“เธอเป็นเพื่อนพี่”
“การออกไปกินข้าวกับเพื่อนคือธุระที่พี่ปฏิเสธหนูเหรอคะ”
“บังเอิญเจอกันเลยชวนกินข้าว ตอนชวนกันกินข้าวหนูก็โทรมาพี่เลยต้องปฏิเสธหนู”
“คงสนิทมากสินะคะ ถึงชวนกันไปเที่ยวค้างคืนต่างจังหวัด”
“ก็ไม่ได้จะไปกันสองคน”
“ที่พี่เทพูดกับหนูอยู่ตอนนี้ มันไม่เหมือนกับที่หนูได้ยินตอนพี่คุยกับเธอเลยนะคะ”
“ถ้าหนูไม่เชื่อพี่ก็ไม่รู้จะทำยังไง”
“งั้นโทรไปหาเธอสิคะ โทรไปคุยต่อหน้าหนูว่าพี่จะเลิกยุ่งกับเธอเพราะหนูไม่สบายใจ”
แต่เธอประเมินตัวเองสูงเกินไป
“อย่างี่เง่าให้มากนะพริม เธอไม่มีสิทธิ์จะมาสั่งให้พี่เลิกคบหรือเลิกยุ่งกับใคร!”
“แล้วทำไมหนูถึงไม่มีสิทธิ์ในเมื่อเราคบกันอยู่ หนูต้องไม่รู้สึกอะไรอย่างนั้นเหรอที่เห็นคนรักตัวเองไปกับผู้หญิงอื่นแล้วพูดคุยกันแบบนั้น!”
“ลองคิดดูดีๆ ว่าที่ผ่านมาพี่เคยบอกรักเธอหรือเปล่า!”
“มะ...หมายความว่ายังไงคะ”
“เธอชอบพี่เข้าหาพี่ พี่สนใจเธอและรับความรู้สึกของเธอไว้ก็เลยสานสัมพันธ์กับเธอแค่นั้น พี่ยังไม่ได้คิดจริงจังว่าคบเธอเป็นแฟนสักครั้ง”
“หนูไม่เข้าใจ”
“ที่ผ่านมามันก็ดีไม่ใช่เหรอ เธอเองก็มีความสุข พี่เองก็มีความสุข แล้วเธอจะเรียกร้องหรือต้องการอะไรมากกว่านี้เพื่ออะไร...”
“พี่ยังคบหากับเธอได้แต่เธอต้องแยกให้ออกว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่ถ้าแยกไม่ได้แล้วมาแสดงสิทธิ์งี่เง่าแบบนี้ก็ยากคุยกันได้”
“พี่เทพูดให้หนูเข้าใจหน่อยได้ไหม หนูไม่เข้าใจที่พี่เทพูด”
“อย่าโลกสวยให้มากเลยพริม การนอนด้วยกันไม่จำเป็นต้องอาศัยความรักเลยสักนิด การรู้สึกดีต่อกันไม่จำเป็นต้องเป็นอะไรกันเลยสักนิด”