เธอเป็นเลขาจอมเฉิ่มของเขา ในสายตาของเธอ เขาทั้งดุ ทั้งปากร้ายและน่ากลัวเป็นที่สุด
ตัวอย่างบางช่วงบางตอน
“วะ! ว้าย” เธอร้องเมื่อเขากระชากแขนของเธอเอาไว้ นั่นทำให้เธอสะดุดขาตัวเองจนหกล้มลงบนตัวของเขา
ทัพพ์เองก็เสียหลักเพราะไม่คิดว่าเธอจะล้มลงมาทับบนตัวของเขา ทำให้ทั้งสองหกล้มไปด้วยกัน
“นี่คุณ!” ทัพพ์เสียงดังใส่คนเหนือร่างที่ทาบทับอยู่บนตัวของเขา แต่พอเธอเงยหน้าขึ้นมาเท่านั้นแหละ เขาก็ถึงกับตกตะลึง
แว่นหนาเตอะของเธอหลุดออกจากใบหน้าสวยหวานที่เขาไม่เคยได้เห็นชัดๆ เช่นนี้มาก่อน เพราะแว่นตาของเธอปิดบังใบหน้าอยู่เสมอ
“ขะ... ขอโทษค่ะท่านประธาน” วิจิตรารีบลุก ในขณะที่ทัพพ์แกล้งกอดรัดหล่อนเอาไว้แน่น
“ทะ... ท่านประธาน อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” เธอตะเกียกตะกายลุกขึ้น เลยล้มทับไปบนร่างของเขา ริมฝีปากจุ๊บไปที่ปากหนาเต็ม ๆ ทำเอาหล่อนถึงกับตาโต แก้มสาวแดงเรื่อร้อนผ่าว นึกในใจว่าคงต้องโดนเขาตำหนิอีกแน่ ๆ
“คุณนี่ซุ่มซ่ามจริงๆ เลย” เขาทำเสียงดุใส่ แกล้งกอดรัดเธอเอาไว้แน่น
“ปล่อยวิด้วยค่ะท่านประธาน” เธอเพิ่งรู้ว่าที่ลุกไม่ขึ้นก็เพราะว่าอ้อมแขนแกร่งของเขานี่แหละที่กอดรัดเธอเอาไว้แนบอก
“ก็คุณทับผมเอาไว้แบบนี้ ผมจะลุกได้ยังไงกันล่ะ” เขาพูดไปอีกทาง ในขณะที่ร่างกายของเธอทาบทับเขาอยู่
วิจิตราสายตาสั้นตั้งแต่เด็ก เธอจึงมองใบหน้าของเขาได้ไม่ชัดเจน ในขณะที่ทัพพ์มองใบหน้าของเลขาสาวจอมเฉิ่มแต่แสนน่ารักได้อย่างชัดเจน
“ขอโทษค่ะ วิจะพยายามลุกนะคะ” เธอขยับตัวไปมา ร่างกายท่อนล่างเสียดสีกันมากขึ้น นั่นทำให้ทัพพ์สำนึกว่าควรปล่อยเธอ ไม่ใช่อะไรหรอก ถ้ายังอยู่ในลักษณะนี้ เขานี่แหละจะจับเธอปล้ำทำเมียเสียตั้งแต่ตอนนี้
เขายอมคลายอ้อมแขนออกอย่างแสนเสียดาย ในขณะที่เลขาสาวของเขากำลังควานมือหาแว่นตาหนาเตอะของเธอ
ทัพพ์จัดการหยิบแว่นตาที่หล่นทำตกพื้นขึ้นมาสวมให้เลขาสาว เธอกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะมองใบหน้าของเขาชัดเจนขึ้น
“ขอบคุณค่ะท่านประธาน” ในครานี้แม้จะมีแว่นตาหนาเตอะ แต่เขาก็สามารถมองทะลุแว่นไปถึงความสวยน่ารักของเธอได้
เขาเองก็เพิ่งรู้ว่าเลขาสาวของเขาน่ารักน่าใคร่ขนาดนี้ ปกติสมภารจะไม่กินไก่วัด แต่ไก่วัดตัวนี้เนื้อตัวหอมกรุ่น ชวนเชิญอยากให้เขาได้ลิ้มลองเนื้อแสนหวานเสียเหลือเกิน