวสนิทสนมชิดใกล้กับคุณภิญ”
“เท่าที่รู้...พวกเธอสี่คนก็อยู่ในรั้วบ้านหลังเดียวกันกับคุณภิญนี่ จะว่าไปแล้วน่าจะสนิทกับคุณภิญมากกว่าผมนะ กับเรื่องแค่ได้กินข้าวกินปลาร่วมโต๊ะอาหารกัน แค่นี้ไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลยจริงมั้ย”
“นั่นสิ ทำไมพวกคุณสี่คนต้องเดือดร้อนด้วย พี่นิลไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย” น้ำหวานขยับเดินมายืนเยื้องไปทางด้านหลังผมนิดหน่อย ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เหมือนอยากช่วยแต่ก็ไม่กล้าออกหน้ามากนัก ตามอย่างลักษณะนิสัยของคนที่ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเอง
“เป็นแค่เมียเก็บกระจอกๆ เงียบไปเถอะน้ำหวาน เธอเองก็ระวังตัวให้ดี...อย่าคิดว่าคุณศิลาเขาจริงจังด้วย”
“จุ๊ จุ๊ จุ๊ จุ๊ เบาๆ ครับ อิจฉาเบาๆ ริษยาแค่พองาม อย่าให้มันออกนอกหน้าจนเกินไปนัก ถ้าธุระของพวกคุณมันคือการเข้ามาแสดงอำนาจอภินิหารตำนานเมียน้อยหวงผัวล่ะก็ ผมเห็นแล้ว...รู้แล้วว่าหวงมาก คงคาดหวังที่จะได้นั่งบัลลังก์เมียน้อยหมายเลขหนึ่งมากสินะครับ ขนาดย้ายเข้าบ้านไปรับใช้ใกล้ชิดขนาดนั้น แต่น่าแปลกจังเลย...ทำไมพวกคุณ...ไม่เห็นมีใครท้องสักคน แล้วอย่างนี้....ต้องอยู่ให้คุณศิลาเอาฟรีๆ ไปอีกนานแค่ไหนครับ”